วิญญาณของจางฮุ่ยเหมยไม่มีโอกาสร่ำลาครอบครัวแม้แต่น้อย
เพราะทันทีที่เธอหมดลมหายใจ วิญญาณของเธอทะลุเวลาย้อนมาอยู่ในยุคโบราณ เข้ามาอยู่ในร่างของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งทันที
ลมหายใจเฮือกแรกตอนที่เข้ามาในร่างนี้ ทำให้จางฮุ่ยเหมยลืมตาโพลงขึ้น
อาการแรกคือปวดหัวแทบระเบิด อาการปวดตุบ ๆ นี้มาพร้อมกับเรื่องราวมากมายที่ผุดขึ้นมาในสมองของเธอ จนเธอทนรับไม่ไหวและหมดสติไปอีกครั้ง
ในช่วงเวลาที่ไม่รู้สึกตัวเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น จางฮุ่ยเหมยไม่แน่ใจว่าคือความจริงหรือความฝัน
เพราะตอนนี้ตรงหน้าเธอ คือผู้ชายวัยกลางคนใส่ชุดจีนโบราณสีขาว ผมยาว หน้าตาน่าเกรงขาม เขาแนะนำตนเองว่าเป็นผู้นำวิญญาณ
“คุณมารับวิญญาณของฉัน พาไปเกิดใหม่เหรอคะ” จางฮุ่ยเหมยเอ่ยถามผู้นำวิญญาณ
เพราะจากที่เธอเห็นตอนรู้สึกตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ เธอรู้เลยว่าหากเกิดใหม่อยู่ในยุคโบราณที่ไม่แน่ใจว่ายุคไหน เธอต้องแย่แน่
ถ้าเลือกได้เธอจะต่อรองให้ได้ไปเกิดที่อื่นที่ใกล้เคียงกับยุคสมัยที่เธอจากมา
แต่การส่ายหน้าและคำตอบของผู้นำวิญญาณ ทำให้เธอต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรมนี้โดยไม่มีข้อโต้แย้งใด
“ใช่ ข้ามารับเจ้าไปเกิดใหม่ แต่เพราะเจ้าเคยฆ่าคนจำนวนมากตอนมีชีวิตอยู่ แม้จะเป็นเพราะการทำงานแต่ก็ถือว่าสร้างบาปจากการพรากชีวิต จะไปเกิดใหม่เลยไม่ได้ ข้าจะให้เจ้าได้สร้างคุณงามความดี ด้วยการช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งให้มีชีวิตที่ดีขึ้น บาปที่เจ้าได้สร้างมาถึงจะลดลงพอจะไปเกิดใหม่ได้” ผู้นำวิญญาณเอ่ยออกมา
“ฉันจะช่วยใครได้ ตอนนี้ฉันเป็นแค่วิญญาณ”จางฮุ่ยเหมยตอบกลับด้วยความงุนงง
“ข้าจะให้เจ้าอยู่ในร่างที่เจ้าเจอตอนรู้สึกตัวก่อนหน้านี้ ครอบครัวนี้ต้องมอบให้เจ้าแล้ว เมื่อเจ้าหมดอายุขัยจากชาตินี้ จึงจะไปเกิดใหม่ในชาติหน้าได้”
“แต่ร่างนั้นจะรอดเหรอคะ ฉันว่าเข้าร่างเพื่อไปตายอีกรอบมากกว่า ดูท่าว่าร่างนั้นป่วยใกล้ตายแล้วนะคะ” จางฮุ่ยเหมยเอ่ยแย้งขึ้นมาทันที
“เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะมีตัวช่วยให้เจ้าได้นำไปช่วยเหลือคนในครอบครัวนี้และคนอื่น ที่เจ้าพอจะช่วยได้ เจ้าลองแตะลงบนไฝสีแดงตรงข้อมือซ้ายด้านในของเจ้า”
จางฮุ่ยเหมยผู้ไม่เคยมีไฝสีไหนมาก่อนเลย พลิกดูข้อมือซ้ายกลับพบไฝสีแดง
แต่ดูแล้วเป็นแค่จุดสีแดงมากกว่า จางฮุ่ยเหมยเริ่มทำตามที่ผู้นำวิญญาณบอก
ทันทีที่เธอแตะลงไปตรงจุดสีแดงบนข้อมือซ้าย กลับรู้สึกเหมือนกับร่างทั้งร่างถูกดูดไปอยู่ในอีกที่หนึ่ง
ผู้นำวิญญาณบอกว่าที่นี่คือมิติ ที่จะติดตัวของเธอไปจนกว่าเธอจะสิ้นอายุขัย
จางฮุ่ยเหมยมองไปรอบมิติที่เธอเข้ามา สถานที่นี้ใหญ่พอสมควร กะด้วยสายตาน่าจะมีพื้นที่ประมาณสองไร่ บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย
โดยรอบก็สวยงามมีน้ำตกที่ผู้นำวิญญาณบอกว่าเป็นน้ำวิเศษ ดื่มแล้วหายป่วยและแข็งแรงขึ้น
ทั้งยังมีสรรพคุณในการช่วยชีวิตจากบาดแผล และยาพิษทุกชนิด
รอบบริเวณเป็นผลไม้หลากพันธุ์ที่มีผลเต็มต้น ผลที่สุกแล้วล้วนส่งกลิ่นหอมหวานออกมา ตามลำต้นของไม้ผล มีกล้วยไม้ออกดอกเต็มทุกต้น
ใต้ต้นผลไม้ปกคลุมไปด้วยพืชสมุนไพรหายากมีทั้งโสม เห็ดหลินจือ และถั่งเช่า
แถมในมิตินี้มีกระท่อมหลังเล็กให้เธอด้วย เสียงจากผู้นำวิญญาณบอกว่าในกระท่อมไม่มีอะไร เป็นแค่ที่สำหรับจัดเก็บสิ่งของที่เธอจะเอาเข้ามาในมิติ
กระท่อมนี้สามารถขยายขนาดตามของที่เอาเข้ามาไว้ในกระท่อมด้วย
ซึ่งแค่นี้จางฮุ่ยเหมยก็รู้แล้วว่าเธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายแล้วในชาตินี้
จางฮุ่ยเหมยคิดว่าเอาล่ะ เมื่อกลับไปไม่ได้แล้ว เธอจำเป็นต้องยอมรับและพร้อมที่จะทำให้ชีวิตของครอบครัวใหม่นี้ดีขึ้นให้ได้
เธอเดินตรงเข้าไปริมฝั่งน้ำตก วักเอาน้ำขึ้นมาดื่ม รู้สึกว่าน้ำในมิติอร่อยชื่นใจมาก
เธอเก็บผลไม้สุกมากินอีกลูก มันมีรสชาติดีมาก แค่หนึ่งลูกเธอก็รู้สึกอิ่ม
สาเหตุที่จางฮุ่ยเหมยรีบกินของในมิติ เพราะผู้นำวิญญาณบอกไว้ว่าตอนเธอฟื้นในร่างใหม่เธอจะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดอีก
แม้ปกติเธอจะเจ็บตัวบ่อย ๆ ตอนฝึกในหน่วยพิเศษ เจ็บหนักแค่ไหนเธอทนได้หมด แต่ตอนเข้าร่างใหม่ในชาตินี้ เธอเข้าใจเลยว่าคนที่ทนความเจ็บปวดไม่ไหวแล้วตายเป็นอย่างไร