จนตอนนี้แต่งหน้าทำผมเรียบร้อยแล้วก็ยังติดต่อกับอาทิตยะไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะเป็นอย่างไร และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อดี... จันทร์เจ้าขากังวลมากกว่าน้องสาวของหล่อนเสียอีกเมื่อเวลางวดเข้ามาทุกขณะ ดูเหมือนว่าจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว...
น้ำตาลก็ดูเหมือนอยากจะถามเรื่องที่มาที่ไปว่าทำไมเจ้าสาวของน้ำเงินถึงได้กลายเป็นรัศมีดาราได้... แต่เพราะว่ามีคนนอกอย่างช่างแต่งหน้าเลยไม่ได้ถามอะไร น้ำตาลเชื่อว่าญาติๆ ทุกคนจะงุนงง และไม่ได้คำตอบ จนกว่าพิธีวิวาห์จะจบลงและเหลือกันแต่เพียงครอบครัวแล้วเท่านั้นน้ำเงินถึงจะยอมเปิดปากเรื่องเจ้าสาวผิดฝาผิดตัว...
สุดท้ายรัศมีดาราก็ต้องแต่งงานกับน้ำเงิน... นอกจากแขกจะตะลึงพึงเพริดแล้ว ทางฝั่งผู้จัดการส่วนตัวและพนักงานออกแกไนซ์ที่รู้จักรัศมีดาราดีต่างก็อึ้งงัน บางคนแอบเก็บภาพดาราสาวกันใหญ่... รัศมีดาราก้มหน้ารับชะตากรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หล่อนอาจจะเป็นเจ้าสาวที่สวยมากเพราะดวงหน้าสวยหวานงดงามเป็นทุนเดิม... แต่ว่ารัศมีความเป็นเจ้าสาวคงไม่มีทางแผ่กระจายบนดวงหน้าหล่อนเพราะข้างในใจไม่มีความรู้สึกดีจากการได้เป็นเจ้าสาวเลยสักนิดเดียว
หล่อนยืนอยู่ข้างคนที่หล่อนแทบไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวอย่างน้ำเงิน พี่อาร์ตผู้จัดการส่วนตัวของหล่อนถูกเชิญให้เป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหล่อนแบบบงงๆ เพราะยังไม่ทันมีใครอธิบายเรื่องแต่งงานให้ฟัง เขายังต้องมานั่งเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายรัศมีดาราให้ ยังดีที่น้ำเงินยังพอแสดงความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้างที่บอกกับพี่อาร์ตว่าเขาจะอธิบายทุกอย่างหลังจากพิธีการเรียบร้อยทุกอย่างพี่อาร์ตถึงยอมร่วมมือด้วยแม้ว่ายังกังขาอยู่...
คนเป็นเจ้าสาวรู้สึกว่านี่มันร้ายแรงกว่าถ่ายละครตรงที่ในกองถ่ายหากมีฉากแต่งงานหล่อนยังพอรู้ว่าจะเข้าฉากกับใครบ้างและรู้จักกันมาก่อน แต่ละครฉากนี้หล่อนเหมือนเดินหลงมาเข้าฉากแล้วได้รับบทเป็นเจ้าสาวโดยไม่รู้ว่าบทต่อไปจะเป็นอย่างไรเลย
นี่มันตลกร้ายชัดๆ หากเมื่อวานมีคนมาบอกหล่อนว่าหล่อนจะเข้าพิธีแต่งงานกับเทพบุตรดำอย่างน้ำเงินหล่อนคงหัวร่องอหงายให้ตายกันไปข้าง
แต่เพราะว่าเรื่องนี้มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ต่อหน้า รัศมีดารายอมรับอย่างไม่อายใครว่า ตอนนี้ หล่อนหัวเราะไม่ออกเลยสักนิดเดียว...