คอนโดของรติรัตน์ไม่ได้อยู่ในเครือบริษัทขององศา เมื่อเช้าเขาได้รับรายงานจากลูกน้องมาแล้ว ห้องของเธอเล็กกว่าห้องของเขามาก ทว่าก็เหมาะสมกับผู้หญิงโสดที่อยู่ตัวคนเดียว เขายังไม่รู้เลยว่าเธอทำงานอะไรเพราะยังไม่ถาม แต่หลังจากที่ได้ยินเธอเสนอเงินให้เดือนละสามหมื่นบาท เธอก็น่าจะมีรายได้พอตัว
นัยน์ตาคมกริบกวาดมองภายในห้องแต่งตัวของเธอก็พบเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋ามากมาย ซึ่งถึงจะไม่ใช่แบรนด์เนมทั้งหมด แต่มองดูก็รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักแต่งตัว
เมื่อเช้าองศาแวะไปที่คอนโดเพื่อไปเอาเสื้อผ้ากับของใช้มาไว้ที่ห้องของรติรัตน์บางส่วน เขาเลือกเอาแต่ตัวที่ดูไม่หรูมากไม่อย่างนั้นเธอต้องสงสัยแน่ ช่วงนี้เขามีเวลาว่างสามอาทิตย์ หลังจากนั้นถ้าเราเข้ากันได้ดีหรือเขารู้สึกอะไรกับเธอมากกว่านี้ เขาอาจจะขอเธอเป็นแฟน
องศามองหาที่ว่างในตู้เพื่อจะได้เก็บเสื้อผ้าของเขา จากนั้นจึงเดินออกมาหาผู้หญิงขี้เซาที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง
“พิงค์ครับ ตื่นได้แล้ว สายแล้วนะ”
“ทอยเหรอคะ”
“ครับ ผมเอง”
“กี่โมงแล้วคะ”
“สิบเอ็ดโมงแล้วครับ”
พิงค์ลืมตาตื่นขึ้นมา เห็นชายหนุ่มอยู่ในชุดใหม่ ผู้ชายคนนี้ดูหล่อเหลาตลอดเวลาจริง ๆ ถ้าไม่ติดว่าเขาทำงานกลางคืน เธอคงตกหลุมรักเขาไปแล้ว แต่จะว่าไปมีความสัมพันธ์แบบนี้มันก็ดี จะได้ไม่ต้องมาคอยเอาใจใคร เธอจะได้ยังเป็นตัวของตัวเอง
“ขออาบน้ำแป๊บหนึ่งนะคะ เดี๋ยวเราออกไปซื้ออาหารกับของสดมาไว้ทำกับข้าวกันค่ะ แล้วนี่ทอยไปเอาเสื้อผ้ามาจากไหนคะ กลิ่นน้ำหอมนี้หอมจังเลยค่ะ พิงค์ชอบผู้ชายตัวหอม” หญิงสาวแย้มยิ้มหวาน
“ผมกลับห้องไปเอาของตั้งแต่เช้าแล้วละ ตอนคุณหลับ ผมจะใส่ให้คุณหอมตลอดเวลาเลยครับ”
“ดีจริง ๆ เลยค่ะ ที่ตอนนี้คุณย้ายมาอยู่กับพิงค์แล้ว... ทอยคะ ถ้าอนาคตทอยเบื่อพิงค์หรืออยากไปจากที่นี่ก็บอกพิงค์ตรง ๆ ได้นะคะ พิงค์ขอแค่อย่างเดียว อย่าหักหลังพิงค์ค่ะ แล้วก็ห้ามให้สาว ๆ หรือไม่สาวมาจับตัวทอยอีกนะคะ เพราะทอยเป็นของพิงค์ ของพิงค์แค่คนเดียว”
“ผมสัญญาครับ ว่าผมจะเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์กับพิงค์คนเดียว”
“เวอร์เกินค่ะทอย... ไม่ใช่ทาส เอาเป็นว่าเราอยู่ด้วยกันด้วยความสมัครใจ เพราะเราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้ว วินวินทั้งสองฝ่ายค่ะ”
“เอาตามที่พิงค์ว่าเลยครับ”
“พิงค์อยากใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้ว เมื่อก่อนต้องคอยมาเอาใจคนอื่น ตอนนี้พิงค์จะไม่สนใจใครแล้วค่ะ ช่างมันจริง ๆ”
หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาถึงห้างในเวลาเกือบบ่ายสองเพราะรถติด รติรัตน์จึงพาองศาไปร้านอาหารก่อน เพราะตอนนี้เธอหิวมาก
ตลอดเวลาในร้านอาหารพวกเขาคุยสัพเพเหระด้วยกันและได้รู้ว่าอาหารแบบไหน รสชาติใดที่อีกฝ่ายชอบหรือไม่ชอบ คุยกันสักพักพนักงานก็ทยอยนำอาหารมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ
“ทานเยอะ ๆ นะครับ” องศากล่าว ขณะตักอาหารให้รติรัตน์
“ถ้าทานเยอะแล้วพิงค์อ้วน ทอยจะยังกล้าเดินกับพิงค์ไหมคะ”
“คุณไม่มีทางอ้วนหรอกครับต่อให้ทานเยอะ เพราะโครงสร้างของคุณ... และที่คุณถามผม ผมกล้าเดินกับคุณแน่นอน การที่ผมคบกับใครไม่ได้เกี่ยวกับหน้าตาเป็นหลักนะครับ ผมดูภาพรวมด้วย คุณเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคน”
“รู้สึกว่าตัวเองสวยอย่างเลอค่ายังไงก็ไม่รู้นะคะ พิงค์ว่าทอยปากหวาน เพราะอาชีพของทอยต้องพูดเอาใจคนอื่น”
“ผมปากหวานแค่กับพิงค์คนเดียว อยากพิสูจน์ไหมครับ” สายตาพราวระยับของทอยที่ส่งมาทำให้รติรัตน์ถึงกับเขินราวกับเธอเป็นแฟนเขาอย่างไรอย่างนั้น
Rrr Rrr!
จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์ของรติรัตน์ดังขึ้น เธอจึงยกมันขึ้นมาดู ก็เห็นว่าเป็นสายจากเพื่อนสนิท เธอจึงกดตัดสายและส่งข้อความทางไลน์ไปหาเพื่อนแทน ซึ่งเธอลืมไปเสียสนิทว่านัดกับเพื่อนไว้ว่าจะไปคอนโดของเปรมวันนี้ ทว่าตอนนี้คงไม่ต้องไปแล้วละ เพราะเมื่อคืนนี้เปรมบุกมาหาเธอถึงห้อง รอแค่ว่าเขาจะค*****นเธอตามกำหนดหรือเปล่า
“ไม่รับเหรอครับ”
“เพื่อนพิงค์โทรมาค่ะ พอดีเมื่อคืนก่อน นัดกันว่าจะไปคอนโดของแฟนเก่าพิงค์เพื่อเคลียร์กัน แต่ตอนนี้ไม่ต้องไปแล้วเพราะเมื่อคืนเขาบุกมาหาถึงที่ห้อง”
“ถ้าเขามาหาเรื่องพิงค์อีก บอกผมนะครับ ผมจะจัดการให้”
“ขอบคุณค่ะ ถ้าเขายังกล้ามาตามตอแยพิงค์อีก เขาก็คงจะหน้าด้านมาก ๆ เลยนะคะ”
หลังจากทานข้าวเสร็จ รติรัตน์ก็พาองศาไปเดินเลือกซื้อของด้วยกันกระหนุงกระหนิงอย่างกับคู่แต่งงานใหม่ เสร็จจากซื้อของทั้งสองก็พากันไปดูหนังต่อ หลังจากนั้นถึงค่อยกลับคอนโด
“พรุ่งนี้พิงค์ต้องทำงาน นอนดึกไม่ได้นะคะ” เธอว่า
“ผมยังไม่รู้เลยว่าพิงค์ทำงานอะไร”
“พิงค์เป็นผู้ช่วย บก. ทอยเคยได้ยินหนังสือชื่อ Close up ไหมคะ”
“เคยได้ยินผ่าน ๆ หูน่ะครับ ว่าแต่คุณ... ทำมานานหรือยัง” ที่บอกว่าเคยได้ยินเพราะหนังสือเล่มนี้มาจากประเทศอังกฤษ เขาจึงได้แต่ส่งยิ้มน้อย ๆ ให้เธอ
“ทำมานานแล้วค่ะ ตั้งแต่เรียนจบเลย”
“คุณคงชอบงานนี้มากเลยนะครับถึงได้ทำมานาน... คุณไม่คิดอยากเปลี่ยนงานบ้างเหรอครับ”
“งานนี้ก็สนุกดีค่ะ มีอะไรใหม่ ๆ มาให้ทำได้ตลอดเลยไม่ค่อยเบื่อ บางทีพิงค์ก็ออกสนามไปสัมภาษณ์งานเอง บางทีก็มีคนอื่นไปทำ... แต่หลัก ๆ พิงค์จะอยู่ที่ออฟฟิศ ช่วงที่พิงค์ไปทำงาน ทอยจะออกไปข้างนอกก็ได้นะคะ คีย์การ์ดของทอยวางอยู่บนโต๊ะค่ะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาพิงค์หรือส่งข้อความหาได้ตลอด”
“รับทราบครับ ไปอาบน้ำเถอะครับ จะได้รีบมานอน” ได้ยินดังนั้นรติรัตน์จึงเดินไปอาบน้ำ ขณะที่องศาก็เดินออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง พลางใช้ความคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะทำอะไรบ้าง เพราะถ้าจะให้อยู่แต่ในห้องตลอดเวลาคงน่าเบื่อแย่ หรือเขาจะเลื่อนเข้ารับตำแหน่งให้เร็วขึ้นดี ถ้าพ่อของเขาได้ยินท่านคงจะดีใจมาก