หนึ่งปีก่อน
“เฮ้ย! ไอ้ตี้มาเร็ว ๆ ดิวะ”
“ไอ้จั๊มพ์มึงก็รู้ กูไม่อยากมาตลาด คนเยอะฉิบหาย”
“แล้วมึงจะไม่ซื้อชุดนักศึกษาหรือไง อาทิตย์หน้าก็เปิดเรียนแล้วนะเว้ย”
“ซื้อออนไลน์เอาดิวะ หรือไม่มึงก็ซื้อมาให้กู”
“มึงซื้อเองดิ แม่งวัน ๆ เล่นแต่เกม ออกมาเจอภายนอกบ้างเหอะ”
“บ่นมากจริง เป็นพ่อกูหรือไง”
“ครับลูกชายเดี๋ยวพ่อจะพาไปซื้อชุดนะครับ”
“ไปเลยมึง อย่ามายุ่งกับกู”
ปาร์ตี้ชายหนุ่มวัยสิบเก้า หน้าตาหล่อเหลา ผิวขาว คิ้วเข้ม ดวงตาสองชั้น สูง187เซนติเมตร น้ำหนัก70 ตามมาตรฐานทั่วไป นิสัยใจนักเลง ใจป้ำกับเพื่อน มีอะไรให้หมด ไม่สนใจเรื่องแฟนสักเท่าไหร่ ทำให้ที่ผ่านมาเขามีแฟนไม่กี่คน พูดเก่งเฉพาะกับคนที่สนิทด้วย พูดตรง บ่นเก่ง ด่าหมดไม่สนลูกใคร เอาแต่ใจนิด ๆ ดื้อเงียบ ติดเกม ฐานะทางบ้านค่อนข้างดี แต่เจ้าตัวไม่เคยแสดงออกให้ใครรู้นอกจากเพื่อนที่สนิทกัน
จั๊มพ์ เพื่อนสนิทของปาร์ตี้ หน้าตาคมออกไทยแท้ ผิวสองสี ไว้หนวดเครานิดหน่อย สูงพอ ๆ กันกับปาร์ตี้ นิสัยก็คล้ายกัน เลยทำให้ทั้งคู่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ต่างกันก็ตรงที่จั๊มพ์มีแฟนเยอะนี่แหละ ผู้หญิงคนไหนเข้าหา เขาก็จะคบเป็นแฟนไปซะหมด ไม่สนด้วยว่าจะสับรางทันหรือเปล่า ไม่พอใจก็แค่เลิกไป
วันนี้สองหนุ่มเพื่อนรักมาซื้อชุดนักศึกษาเพื่อเข้าเรียนมหาลัย เรื่องความฉลาดความใฝ่เรียนทั้งคู่มีไม่น้อยไปกว่าหน้าตาเลย พอจบมัธยมปลายก็สอบเอ็นทรานซ์ได้มหาวิทยาลัยชื่อดังคณะวิศวกรรมศาสตร์ เอกคอมพิวเตอร์ วันนี้เลยพากันมาซื้อชุดนักศึกษากันที่ประตูน้ำ ตลาดที่ขึ้นชื่อว่าขายเสื้อผ้าทั้งปลีกทั้งส่งมากมายให้เลือกสรร
พวกเขาซื้อชุดนักศึกษาเสร็จเรียบร้อย กำลังจะเดินกลับ ทว่า...ดันได้ยินเสียงบางอย่างทำให้ชายหนุ่มทั้งสองต้องหันไปมองต้นเสียง
“เร่เข้ามาค่า แม่ค้าคนสวยมาแล้ว วันนี้มีแต่ของดีทั้งนั้น ช้าอดหมดนะ”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังยิ่งกว่าโทรโข่ง ไม่ใช่แค่ดึงสายตากับพวกเขาหรอก แต่คนทั้งตลาดต่างหันไปมองกันเป็นตาเดียว
