ตอนที่ 5 จบตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

1005 คำ
“ทำไมไปนานจังวะไอ้เหนือ” ราวินเอ่ยถามทันทีที่เขานั่งลงประจำที่ “อุบัติเหตุนิดหน่อย” “เห้ย เป็นอะไรวะ เกิดไรขึ้น” “ไม่เป็นไร เดินชนสาวน่ะ” “อะไรวะ ทำหน้าทำตา แกชอบเธอหรอ” “คิดว่าใช่ว่ะ สเปคเลย ใจโคตรเต้นแรงตอนอยู่ใกล้เธอ ถ้าเจอกันอีกครั้งฉันไม่ปล่อยให้รอดไปได้แน่ คนอะไรทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ สายตาก็ดื้อรั้น น่าปราบพยศให้อยู่หมัด” “ไอ้นี่ ทำตัวเหมือนเด็กเพิ่งเคยชอบสาว ใครวะ ได้เบอร์มาป่าว” “ยังไม่ได้ทันถามชื่อเลยว่ะ เธอก็รับโทรศัพท์แล้วรีบร้อนออกจากลิฟต์ไป เธอก็ลงมาชั้นเดียวกับเรานี่แหละ” “เห้ยจริงดิ งั้นเธอก็น่าจะเป็นหมอสูติฯ เหมือนเราแน่ๆ ไหนวะ ฉันช่วยมองหา แต่งตัวแบบไหน” “เดรสเปิดไหล่สีดำแขนยาว ผมสีน้ำตาลทองยาว ม้วนลอนตรงปลาย” “โอ้โห เล่นเอาฉันแทบน้ำลายไหล” ขณะที่หมอหนุ่มทั้งสองหันซ้ายหันขวามองหาสาวปริศนาอยู่นั่น ก็ถูกขัดจังหวะด้วยพิธีการกล่าวต้อนรับคณะสัมมนาโดยทายาทเจ้าของโรงแรม เสียงหวานที่คุ้นหูดังผ่านเครื่องเสียงอย่างดีของห้องจัดเลี้ยง สองหนุ่มหันกลับไปมองด้านหน้าก็ต้องตกตะลึงตาค้างด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกันมากนัก พิชญะจ้องหญิงสาวชุดดำนิ่งงัน สิ่งที่ได้ยินยิ่งทำให้เขาตกตะลึงตัวชาวาบ ดวงตาสั่นพร่ามีน้ำใสๆ เอ่อคลออยู่ มือแกร่งกำปากกาในมือแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เธอคือ ขวัญข้าว ลูกสาวของผู้หญิงร้อยเล่ห์คนนั้น คนที่แย่งพ่อไป ทำให้แม่ต้องพาเขาและน้องหอบผ้าหอบผ่อนย้ายไปอยู่บ้านเก่าของแม่ที่ชานเมือง แม่และน้องของเขาร้องไห้จนแทบเป็นบ้า น้องสาวแทบไม่กินข้าวกินปลา แม่เขาถึงแม้จะพยายามเข้มแข็งต่อหน้าลูก แต่ก็ตรอมใจจนผ่ายผอมแทบเหลือแต่กระดูก ตอนกลางดึกที่เขาลงมาหาน้ำดื่มเขามักจะเห็นแม่แอบมานั่งร้องไห้ที่มุมหนึ่งของห้องรับแขกเสมอ กว่าที่ทุกคนจะผ่านช่วงเวลาอันแสนยากลำบากนั้นมาได้ก็แทบแย่ แล้วเหตุการณ์รันทดหดหู่เดิมๆ ก็กลับเข้ามาฉายซ้ำๆ ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างยังชัดเจน ราวทุกฉากทุกตอนเพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน ราวินเมื่อได้ฟังสาวสวยชุดดำแนะนำตัวเองก็ตกใจ ลักษณะของเธอตรงตามสาวปริศนาที่พิชญะอธิบายมาก่อนนี้ทุกอย่าง ซึ่งนั่นมันก็แน่นอนว่า เธอคือคนๆนั้น ที่เพื่อนเขาเพิ่งตกหลุมรักโครมเบ้อเร่อ เขารู้อยู่หรอกว่าโรงแรมนี้เป็นของใคร แต่ใครจะคิดว่าจะเจ้าของโรงแรมจะมากล่าวต้อนรับคณะสัมมนาด้วยตนเองแบบนี้ เขารู้เรื่องราวในอดีตของเพื่อนดี จึงรีบหันไปมองพิชญะ ก็เห็นหมอหนุ่มกำปากกาแน่น กัดกรามแกร่งจนสันกรามขึ้นนูนก็ตกใจหนักกว่าเดิม รีบก้มไปกระซิบหมอหนุ่มให้ใจเย็นลง เพราะรู้ดีว่าเพื่อนเกลียดครอบครัวนี้มาตลอดชีวิตจนแทบไม่ดูและรับรู้ข่าวสารใดๆ เกี่ยวกับบ้านนี้อีก ต่างจากน้องสาวของเขา เพชรน้ำผึ้ง เธอเสพข่าวคนบ้านนั้นผ่านสื่อเสมอ แม้ว่าใจจะเจ็บปวดเพียงใด แต่เธอบอกว่าเจ็บแล้วจะได้จำและเอาไว้เตือนตัวเอง จะได้ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเราได้ง่ายๆเหมือนเดิมอีก “ไอ้เหนือ แกไหวไหม” ราวินถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง พิชญะไม่ต้องพูดอะไรเขาก็เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าดี “ฉันไหว” “แกแน่ใจนะ ออกไปสูดอากาศข้างนอกไหม ฉันไปเป็นเพื่อน” “ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นอะไร ตอนพักจะเล่าให้ฟัง” จริงๆเขาก็รู้ว่าไม่จำเป็นต้องเล่าอะไรให้ราวินฟังแล้ว เพราะมองตากันก็เข้าใจทุกอย่าง และเขาเชื่อว่าราวินรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นถูกถ่ายทอดให้ราวินฟังทันทีที่พวกเขากินข้าวกลางวันเสร็จ สองหนุ่มปลีกวิเวกออกมานั่งคุยกันที่สวนด้านข้างโรงแรมเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว “แล้วแกจะเอายังไงต่อไปวะ” ราวินเอ่ยถามพิชญะทันทีที่เขาเล่าจบ “ก็ ไม่เอาไง ยังดีที่ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย” เขาพูดพลางถอนหายใจแรงๆ “แต่แกชอบเขามากเลยนี่หว่า” “มันก็เท่านั้น แกก็รู้ดีว่าเพราะอะไร” นั่นเพราะเขาเกลียดครอบครัวนี้เกินกว่าจะให้อภัยทำใจยอมรับลูกศัตรูได้ “แต่ว่าแม่กับลูก มันคนละคนกันนะเพื่อน แกควรแยกแยะให้ออก” “แกจะให้ฉันทำร้ายความรู้สึกของแม่กับน้ำผึ้ง เพราะครอบครัวนี้อีกนะเหรอ แกว่าแม่กับน้องฉันจะรู้สึกยังไงวะ ถ้าฉันกับเธอคบกัน” เหตุผลนี้ทำให้ราวินอึ้งไปเหมือนกัน เพราะนั่นเป็นเรื่องจริงที่สุดที่แม่พลอยและเพชรน้ำผึ้ง ต้องรับไม่ได้และเสียใจมากๆแน่ ถ้ารู้ว่าพิชญะทรยศพวกเธอแบบนั้น “อีกอย่าง แกก็น่าจะได้ยินข่าวซุบซิบเสียหายของเธอ” ถึงแม้เขาจะไม่ได้เสพข่าวอะไรมากนัก แต่เรื่องข่าวกรอสซิปมันก็เข้าหูเขาบ่อยๆ ขนาดในแวดวงหมอพยาบาลก็ตามที สาวๆมักสนใจข่าวดาราไฮโซเซเลปกันทั้งนั้น ข่าวฉาวๆคาวๆของเธอก็เข้าหูเขาเสมอจนเขาแอบแค่นยิ้มหัวเราะสะใจในลำคอทุกครั้งที่ได้ยิน “มันอาจไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้ แกยังไม่ทันได้รู้จักเธอเลย ก็ไปเชื่อข่าวซุบซินั่น” “นี่แกจะแก้ตัวให้เธอทำไม มันยังไม่ได้เริ่มก็ดีแล้ว จะได้ไม่มีอะไรยุ่งยาก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม