ความโกลาหลของคนสกุลโจว

1731 คำ
จวนสกุลโจวแห่งเมืองหน้าด่านจ้วงโจว... ยามไฮ่ (21.00-22.59น.) เถาม่านหลิวรู้สึกตัวตื่นเพราะความหิวนางยังคงงัวเงียและคิดว่าตัวเองยังนอนอยู่บนรถม้า แต่พอตื่นขึ้นเต็มตา ความรู้สึกไม่พอใจก็บังเกิด “ไหนบอกว่าจะประหยัด แต่ดูห้องพักในโรงเตี๊ยมนี่สิคงแพงไม่ใช่น้อย” เถาม่านหลิวมองไปรอบ ๆ ห้องที่โออ่า งดงามไปด้วยของตกแต่งที่มีราคา มองแล้วก็ถอนหายใจเหนื่อยหน่ายที่สามีไม่ทำอย่างที่รับปากเอาไว้ นางรู้สึกเสียดายเมื่อคิดถึงตำลึงที่ต้องจ่ายสำหรับห้องพักหรูหราห้องนี้ แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงของสตรีดังแทรกเข้ามา “น้องสะใภ้เจ้าตื่นแล้ว” เถาม่านหลิวสะดุ้ง นางตกใจที่จู่ ๆ ก็มีสตรีแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในห้องนอนของนาง “เอ๊ะ! ท่านเป็นใคร แล้วสามีกับสาวใช้ของข้าล่ะพวกเขาไปไหนกันหมด” “ข้าเมิ่งยู่เหยาเป็นภรรยาของคุณชายรอง ตอนนี้คุณชายสามและสามีของข้ากำลังคุยธุระกับท่านพ่อที่เรือนใหญ่ ส่วนจูถิง นางออกไปยกอาหารมาให้น้องสะใภ้น่ะ” “ที่นี่ไม่ใช่โรงเตี๊ยมหรอกหรือ” นางยังสงสัย “คิก ๆ ไม่ใช่โรงเตี๊ยมหรอกน้องสะใภ้ ที่นี่คือจวนของสกุลโจวต่างหากล่ะ ส่วนเรือนหลังนี้ก็เป็นเรือนของคุณชายสามสามีของเจ้าไง” คำบอกเล่าของหญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าพี่สะใภ้รองทำให้ม่านหลิวเข้าใจทันที สามีของนางที่แท้ก็อยู่เมืองหน้าด่านติดกับจงไฮ่นี่เอง และนางก็เข้าใจมาตลอดว่าบ้านของสามีเป็นชนชั้นพ่อค้าที่ไม่ได้มีฐานะอะไร แต่ที่ไหนได้ เพราะร่ำรวยแบบนี้นี่เองเขาถึงได้ใช้เงินมือเติบขนาดนั้น “พรุ่งนี้จะมีงานพิธีปักปิ่นของเจ้า ฉะนั้นท่านแม่เลยให้ข้ามาคอยดูแลความเรียบร้อยให้ตั้งแต่เนิ่น ๆ” “พวกท่านจะจัดพิธีปักปิ่นให้ข้าหรือ” “ใช่จ้ะ งานนี้พวกเราเตรียมการมาสองวันแล้ว ตั้งแต่คนของคุณชายสามมาส่งข่าวให้โน่นแน่ะ” เถาม่านหลิวน้ำตาคลอเมื่อรู้ว่าโจวซีหยางและครอบครัวของเขาเอาใจใส่กับเรื่องของนางแค่ไหน ไม่น่าเชื่อว่านางจะได้เข้าพิธีปักปิ่นเช่นหญิงสาวคนอื่น ๆ เพราะการแต่งงานและการตั้งครรภ์ ทำให้นางหลงลืมพิธีนี้ไปแล้ว ในระหว่างที่สะใภ้รองกับสะใภ้เล็กกำลังทำความรู้จักกันและเริ่มคุยกันอย่างสนิทสนม อาการพะอืดพะอมก็ได้โจมตีคนท้อง แล้วนางก็อาเจียนทั้งน้ำและลมออกมา จนสะใภ้รองเห็นแล้วก็ต้องตกใจ “น้องสะใภ้ เจ้าไม่สบายหรือ คงเป็นเพราะเจ้ากินข้าวผิดเวลาแน่เลย” เมิ่งยู่เหยาถามด้วยความเป็นห่วง ทั้งมือก็คอยลูบหลังให้ “เอ่อ...ข้า พี่สะใภ้ท่านเห็นห่อผ้าของข้าหรือไม่” อาการแพ้ท้องของนางสำแดงฤทธิ์เดช ม่านหลิวคิดออกทันทีว่ามีบางอย่างหายไป “ห่อผ้างั้นหรือ ข้าไม่เห็นนะ ตอนนั้นข้าเห็นแต่เสื้อของคุณชายสามที่คลุมตัวเจ้าอยู่” “แล้วเสื้อตัวนั้นอยู่ไหนแล้วเจ้าคะ” ม่านหลิวมองหาเสื้อจนทั่วห้องแต่ก็ไม่เจอ “ข้าเห็นเจ้านอนขดโดยมีแค่เสื้อตัวนั้นห่มอยู่บนตัวแค่ตัวเดียว ดังนั้นข้าจึงเปลี่ยนเอาผ้าห่มมาให้ แล้วส่งเสื้อตัวนั้นให้สาวใช้เอาไปซักน่ะ เจ้าถามหาทำไมหรือ” เถาม่านหลิวไม่ได้ตอบคำถาม ตอนนี้นางพูดอะไรไม่ได้เลย เพราะมัวแต่โอ้กอ้ากเอาลมออกไม่หยุด จนกระทั่งจูถิงถือถาดอาหารเข้ามา “ฮูหยินน้อย ตายแล้ว! นายท่าน...