เธอสวย...ผิวขาว...ผอมร่างบาง...ผมยาวสีน้ำตาลเข้มถึงกลางหลัง...ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ใส่เสื้อกล้ามสีส้ม กางเกงยีนส์ขาสั้น ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา มีลักยิ้มตรงแก้มขวา ท่าทางทะมัดทะแมงยกกระสอบเสื้อผ้าขึ้นมาเท ในขณะที่ผู้คนกำลังก้าวไปยืนล้อมเธอ
แม่ง...โคตรแข็งแรง
ปาร์ตี้ถึงกับยืนมองนิ่ง เขาเจอผู้หญิงมาก็เยอะ เพิ่งจะเคยเจอแบบเธอนี่แหละ ดูห้าวผิดกับร่างบอบบางที่ดูเหมือนจะไม่มีแรง ยิ่งตอนเวลาเธอยิ้มด้วยแล้ว ทำให้เขาเผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว
“ไอ้ตี้มึงยิ้มอะไรวะ” จั๊มพ์หันมาถาม เพราะจู่ ๆ เพื่อนก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“หา! เอ่อ กูไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”
“จะกลับได้ยัง กูหิวข้าว”
“เออ ๆ กลับก็กลับ”
สองหนุ่มต่างแยกย้ายกันกลับ เพราะบ้านอยู่คนละทาง จั๊มพ์นั่งแท็กซี่กลับไปแล้ว แทนที่ปาร์ตี้จะรีบกลับ เปล่าเลย...เขาเดินกลับมาหาหญิงสาวคนเมื่อครู่ เธอยังขายเสื้อผ้าอยู่ เจ้าตัวดูยุ่ง เดี๋ยวก็หยิบถุงใส่ให้ลูกค้า เดี๋ยวก็ยกกระสอบใหม่มาเทเสื้อผ้าทับกองเก่า ปากก็ร้องป่าวประกาศไม่หยุด ไม่มีจังหวะให้ปาร์ตี้เข้าไปพูดคุยด้วย เขาเลยเลือกที่จะนั่งร้านน้ำฝั่งตรงข้าม เพื่อดูเธออย่างใกล้ชิด รอให้เธอว่างจากการขาย แล้วเขาน่ะจะเข้าไปคุย...
เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่ชายหนุ่มเก็บตัวอย่างเขาจะสนใจผู้หญิงก่อน ความรู้สึกตอนนี้อยากจะเข้าไปคุย เข้าไปถามชื่อ เข้าไปขอเบอร์โทร เลยยอมลงทุนที่จะนั่งรออย่างใจเย็น ถึงแม้ในใจจะรู้สึกตื่นเต้น...
สองชั่วโมงผ่านไป
ลูกค้าที่มุงอยู่หน้าร้านเธอ ค่อย ๆ ซื้อของเสร็จเรียบร้อยไปทีละคน กองผ้าพะเนินก่อนหน้านี้ลดลงไปเหลือไม่แค่กี่สิบตัว จากที่นั่งดูมาตลอด...ยอมรับเลยว่าเธอขายเก่งจริง ๆ พูดจ้อไม่หยุด เหงื่อแตกเต็มหน้าเต็มตัวแต่ไม่แสดงสีหน้าว่าเหนื่อยสักนิด เอาแต่ยิ้มสู้ตลอดเวลาราวกับเธอถูกปั้นมาให้เป็นตุ๊กตายิ้มได้ มองตรงไหนก็น่ารัก...
