"น้องไอติมรอพี่แนนตรงนี้นะคะ"
หญิงสาวบอกกล่าวเมื่อมาถึงห้องน้ำหญิง
"น้องไอติมเข้าไปด้วยได้ไหมคะ?...ไม่กล้าอยู่คนเดียว" เด็กหญิงเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในห้องน้ำ
ดวงตากลมเงยมองหญิงสาวที่ตัวสูงอย่างร้องขอ เมื่อเธอนั้นไม่อยากรอข้างนอกคนเดียว
"ก็ได้ค่ะ ทำไมอ้อนเก่งจังเลย หื้ม..."
หญิงสาวที่เอ็นดูเด็กหญิงขยี้หัวเธออย่างหมั่นเขี้ยว
"ไอติมอยากอ้อนพี่แนนทุกวันเลยนะ
อยากให้พี่แนนรัก...พี่แนนใจดี" เด็กหญิงว่ากล่าวพร้อมมองหน้าแนนตาใส
แววตาที่จ้องมองเหมือนเธอนั้นแอบแฝงความหวัง...
"พี่แนนก็รักน้องไอติมนะ" หญิงสาวนั่งยอง ๆ
ลงตรงหน้าเด็กหญิงพร้อมหยิบพวงแก้มกลมนั้นเบา ๆ
"รักคูมพ่อด้วยไหมคะ...คูมพ่อน้องไอติมหล่อ"
เด็กหญิงพูดออกมาอย่างเดียงสา แม้จะไม่รู้ความของมันแค่ได้ยินผู้ใหญ่พูดคุยแล้วเธอก็จำมาเท่านั้น
คำว่า รัก ที่เด็กหญิงพูดถึงด้วยความไร้เดียงสา แต่มันกลับทำให้หญิงสาวนั้นสับสนและใจเต้นแรงอยู่ภายใน แต่ว่าตั้งแต่ก้าวขามาฝึกงานการใกล้ชิดหรือการแสดงออกที่แสนอบอุ่นจะทำให้ใจเธอไขว้เขวก็ตาม แต่ด้วยตำแหน่งที่ไม่อาจเอื้อม จึงทำให้แนนนั้นเจียมตัว
"พี่แนนว่าเราไปเปลี่ยนเสื้อดีกว่า แต่ว่าไอติมต้องหลับนะ"
หญิงสาวออกคำสั่งอย่างเบี่ยงเบียนเมื่อเด็กหญิงนั้นเอ่ยถึงคุณพ่อของเธอ
"โอเคค่า...น้องไอติมจะปิดตาไว้แบบนี้เลย"
เด็กหญิงทำมือปิดตา แต่ว่ากลับมีช่องว่างระหว่างนิ้ว ทำเอาแนนที่เห็นท่าทีของเด็กหญิงแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้
"ปิดแบบนั้นก็เห็นสิคะ" แนนทักท้วง
"ไม่เห็นน้องไอติมหลับตาไว้ด้วย ไม่เห็น ๆ"
เด็กหญิงยังคงยืนกรานต่อสิ่งที่เธอนั้นทำ
"ไปดีกว่า"
"รอน้องไอติมด้วย" เด็กหญิงรีบวิ่งตามเมื่อเห็นนั้นทำท่าจะปิดประตูดักเธอ
"หันหน้าเข้าประตูเร็วค่ะ...พี่แนนจะเปลี่ยนเสื้อแล้ว"
แนนออกคำสั่งเมื่อเข้ามายังห้องน้ำคับแคบ แล้วเธอนั้นเอาแต่จ้องมองหน้าแนนพร้อมกับอมยิ้ม
เด็กหญิงปิดตาตามที่แนนสั่งพร้อมหันหน้าเข้าผนังอย่างว่าง่าย แนนเริ่มจัดการถอดเสื้อผ้า แต่หารู้ไม่ว่าเด็กหญิงที่แสนกลนั้นลอบแอบมองเธอถอดเสื้อผ้า
สายตากลมมองผ่านง่ามนิ้วมือป้อม ๆ ด้วยความอยากรู้ สิ่งที่เห็นทำให้เด็กหญิงนั้นสงสัยพร้อมกับก้มมองส่วนอกของตัวเองที่มันดูแตกต่าง
"เสร็จแล้วค่ะ เอามือออกได้" แนนบอกกล่าวเด็กหญิงจึงส่งยิ้มอ่อน
"ทำไมพี่แนนสวย" เด็กหญิงเอ่ยปากชม ทำเอาคนที่ถูกเด็กชมนั้นแก้มแดง
"สวยเหมือนไอติมไงคะ" หญิงสาวชมตอบอย่างเอาใจเด็กหญิงตัวน้อยที่สดใส
"ไปกันดีกว่าเนาะ เดี๋ยวพี่แนนต้องออกไปทำงาน"
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก
หญิงสาวที่มือหนึ่งจูงเด็กหญิงออกมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส
ต้องชะงักขาเดินทันทีเมื่อมีคู่อริที่เคยทำร้ายเธอยืนดักหน้าไว้
พร้อมด้วยสายตาที่มองเธออย่างหาเรื่อง เด็กหญิงที่ถูกแนนดันให้ไปอยู่ด้านหลัง ขาก้าวถอยหลังเมื่อผู้หญิงสองคนที่เคยหาเรื่องเธอค่อย ๆ
ก้าวขาเข้ามาใกล้ ประตูห้องน้ำถูกปิดล็อกอย่างกันคนนอกเข้ามา
"เจอกันอีกแล้วนะ" น้ำที่เคยกระชากเสื้อเธอขาดเอ่ยขึ้นพร้อมก้าวขาทีละก้าวเข้าประชิดตัวแนน
"แนนไม่อยากมีเรื่องนะพี่ หลบไป" แนนบอกอย่างคนในเย็นพร้อมขาที่ก้าวถอยหลังอย่างระวัง และเธอต้องป้องกันเด็กหญิงตัวน้อยที่ติดสอยห้อยตามเธอมา เด็กหญิงโผล่นางออกด้านข้างมองเหตุการณ์อย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
"หมั่นไส้!!...จับมัน"
น้ำออกคำสั่งกับคู่หูอีกคนที่มาด้วยกัน
"ปล่อยแนนนะ" แนนที่ไม่ทันตั้งตัวร้องขึ้นและพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้น
"งื้อ ปล่อยพี่แนนนะ ปล่อยพี่แนนเดี๋ยวนี้" เด็กหญิงที่เห็นแนนนั้นดิ้น
เธอพยายามที่จะช่วยเหลืออย่างไม่คิดกลัว จับถึงชายเสื้อของน้ำด้วยแรงน้อยนิดของเธอ
"ขอตับสักทีแก้คันมือหน่อยเถอะมึง!!"
"จัดการมันเลยพี่น้ำ" เสียงของคู่หูของน้ำส่งเสริม แรงจับล็อกไขว้แขนแนนไปด้านหลังทำให้เเนนนั้นไม่สามารถหลุดพ้น
แม้จะออกดิ้น
"อึก!! อื้อ ปะ ปล่อยแนน" แขนก็ถูกล็อก คอก็ถูกน้ำบีบด้วยสองมือ จนแนนที่ตอนนี้แทบขาดอากาศหายใจ
"งื้อ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะป้า ปล่อยพี่แนน...นี่แน่ ๆๆ"
เด็กหญิงไอติมพยายามอย่างมากที่จะช่วยแนน กำปั้นเล็ก ๆ พยายามตีไปยังคนที่ตัวใหญ่
แต่แรงเด็กอย่างเธอก็ไม่สามารถที่จะทำให้น้ำนั้นปล่อยพี่แนนของเธอ
"ไอติม ละ หลบไป อึก !!" แนนพยายามเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างห่วงใยเมื่อเด็กหญิงนั้นพยายามที่จะช่วยเหลือเธอ
"เด็กนี่!!" น้ำที่ถูกฉุดรั้งด้วยมือน้อย ๆ ของเด็กหญิงไอติม สะบัดขาแรงจนเด็กหญิงนั้นกระเด็นกระแทกกับพื้น
"อร๊าย!!!....ฮืออออ งื้อ ๆ พี่แนน ไอติมเจ็บ"
เด็กหญิงตัวเล็กที่เจ็บจากการกระแทกร้องครวญอย่างตกใจ เธอไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์ที่รุนแรงแบบนี้มาก่อน
เพี๊ยะ!!!! เพี๊ยะ!!!! เสียงฝ่ามือกระแทบกับใบหน้าสวยเสลาของแนนติดกันสองที จนใบหน้าเธอนั้นหันไปตามแรงตบ กลิ่นคาวเลือดอ่อนลอยฟุ้งเข้าจมูก มุมปากมีเลือดไหลซึม
"งื้อพี่แนน...งับ!!"
"โอ๊ย นังเด็กบ้า...ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ฉันเจ็บ"
งับ!! เด็กหญิงตัวน้อยที่เห็นแนนถูกทำร้าย เธอรีบหยัดตัวลุกแล้ววิ่งไปกัดขาของน้ำด้วยแรงน้อยนิดที่เธอมี และลงน้ำหนักของฟันฝังลงขาของน้ำอีกครั้งจนเต็มแรง
"ไอติม แค่ก ๆ "
แนนที่พยายามดิ้นจนหลุดพ้นจากการจับกุมเมื่อเห็นเด็กหญิงนั้นถูกทำร้าย
แม้จะหายใจติดขัดเพราะแทบขาดอากาศหายใจ
ร่างกายโยนไอออกมาและสูดอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด
"จะไปไหนมานี่..."