ข้าต้องไปตามนายท่านสาม” จูถิงลุกลี้ลุกลนเพราะเจ้านายของนางอาเจียนไม่หยุด ก่อนออกจากห้องไป นางยังจำได้ว่าฮูหยินห่มเสื้อของนายท่านเอาไว้อยู่นี่นา “เดี๋ยวก่อนสิจูถิง นายหญิงของเจ้า นางเป็นอะไรไปน่ะ” “เอ่อ...ฮูหยินเมิ่ง ฮูหยินน้อยแพ้ท้องเจ้าค่ะ มีแค่นายท่านสามที่ทำให้ฮูหยินน้อยหายจากอาการนี้ได้ ดังนั้นบ่าวจะไปตามนายท่านสามเจ้าค่ะ” จูถิงเปิดเผยอาการแพ้ท้องของเจ้านายให้คนอื่นรู้เป็นครั้งแรก และบอกวิธีรักษาที่ประหลาดให้รู้ด้วย “เดี๋ยวก่อน เจ้าอยู่กับน้องสะใภ้ที่นี่ ข้าจะไปตามคุณชายสามเอง” พูดจบ เมิ่งยู่เหยาก็วิ่งออกจากห้อง นางรีบมาก จนลืมไปว่าไม่ควรวิ่งหรือทำเสียงดังเวลานี้ กระนั้นนางก็ยังวิ่งไม่หยุด ยังดีที่นางมีสาวใช้ประจำตัวตามมาเป็นเพื่อนวิ่งด้วย เสียงวิ่งของทั้งสองทำเอาคนในจวนพากันแตกตื่น โดยเฉพาะคนที่เรือนใหญ่ “เมิ่งยู่เหยานั่นเจ้าวิ่งหนีอะไรมาหรือ” ฮูหยินผู้เฒ่าร้องทักลูกสะใภ้คนรองที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในเรือนใหญ่ จนขาดความสำรวม “โอ๊ะ! ท่านแม่ ข้าจะไปตามน้องสามเจ้าค่ะ ข้าไม่คุยกับท่านแม่แล้ว ข้ารีบ” ขณะพูดนางก็ยังวิ่งเหยาะ ๆ พูดจบก็วิ่งไปยังห้องทำงานของพ่อสามีทันที กู้กู่เหนียง (ฮูหยินผู้เฒ่า) คิดตามคำพูดของลูกสะใภ้คนรองไม่ทัน นางจึงกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามหลังของหญิงสาวไปด้วย เพื่อจะถามให้รู้เรื่อง “นายหญิงเจ้าขา อย่าวิ่งสิเจ้าคะ หากหกล้มลงไปบ่าวคงโดนนายท่านลงโทษแน่เจ้าค่ะ” เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าวัยห้าสิบเดินแกมวิ่ง ซึ่งเสี่ยงต่อการหกล้มและบาดเจ็บ สาวใช้คนสนิทก็พลอยกังวลและวุ่นวายไปกับเจ้านายด้วย ห้องทำงานของท่านประมุขโจว... “พวกเจ้าที่อยู่ข้างนอกนั่น ทำเสียงดังหนวกหูอะไรกัน!” เสียงทรงอำนาจตะโกนออกมาจากข้างในห้อง แล้วเสียงคนวิ่ง ตึง ตึง ก็เงียบไปกลายเป็นเสียงเคาะประตูแทน “ข้าเมิ่งยู่เหยาเจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามาตามคุณชายสามด้วยเรื่องเร่งด่วนเจ้าค่ะ” สิ้นเสียงของหญิงสาว ประตูห้องทำงานของท่านประมุขก็เปิดออกด้วยมือของเผิงจิ้ง “พี่สะใภ้ มีเรื่องอันใดกับข้าหรือ” โจวซีหยางถามเมิ่งยู่เหยา และคุณชายรองสามีของนางก็จับจ้องรอฟังอยู่เช่นกัน “น้องสาม น้องสะใภ้แพ้ท้องนางอาเจียนหนักมาก สาวใช้บอกข้าว่า มีแค่เจ้าเท่านั้นที่ทำให้อาการของนางหายได้” กว่านางจะพูดจบโจวซีหยางก็หายไปจากห้องนี้แล้ว รวมไปถึงคุณชายรองโจวซีหยุนและท่านประมุขด้วย พวกเขาพากันไปรวดเร็วมาก แทบจะเรียกว่าเหาะเหินไปเลยทีเดียว ส่วนฮูหยินผู้เฒ่าและสะใภ้รองก็ยังทำเวลาด้วยการเดินให้ไวขึ้นเช่นกัน พวกนางเดินไปได้แค่ครึ่งทางก็มีคุณชายใหญ่โจวซีเย่กับภรรยาตามมาสมทบด้วย