เอาล่ะ...คนน้อยลงแล้ว ถึงเวลาที่ปาร์ตี้จะเดินเข้าไปหาสักที เขาหันไปสั่งแม่ค้าร้านน้ำเอาน้ำส้มปั่นหนึ่งแก้ว แล้วถือเดินไปทางเธอ
แต่ทว่า...เขายังเดินไม่ถึง ก็มีชายหนุ่มตัวสูงคนหนึ่งถือขวดน้ำเปล่าเอาไปเธอเสียก่อน ปาร์ตี้หยุดชะงักกึก เพราะท่าทางคนทั้งดูสนิทกัน ผู้ชายกอดคอเธอไว้ในขณะที่เธอกำลังซดขวดน้ำ
ใช่...พวกเขาเป็นแฟนกัน อื้ม...ผู้หญิงสวยอย่างนั้นจะโสดได้ไง
ปาร์ตี้ถอดใจ หันหลังกลับเดินจากมา แก้วน้ำส้มในมือส่งต่อให้กับเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่ร้องเพลงขอเงินแถวนั้น ส่วนเขาก็เดินคอตกมาขึ้นรถไฟฟ้ากับไปบ้านตัวเอง
เสียดายที่เธอมีแฟนแล้ว แต่ช่างเถอะ...คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
วันนี้เปิดเรียนวันแรก สองเพื่อนซี้มามหาวิทยาลัยกันแต่เช้า นั่งรออยู่บนม้าหินอ่อนเพื่อเตรียมตัวเข้ากิจกรรมรับน้องที่ทางคณะแจ้งไปตั้งแต่วันรายงานตัว ว่านักศึกษาปี1ทุกคณะต้องรวมตัวกันที่บริเวณลานกว้างหน้าตึกผู้บริหาร เพื่อให้ผู้อำนวยการกล่าวโอวาทแก่นักศึกษาใหม่
“น่าเบื่อวะ ไม่คิดว่าต้องมาเสียเวลารับน้องไร้สาระหาเหวนี่ รู้งี้กูไม่มาดีกว่า” ปาร์ตี้บ่นในขณะที่กวาดสายตามองรอบ ๆ เสียงเจี๊ยวจ๊าวเหมือนนกแตกรังมาจากกลุ่มนักศึกษาทั้งหญิงทั้งชายที่กำลังแย่งกันสนทนา
“หน่า ๆ ทนหน่อยดิวะ กิจกรรมคงไม่มีอะไรมากหรอก” จั๊มพ์ปลอบเพื่อน เพราะสีหน้าปาร์ตี้ตอนนี้แสดงออกชัดเจนว่าเบื่อหน่ายเต็มทน
ถึงแม้เพื่อนจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ปาร์ตี้รู้สึกดีขึ้นเลย เขากำลังคิดถึงเกมในมือถือมากกว่า ว่าแล้วก็หยิบมาเล่นฆ่าเวลา...
เล่นไปสองรอบเองมั้ง...จู่ ๆ ก็มีเสียงใสเอ่ยแทรก
“พวกนายเรียนคณะอะไรเหรอ”
ปาร์ตี้แหงนมองเจ้าของเสียง ก่อนจะหลุบสายตามามองจอเหมือนเดิม
นั่นเป็นนักศึกษาสาวสองคน หน้าตาเป็นไงไม่รู้ เขาไม่ได้สนใจ แต่คนที่รับแขกส่งยิ้มไม่หยุดคือจั๊มพ์
“พวกเราคณะวิศวะฯ เอกคอมฯ”
“เอ๊ะ! เอกเดียวกันสิ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม”
“ได้ ๆ เชิญเลยครับ”
สองสาวนั่งรวมโต๊ะกับพวกเขาด้วย
“ฉันชื่อลูก้า ส่วนนี้แพรว พวกนายชื่ออะไรกันเหรอ”
“ผมจั๊มพ์ ส่วนนี้ไอ้ตี้”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
คนเล่นเกมไม่ได้หันไปสนใจสองสาวสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบทสนทนาเลย เขาแทบไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นว่าเพื่อนรักคุยอะไรไปกับพวกเธอ
ผ่านไปสิบนาที
ปาร์ตี้รับรู้ว่ามีหนึ่งคนลุกไปจากโต๊ะ เขาก็ยังไม่ได้สนใจเหมือนเคย เอาแต่งุดหน้าเล่นเกมต่อ
ทว่า...
“นี่ ๆ พวกนาย คนนี้เรียนคลาสเดียวกับพวกเราด้วยล่ะ” เสียงผู้หญิงคนเดิมเอ่ยขึ้น แล้วต่อด้วยเสียงของผู้หญิงอีกคน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันชื่อสมายด์พวกนายชื่ออะไรกันบ้าง”
ขวับ!!
ปาร์ตี้แหงนมองเจ้าของเสียงคอแทบเคล็ด