เพี๊ยะ คู่หูของน้ำกระชากผมของแนนกลับพร้อมกับตบเข้าที่หน้าอีกครั้งจนเต็มแรง
"ไอติม หลบค่ะ ไปหาพี่แจง"
แนนที่ถูกรุมตบด้วยความริษยาของรุ่นพี่ ใบหน้าสวยแดงเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้า มุมปากมีเลือดไหลออกมากกว่าเดิม
"ฮือออออ พี่แนน" เด็กหญิงปล่อยปากที่กัดน้ำ แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องน้ำตามที่แนนบอก เด็กหญิงดวงตาแดงก่ำเพราะร้องไห้หนัก แม้เธอจะเจ็บตัวเพราะถูกเหวี่ยงแต่ก็ยังออกแรงวิ่งไปตามที่แนนนั้นบอก
เมื่อเห็นแล้วว่าเด็กหญิงนั้นไปจนลับตา แนนที่กำลังถูกทำร้ายออกแรงสุดฤทธิ์เพื่อสะบัดตัวให้หลุดพ้นจากการถูกรุม
เธอยกขาสูงถีบเข้าตรงออกของน้ำ
กระโปรงทรงพีชที่ถนัดในการยกขาทำให้เธอตอบโต้ได้อย่างคล่องตัว
"โอ๊ย นังแนน" น้ำโอดครวญเมื่อแรงถีบทำให้เธอนั้นเซถลาท้องกระแทกเข้ากับของอ่างล้างมือ
เพี๊ยะ แนนสะบัดตัวหันไปพร้อมกับฝ่ามือปะทะเข้ากับใบหน้าที่ฉาบด้วยเครื่องสำอางของคู่หูที่น้ำพามา ตามคาบคร่อมและจิกหัวกระแทกกับพื้นห้องน้ำ
"พี่น้ำช่วยพีชด้วย" คู่หูที่ชื่อพีชร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเธอนั้นพลาดท่าต่อแนน ใบหน้าของพีชเริ่มเห่อแดงด้วยแรงตบของแนนที่ไม่มียั้ง เพราะเธอก็ไม่ยอมเช่นกันหากใครทำร้ายและหาเรื่องเธอก่อน
"ปล่อยเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้นะ นังแนน!" น้ำที่พยายามฝืนตัวมือกุมท้องผลักแนนให้หลุดพ้น แต่ด้วยแรงที่น้ำนั้นมีไม่สามารถที่จะกำจัดแนนที่มือเหนียวยิ่งกว่าตุ๊กแกออกได้
"อ๊ะ!!" แนนที่ถูกน้ำดึงผมจนแทบหงายหลัง แต่เธอก็ยังไม่หยุดตบพีชเพื่อนของน้ำ มือหนึ่งของแนนดึงผมของพีช ขาสองข้างกดน้ำหนักลงแขนของพีชเพื่อไม่ให้เธอโต้ตอบ อีกมือก็พยายามแกะมือของน้ำจากผมของเธอและจิกเล็บลงแขนของน้ำสุดแรง ทั้งสามฉุดกระชากโต้ตอบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร....
“คูมพ่อ คูมพ่อขา งื้ออ ฮือออออ” เด็กหญิงที่วิ่งด้วยความเร็วเท่าที่ขาสั้น ๆ ของเธอจะออกแรงก้าวได้ ร้องเรียกผู้เป็นพ่อเมื่อสายตาเห็นผู้เป็นพ่อกำลังเดินมาทางเธอพอดี
“ไอติม!! ไปทำอะไรมาลูกทำไมหัวฟูแบบนี้” คุณพ่อเจที่เห็นลูกสาวในสภาพที่ไม่เหมือนเดิม เกิดการตกใจเมื่อเธอนั้นร้องไห้ฟูมฟาย น้ำตาไหลอาบสองแก้มกลม รีบวิ่งเข้าประชิดตัวลูกสาวและนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเธอ
“ฮือ ฮือ คูมพ่อขา ไอติมเจ็บ เจ็บตูด” เด็กหญิงบอกผู้เป็นพ่อทั้งน้ำตา
“ไปทำอะไรมา...ไหนเจ็บตรงไหนบอกพ่อ” ผู้เป็นพ่อที่เห็นลูกสาวนั้นร้องไห้จนดวงตาแดงก่ำ จับเธอพลิกซ้ายแลขวาอย่างสำรวจร่างกาย ลำแขนเล็กเกิดรอยช้ำเล็กน้อย
“ฮือ คูมพ่อขา พี่แนนค่ะ มีคนตีพี่แนน อึก ฮึก เลือดไหลเลย ฮืออออ พะ พี่แนนเจ็บ” เด็กหญิงที่สะอึกสะอื้นร้องไห้ฟ้องผู้เป็นพ่อ คำพูดที่เปล่งออกมาทั้งน้ำตาจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ผู้เป็นพ่อก็พยายามที่จะจับใจความ
“ที่ไหนลูก” คุณพ่อเจย้อนถามสิ่งที่ลูกสาวบอกกล่าวทำให้พ่อเจนั้นใคร่รู้
“ตรงนั้น อึก ฮึก ที่พี่แนนใส่เสื้อใหม่ ฮือ ไอติมเจ็บ” เด็กหญิงร้องไห้กอดคอผู้เป็นพ่อด้วยต้องการการปกป้อง
“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะ...ไม่กลัวนะ”
“พี่แนนเจ็บค่ะคูมพ่อ อึก ฮึก ฉองคนตีพี่แนน ฮืออออออ...คูมพ่อ ปะ ไป อึก ฮึก ไปช่วยพี่แนน” เด็กหญิงสาธยายกล่าวฟ้องกับเหตุการณ์ที่เธอนั้นพบเจอมาและร้องขอให้ผู้เป็นพ่อช่วยเหลือหญิงสาวที่ตอนนี้โดนรุมหนัก ไม่รู้สภาพจะเละเทะแค่ไหน
“ค่ะ คนเก่งไม่ร้องนะ...” คุณพ่อเจเช็ดน้ำตาให้ลูกสาวและอุ้มเธอแนบอก ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินไปด้วยใจว้าวุ่นกับสิ่งที่ลูกสาวเล่าให้ฟัง ไม่คิดว่าในออฟฟิศที่เขาพยายามดูแลจะเกิดการวิวาทในสำนักงานของเขา ทั้งที่พยายามดูแลฉันท์พี่น้องไม่คิดจะแบ่งแยกสูงต่ำ แต่ทำไมยังมีการะทำแบบนี้ก่อเกิด
“ฮือออออ” ขายาวของพ่อเจกึ่งเดินกึ่งวิ่งอย่างร้อนใจ เสียงร้องไห้ของลูกสาวก็ดังใกล้หู ดั่งเธอนั้นหวาดกลัวและเจ็บปวดกับบาดแผลที่ได้รับ ทำให้คนเป็นพ่อที่เฝ้าดูแลยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมนั้นไม่พอใจและโมโห แต่ก็พยายามเก็บอาการควบคุมอารณ์อย่างมาก
.....หน้าห้องน้ำหญิงที่ผู้คนรายล้อมยืนมุงดู ก่อนที่พ่อเจจะเดินแทรกฝ่าฝูงชน เหตุการณ์ตรงหน้าทำเอาพ่อเจถึงกับตาโต หญิงสาวในคราบชุดนักศึกษา มีใบหน้าบวมแดงปากแตก ที่กำลังโดนรุมทำร้ายร่างกาย
“หยุด!!...หยุดเดี๋ยวนี้!!” เสียงเข้มดุของเจดังขึ้นทำให้คนทั้งสามนั้นหยุดการกระทำ
“พี่เจ” น้ำที่เคยหน้ามองคนมาใหม่ต้องตกใจ เพราะผู้เป็นนายจ้างนั้นดวงตาฉายแววแทบลุกเป็นไฟ
.....น้ำสะกิดแขนของพีชอย่างเตือน เพราะพีชนั้นคาบคร่อมตบหน้าของแนนอยู่ด้วยความริษยา ทั้งสองรีบดีดตัวออกจากตัวแนนเร็วพลัน พร้อมกับลุกยืนเคียงคู่กันหลังชิดกับผนังห้องน้ำ
“มันเกิดอะไรชึ้น!! มีใครอธิบายกับพี่ได้บ้าง” เจตวาดเสียงเข้มดุดังลั่น จนสองสาวคู่หูนั้นตัวสั่น เพราะไม่เคยเลยที่จะเห็นมุมที่ดุดันของเจแบบนี้
แนนพยายามที่จะขยับตัวลุกยืน แต่ด้วยสภาพที่โดนรุมจนเละเทะ ผมเผ้าฟูฟ่องมุมปากที่มีเลือดไหล พวงแก้มที่เคยสวยสดบวมช้ำจนแทบดูไม่ได้ แก้มสองข้างเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ เจที่อีกแขนอุ้มลูกสาวต้องใช้อีกมือประคองแนนที่เจ็บให้ลุกยืนได้ถนัด
“ฮือออออ พี่แนน อึก อึก” เด็กหญิงไอติมที่ร้องไห้ไม่หยุด ยิ่งร้องหนักเมื่อเธอเห็นสภาพพี่แนนที่เธอรักนั้นมีบาดแผลและเลือด
“ไอติมไม่กลัวนะคะ” แม้จะเจ็บตัวแต่ก็ไม่วายห่วงเด็กหญิงที่เธอนั้นเอ็นดู
“พีช ! น้ำ ! .... แนน! มีใครอธิบายให้พี่ฟังได้บ้าง” เจไล่สายตากวาดมองคนทั้งสามอย่างต้องการคำอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้น สายตาหันกลับมามองแนนที่ยืนมือจับแก้มที่บวมช้ำ ความห่วงใยที่มีก่อเกิดขึ้นในใจ เพราะสองคนที่ยืนเงียบนั้นยังดูดีกว่าแนนมาก
“............” ผู้ก่อเหตุทั้งสามยังคงเงียบไม่ยอมปริปากพูด
“คูมพ่อ อึก ๆ ป้าสองคนตีพี่แนน ไอติมเห็น ป้าสองคนตีพี่แนนก่อน ดึงผมพี่แนนแบบนี้ ๆ พี่แนนหงายหลังเลยค่ะ” เด็กหญิงเล่าเหตุการณ์ที่พบเจอให้ผู้เป็นพ่อได้รับฟัง พร้อมกับทำท่าดึงผมเป็นการสาธิตให้ผู้เป็นพ่อมองเห็นภาพได้ชัดเจน แม้จะยังคงมีน้ำตาสะอึกอื้นร้องไห้ ดวงตากลมโตบวมแดงน้ำตาไหลรินอาบแก้ม แต่เธอก็ยังพยายามที่จะเล่าถึงเหตุการณ์
“เป็นอย่างที่น้องพูดไหมพีช” เจหันไปถามทวนลูกน้องที่ยืนก้มหน้าหลังชิดผนัง
“..............” แต่สิ่งที่ได้รับคือพีชยังคงเงียบปาก
“น้ำ!” เจตวาดเสียงลั่น เมื่อสิ่งที่ถามนั้นไม่มีคำตอบ จึงหันเหสายตาดุไปยังอีกคนที่สะดุ้งเฮือก
“แนนมันหาเรื่องพวกน้ำก่อน” น้ำพูดปดป้ายสีพร้อมกับจ้องหน้าแนนอย่างเอาเรื่อง
“แนน!...อธิบาย” เจหันไปถามคนที่ยืนข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างกันจากที่ถามสองสาวคู่หู
"แนนไม่มีคำอธิบายค่ะ....แล้วแต่พี่เจจะพิจารณา" แนนที่ไม่คิดโต้ตอบเมื่อเธอนั้นรู้แก่ใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นยังไง.....จากสภาพที่เธอเป็นหากเขาจะเห็นควรคงตัดสินไม่ยาก ถ้าไม่คิดเข้าข้างใครด้วยการลำเอียง
"ทั้งสามคน เชิญที่ห้องประชุม...จัดการกับสภาพตัวเองให้เรียบร้อย" เจที่โมโหเลือดขึ้นหน้าหากแนนนั้นพูดอะไรออกมาเขาพร้อมที่จะเชื่อ เพราะสิ่งที่ตาเห็นมันบ่งบอกแล้วว่าเธอนั้นโดนรุม แม้จะร่วมงานด้วยกันไม่นานแต่ก็พอจะรู้นิสัยของแนนพอสมควรด้วยประสบการณ์ที่มากพอ
"ฮืออ คูมพ่อ ไอติมจะหาพี่แนน อึก ฮึก ฮืออออ" เด็กหญิงร้องไห้พร้อมกับพยายามลงจากอ้อมอกของพ่อ สองแขนเล็กชูหาหญิงสาวที่เธอรัก
"พี่แนนอุ้มน้องไอติมไม่ไหวหรอกลูก" พ่อเจให้เหตุผล
"หาพี่แนน ฮือออออ" เด็กหญิงตัวน้อยปล่อยร้องไห้โฮ เธอต้องการอ้อมอกของแนนให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แม้จะเห็นว่าเธอนั้นเจ็บแต่ก็ยังต้องการที่จะไปหา
"ไม่เป็นไรค่ะ แนนไหว" แนนยื่นแขนเพื่อนรับเด็กหญิงเพราะเธอนั้นสงสารเธอจับใจที่เห็นเด็กหญิงร้องไห้
"เงียบไป....เดี๋ยวตามพี่ไปที่ห้องประชุม...พีชกับน้ำด้วย!" เจพูดเสียงเข้มจนแนนนั้นต้องชักแขนกลับ ก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับสองหญิงสาวคู่หูที่ยืนจ้องมองหน้าแนนอย่างเคียดแค้น
"คูมพ่ออย่าดุพี่แนน ฮึก อึก" เด็กหญิงยังคงพยายามคว้าแขนของแนนจนเธอต้องจับมือของเด็กหญิงไว้ ทั้งที่เธออยู่ในอ้อมกอดเธอสงสารเด็กหญิงตัวน้อยที่ร้องไห้จนตาแดง
"ไหวไหมแนน" แจงที่ตามมาเห็นเหตุการณ์ยังตกใจกับสภาพของแนน เธอเดินมาประคองแนนอย่างเบามือและพาเธอไปยังห้องประชุม
"แนนไหวค่ะ" แนนพยายามยิ้มตอบรับแจง แม้จะรู้สึกเจ็บตรงมุมปากไม่น้อย
"ตอแหล" เสียงแผ่วเบาแต่เน้นน้ำหนักเสียงของน้ำและพีชเอ่ยขึ้นเมื่อเดินผ่านแนนไป เพื่อไปยังที่หมายของผู้เป็นนายนัดแนะ
"พวกแกสิตอแหล...ขอให้พี่เจไล่แกสองตัวออกทีเถอะ เพี๊ยง!!" เป็นเสียงของแจงที่พูดขึ้นอย่างนึกรำคาญและหมั่นไส้ กับแค่เด็กฝึกงานที่จะอยู่ไม่กี่เดือนยังริษยา จนเธอนั้นนึกแช่งสองคนที่เธอก็ไม่ชอบขี้หน้าเช่นกัน
"ใครจะพูดก่อน" เจที่ยืนหันหลังสองมือล้วงกระเป๋าเอ่ยถามขึ้น เมื่อพนักงานทั้งสามนั้นมาพร้อมเพรียงยืนเรียงหน้ากระดานอย่างกับนักเรียนที่กำลังเข้าห้องปกครองเมื่อทำผิด
"................." ไม่มีเสียงใด ๆ หลุดลอดจากปากของเหล่าลูกน้อง นอกจากสายตาของคู่หูตัวแสบที่จ้องมองแนนอย่างไม่คิดจะยอมปรน
"ไม่มีปากกันหรือไง" เจที่ไม่ไหวต่อความเงียบเมื่อถามใครออกไปก็ไร้การตอบกลับ ท่าทางน่าเกรงขามที่หลบซ่อน ความดุดันที่มีในตัวที่ไม่ค่อยเปิดเผยจนมีเรื่องนี้ที่ต้องแสดงตัวออกมา ทั้งที่พยายามเก็บกั้นดูแลคนใต้บัญชาให้สมานสามัคคีกัน แต่ไม่คิดจะมีคนอีกกลุ่มที่มาดร้ายในสำนักงาน
"แนนไม่มีอะไรจะพูดค่ะ อย่างที่แนนบอกแล้วแต่พี่จะพิจารณาค่ะ" แนนพูดขึ้นด้วยสิ่งที่เธอไม่คิดจะแก้ต่างใด ๆ
"ทำเป็นพูดดี"
"พีช!!" เจตวาดพีชเสียงลั่นเข้มดุ พร้อมดวงตาที่จ้องมองอย่างดุดัน ก่อนจะก้าวขายาว ๆ ไปนั่งยังหัวโต๊ะรูปตัวยู บ่งชี้ถึงตำแหน่งที่เป็นตอนนี้
"ขอโทษค่ะ" พีชก้มหน้ามือประสานตรงหน้าแล้วกล่าวเสียงแผ่ว
"ต่อหน้าพี่ยังกล้านะ...ไม่เดินข้ามหัวพี่เลยล่ะ" เจที่เดือดดาลพยายามควบคุมอารมณ์ กล่าวข่มอย่างหยั่งเชิงต่อลูกน้องที่ทำตัวกร่าง ไม่ใช่ว่าไม่รู้วีรกรรมของหญิงทั้งสอง แค่เขาพยายามมองข้ามนิสัยส่วนตัวเพราะทั้งสองก็รับผิดชอบงานตัวเองดีแค่มีนิสัยส่วนตัวที่ไม่น่ารักเท่านั้น ซึ่งเจมองว่าไม่เกี่ยวกับงานที่ทำให้บริษัทเสียหาย
"พีชไม่คิดแบบนั้นค่ะ" พีชเอ่ยขึ้น
"ไม่คิดมีใครอธิบาย??...งั้นก็ออกพร้อมกันทั้งสามคนดีไหม? เพราะพี่ไม่คิดจะเอาอันธพาลมาทำงานในออฟฟิศ" เจว่ากล่าวพร้อมไล่สายตามองคนทั้งสามอย่างจับสังเกต สองคนคู่หูยืนมือประสานก้มหน้ามองต่ำ แต่อีกคนในชุดนักศึกษาสภาพเละเทะ กลับจ้องมองหน้าสบตาไม่หลีกเลี่ยง แววตาที่จ้องมองหน้าเจนั้นดูมุ่งนั่นไม่วอกแวก
"ไม่นะคะพี่เจ น้ำยังไม่อยากตกงาน"
"ไม่อยากตกงาน?...แต่ทำตัวอันธพาลแบบนี้เหรอน้ำ" เจย้อนทันทีอย่างรู้เท่าทัน พร้อมกับลุกยืนสองแขนค้ำโต๊ะจ้องมองหน้าพนักงานทั้งสามอย่างจับจ้อง
"นะ น้ำ ปะเปล่านะคะ"
"แจง" เจเอ่ยเรียกเลขาที่ยืนอุ้มลูกสาวของเขาที่ตอนนี้เงียบแล้ว แต่ยังมีเสียงสะอื้นเบา ๆ
"คะ?"
"ฉายโปรเจคเตอร์" เสียงเข้มของเจสั่งการ ทุกอย่างหากจะจับคนผิดมันไม่ได้ยากมากมาย เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่อยู่รอบสำนักงานสามารถจับสามารถแก่ผู้เป็นนายเช่นเขาได้
"น้องไอติมยืนรอพี่แจงตรงนี้นะคะ..." แจงวางเด็กหญิงยืนกับพื้นก่อนจะเดินไปทำหน้าที่ของเธอ ตามคำสั่งผู้เป็นนาย
"ค่ะ" เด็กหญิงตอบรับด้วยน้ำเสียงสะอื้น ก่อนที่เด็กหญิงตัวน้อยจะเดินไปยืนเคียงข้างคุณพ่อของเธอ
ภาพทุกอย่างที่ฉายแก่สายตาของทุกคู่สายตามองเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มแรก ทุกอย่างเป็นดั่งที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดบอกเป็นอย่างเช่นที่เธอเอ่ยจริง ๆ การตบตีที่ลุกลามออกมายังหน้าห้องน้ำหลังจากที่เด็กหญิงไอติมนั้นวิ่งออกมา สองรุมหนึ่งที่เผยแก่สายตาของทุกคน ส่วนคนที่ทำผิดนั้นเริ่มกระสับกระส่ายไม่อยู่นิ่ง การก่อเหตุที่ไม่คิดว่ากล้องวงจรปิดจะจับภาพได้ชัดเจน ด้วยอารมณ์ริษยาที่ครอบงำจนถลำกระทำสิ่งที่ไม่ควร
"ชัดเจนนะน้ำ พีช" เจพูดขึ้น
"พี่เจอย่าไล่พวกเราออกเลยนะคะ...พีชยังไม่อยากตกงานตอนนี้" พีชที่อยู่ไม่สุขเริ่มโอดครวญ
"แจง...พี่ฝากจัดการกับน้ำและพีชด้วย" คำว่าจัดการที่เลขาอย่างแจงรู้ดีว่าลำดับต่อไปเธอควรทำยังไง คนที่ดื้อรั้นก็ไม่สมควรที่อยู่ร่วมสำนักงานเดียวกัน บุคลากรที่วางตัวดีเท่านั้นที่คนอย่างเจจะเก็บรักษาไว้
"พี่เจน้ำขอโทษค่ะ สัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก อย่าไล่น้ำออกเลยนะคะ"
"คนผิดก็รับผลไป พี่ไม่ได้ใจดีอย่างที่พวกเธอคิดหรอกนะ..." เจพูดขึ้นอย่างไม่คิดจะไยดีแม้สองคู่หูนั้นวิงวอน
"นะคะพี่เจพีชยังตกงานตอนนี้ไม่ได้ ขอร้องนะคะพี่เจ" เป็นพีชที่พูดเสริมอย่างขอร้อง
"ไอติมเจ็บไหมลูก...พ่อพาไปทายานะคะ" เจที่ไม่สนใจต่อคำอ้อนวอนใด ๆ ของใคร โอบอุ้มลูกสาวที่สะอื้นไห้แล้วเดินออกจากจุดนั้นทันที
"พี่เจคะ พี่เจน้ำขอร้องอย่าไล่น้ำออกเลยนะคะ"
"นะคะพี่เจพีชรับปากจะไม่ทำอีก"
หญิงสาวทั้งสองรีบวิ่งดักหน้า เมื่อเห็นเจนั้นก้าวขาเดินออกมาจากจุดนั้น ทั้งสองวิงวอนด้วยน้ำตาแม้ตัวจะทำผิดแต่ไม่คิดว่าผู้เป็นนายจะถึงขั้นขับไล่
"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเธอใช่ไหม?..."
".........." ทั้งสองสาวยืนเงียบก้มหน้าเศร้า เพราะมันเป็นอย่างที่เขาถามจริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอชอบหาเรื่องที่เห็นใครล้ำหน้า แค่ไม่ได้ก่อเรื่องในสถานที่นี้
"แต่พี่ไม่อยากสนใจเพราะก่อนหน้า พวกเธอไม่ได้ก่อเรื่องจนพี่เห็นกับตา" เจพูดเสียงแข็งดุดันแต่ฝ่ามือหนาอุ่นก็ยังคงลูบหัวลูกสาวปลอบใจ
"คูมพ่อขาปะ ป้าฉองคนใจร้าย" เด็กหญิงพูดเสริมด้วยน้ำเสียงสะอื้นใกล้ชิดหูผู้เป็นพ่อ สองแขนเล็ก ๆ กอดคอผู้เป็นพ่อ
"น้ำขอโทษค่ะ...แต่ให้โอกาสน้ำเถอะนะคะ" น้ำยกมือไหว้ขอร้องผู้เป็นนาย
"ให้โอกาสพีชสักครั้งนะคะพี่เจ" พีชว่าเสริม
"............" เจเงียบไม่ตอบรับใด ๆ
"แนนพี่ขอโทษช่วยพูดกับพี่เจที" เป็นพีชที่ต้องขอร้องแนน เมื่อเธอมองแล้วว่าผู้เป็นนายนั้นไม่ยอมอ่อนข้อ
"แนนให้อภัยในสิ่งที่พี่ทำร้ายแนน....แต่แนนไม่ได้มีสิทธิ์อำนาจใดที่จะร้องขอ แนนเป็นแค่เด็กฝึกงานค่ะ" แนนพูดออกมาเสียงเรียบ เธอนึกสงสารต่อหญิงทั้งสองที่พร่ำวิงวอน แต่เธอก็จนใจที่จะช่วยเหลือ
"แล้วทำไมไม่คิดก่อนที่จะทำ...เธอสองคนอายุเยอะกว่าเด็กฝึกงานตั้งหลายปี น่าจะคิดได้กว่านี้" เจกล่าวอย่างตำหนิ
"พี่เจพีชผิดไปแล้วจริงๆ...ขอโอกาสหน่อยนะคะ" พีชยกมือไหว้หงึก ๆ พร้อมอ้อนวอน
"มีอะไรกันวะเจ" เสียงเข้มดังขึ้นเมื่อได้ยินเหล่าพนักงานพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ ทุกเสียงเล่าขานถึงเด็กฝึกงานถูกทำร้าย ไฟที่เดินเข้ามาในบริษัทต้องตรงดิ่งมายังห้องประชุม
"หรือจะให้พี่ไฟตัดสินดี" เจพูดขึ้นเมื่อเขารู้ว่าไฟนั้นเด็ดขาดกว่าเขาแค่ไหน พนักงานที่อยู่มานานย่อมรู้ดีถึงนิสัยของไฟ...น้ำและพีชตกใจเมื่อเจนั้นพูดถึงผู้เป็นนายอีกคน
"พวกเธออีกแล้วเหรอ?...ครั้งนี้ในออฟฟิศเลย?" เป็นไฟที่พูดขึ้นอย่างเอือมระอา
"อืม" เจตอบเค่นในลำคอ
"อาไฟขา อึก ฮึก ป้าฉองคนทำไอติมเจ็บตูด ตีพี่แนนเลือดออก ไอติมเจ็บ" เด็กหญิงที่เห็นคุณอาไฟของเธอ ไม่วายที่เธอจะเล่าเหตุการณ์ย้ำ
"ไอติมอยู่ในเหตุการณ์เหรอ?" ไฟย้อนถาม....
"อึก ฮึก ฮึก" เด็กหญิงยังคงสะอึกสะอื้นกอดคอผู้เป็นพ่อ
"อืม ไอติมไปเข้าห้องน้ำกับแนน...แล้วแต่มึงจะตัดสินละกัน กูพาไอติมไปทายาก่อน" เจบอกต่อเพื่อนให้รับรู้และมอบหมายหน้าที่ต่อ
"น้องแนนไหวไหม?" เป็นเสียงของแจงที่เอ่ยถามขึ้น เมื่อเธอเดินไปใกล้เห็นสภาพแล้วนึกสงสารจนต้องประคองแนนเดิน
"แนนโอเคค่ะพี่แจง" หญิงสาวตอบรับ
"ปะ.....พี่หายาทาให้" แจงประคองแนนเดินพร้อมกับพูดอย่างห่วงใย เอ็นดูแนนเพราะเธอตั้งใจที่จะเรียนรู้งานและมีความสามารถศักยภาพในการทำงาน หากจบการศึกษาต้องเป็นบุคลากรที่ดีคนหนึ่ง
"ค่ะ...ขอบคุณค่ะพี่"
"พี่แนนเจ็บไหมคะ" เด็กหญิงไอติมที่คุณพ่อเธออุ้ม หันไปพูดกับแนนที่เดินตามหลังมาติดๆ มือน้อย ๆ ของเธอพยายามเอื้อมจับแนนจนเธอนั้นต้องจับมือของเด็กหญิงไว้
"พี่แนนไม่เจ็บ ทายาเดี๋ยวก็หายค่ะ...ไอติมเจ็บไหมคะ" การเดินพร้อมเสียงสนทนาของคนทั้งสองที่พ่อเจนั้นเอียงหูฟัง...สภาพที่เเนนเป็นทำเอาเขานั้นเลือดขึ้นหน้า
"ยาคูมพ่อวิเศษมากๆ เลยค่ะ ทาแป๊บเดียวหายเจ็บ...คูมพ่อทาให้พี่แนนด้วยนะคะ" เด็กหญิงเล่าสรรพคุณอย่างฉะฉาน และบอกกล่าวผู้เป็นพ่อด้วยความใสซื่อ แต่สิ่งที่เด็กหญิงพูดทำเอาผู้ใหญ่ที่กล่าวถึงนั้นใจเต้นแรงในอก
"หยุดพูดได้แล้วลูก...เจ็บไม่ใช่เหรอ" คนเป็นทักท้วงขึ้น
"เจ็บค่ะ...ไปทายาคูมพ่อกับไอติมนะคะพี่แนน" เด็กหญิงหันไปพูดกับแนนอีกครั้ง
"ค่ะ" แนนตอบรับทำให้เด็กหญิงนั้นมีรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข เธออิ่มเอมทุกครั้งที่ได้อยู่กับหญิงสาวจนแทบไม่อยากห่างไกล
-----
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