ในอ้อมแขนของโจวซีเย่ยังมีเด็กหญิงตัวน้อยติดมาด้วยหนึ่งคน แม่หนูน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้น่าจะเป็นบุตรสาวของเขาไม่ผิดแน่ เมื่อมาถึงเรือน โจวซีหยางก็ตรงดิ่งไปยังห้องนอนแล้วรีบเข้าไปประคองภรรยาทันทีที่มาถึง นางอาเจียนจนหมดเรี่ยวแรง พอสามีเข้ามาโอบกอดนางก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ อีกทั้งกลิ่นกายที่นางโหยหาก็โชยเข้าจมูกอย่างจัง นางเร่งสูดดมเอากลิ่นของเขาเข้าปอดเหมือนคนโรคจิต สักพักทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ อาการแพ้ท้องของนางหายเป็นปลิดทิ้งเหมือนได้รับโอสถวิเศษช่วยรักษา “สามีขอโทษ อุตส่าห์ถอดเสื้อห่มให้เจ้าแล้ว ไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่อง” เขาลูบแผ่นหลังบางปลอบประโลม พร้อมกับจูบกลางกระหม่อมของนางอย่างรักใคร่ “ท่านรู้อาการแพ้ของข้า...” “จุ๊ ๆ ข้ารู้มานานแล้ว ฉะนั้นมีอะไรก็บอกห้ามอายสามี เข้าใจหรือไม่” “อือ ข้าเข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้ข้าหิว” เมื่อหายจากอาการแพ้ท้อง ความหิวก็ประท้วง จูถิงได้ยินเจ้านายบ่นว่าหิว นางก็รีบยกข้าวต้มที่กำลังอุ่นพอดีมาให้ และคงไม่พ้นโจวซีหยางที่ต้องทำหน้าที่ป้อนข้าวให้ภรรยาตัวน้อยของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเจ้านายทุกคนในจวน แต่พวกเขาก็ยังมีท่าทีที่สงบและรอคอยจนกระทั่งสะใภ้คนเล็กกินข้าวอิ่มหนำดีแล้ว “ข้าได้ยินไม่ผิดใช่ไหม ลูกสะใภ้คนเล็กของข้ากำลังตั้งครรภ์ใช่หรือไม่” ท่านประมุขโจวถามเสียงเข้ม แต่ในหน้าแอบยิ้มเล็กน้อย ในใจของโจวหย่งเหอก็อยากจะดุด่าบุตรชายที่มีสัมพันธ์กับเมียในขณะที่นางยังไม่ได้ปักปิ่น แล้วยังมาทำเมียท้องก่อนวัยอันควรอีก ตอนที่ได้ยินข่าวว่าบุตรคนสุดท้องแต่งงานแล้วกับเด็กสาววัยแค่สิบสี่ปีด้วยเหตุผลบางอย่าง ตอนนั้นเขาเองก็โกรธมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พอมาเห็นการดูแลเอาใจใส่ที่บุตรชายมีให้กับภรรยาวัยละอ่อน เขาก็ยกเอาความขุ่นเคืองทิ้งไปทันที เพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเห็นซีหยางมีท่าทีที่อ่อนโยนเช่นนี้กับใครมาก่อน (โจวหย่งเหอคือท่านผู้นำหรือประมุขของตระกูลโจว เท่านั้นยังไม่พอ เขายังมีตำแหน่งพ่อเมืองของจ้วงโจวพ่วงมาอีกด้วย) “นางกำลังตั้งครรภ์ขอรับท่านพ่อ อายุครรภ์จะเข้าเดือนที่สองแล้ว” เสียงพ่อลูกสนทนากัน ทำให้เถาม่านหลิวรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ตามลำพังผัวเมีย ใบหน้าของนางจึงแดงปลั่งทดแทนใบหน้าที่ซีดเผือดเมื่อครู่อย่างทันตาเห็น นางไม่ได้อายที่ถูกสามีโอบกอดและแสดงความรักต่อหน้าคนอื่น และไม่ได้อายเรื่องที่นางตั้งครรภ์ตอนที่อายุยังน้อยด้วย แต่สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกอับอายคืออาการคลั่งไคล้กลิ่นของสามีตอนแพ้ท้องต่างหาก

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม