บทที่ 1 กระต่ายน้อย

2384 คำ
เช้าวันนี้ดูอึมครึมจัง…… แต่พยากรณ์บอกว่าฝนจะไม่ตกนะ “อืออ~” หญิงสาวบิดตัวไปมาบนที่นอน ก่อนจะลุกขึ้นขยี้ตา และเดินตรงเข้าห้องน้ำไปด้วยอาการงัวเงีย “อืมม ต้องทำอะไรนะ.. อ่อ! เก็บของ…” หญิงสาวหันตัวไปหยิบกระเป๋าใบโปรด แม้แม่เธอจะบ่นเป็นประจำว่ามันเชย แต่นี้เป็นของขวัญชิ้นแรกที่พ่อแม่ให้เธอมา เธอเลยอยากเก็บมันไว้ ไม่นานนักเธอได้ยินเสียงรถจอดหน้าบ้าน “อ้ะ?! น่าจะมากันแล้ว…” เธอเดินยกกระเป๋าใบโปรดลงมาก แต่ไม่ลืมหยิบรูปพ่อและแม่ของเธอมาด้วย “หนูจะตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีค่ะ พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” เธอยิ้มให้กับรูปภาพก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า “คุณหนูครับ” ชายชุดดำเปิดประตูรถให้เธอ “เอ่อ…น่าจะเข้าใจผิดนะคะ คือหนู..” หญิงสาวตกใจ เธอคิดว่าคงเป็นรถธรรมดามารับเธอไปเฉยๆ แต่นี้มันรถตู้คันหรูสีดำ พร้อมกับบอดี้การ์ดชุดดำมากมายๆ “คุณป้ามาด้วยหรอคะ? ทำไมถึง…” เธอคิดว่าคงมีคนมีอำนาจมาด้วยแน่ๆ “ท่านไม่มาครับ ท่านให้มารับคุณหนูไปหานายท่าน” ชายชุดดำเอ่ย “เอ่อ..ค่ะ เรียกหนูว่าลูน่าก็ได้ ” เธอส่งยิ้มกว้างให้ พร้อมเดินไปเปิดประตูหน้ารถ ”คุณหนูครับ ทางนี้ครับ“ ชายชุดดำเผยมือให้เธอนั่งด้านหลัง “อ่อ…เอ่อ..จะดีหรอคะ คือหนู..” เธอลังเล เพราะเคยได้ยินมาว่าคนที่จะนั่งข้างหลังต้องเป็นเจ้านาย แต่เธอเป็นเพียงลูกของสาวใช้และพ่อบ้านก็เท่านั้น “ครับ เชิญครับ” ชายชุดดำเอ่ยพร้อมเอื้อมมือมาจะหยิบกระเป๋าจากมือเธอ “อ๊ะ?! อันนี้หนูขอถือเองนะคะ” เธอรีบกอดกระเป๋าไว้ เพราะอย่างน้อยก็ช่วยให้เธอสบายใจ ในเวลาที่อึดอัดแบบนี้ “อ่า..ครับ” ชายชุดดำไม่ขัดใจใดๆ ทั้งยังคงยื่นมือมาเพื่อช่วยนำเธอขึ้นรถ ในสายตาเค้า เธอเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นตัวน้อยเท่านั้น “ขอบคุณนะคะ” เธอกล่าวก่อนที่เค้าจะปิดประตูให้ ลูน่ามองไปที่กระจกข้างรถ เธอทำตัวไม่ถูกกับเบาะที่กว้างและนิ่มขนาดนี้ เบาะหนังคุณภาพดีที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ภายในรถกว้างขวางขนาดที่เธอยืดเท้าก็ไม่ชน วิวด้านข้างเปลี่ยนไปจากเมืองชนบท เริ่มเข้าสู่ธรรมชาติสักพักวิวก็เปลี่ยนไปเป็นเมืองใหญ่ ตึกสูงเฉียดฟ้า รถไฟฟ้าบนอากาศ รถยนต์คันเล็กคันใหญ่ เธอตื่นเต้นสุดๆ เพราะเคยเห็นแต่ในทีวีเท่านั้น ไม่คิดว่าจะได้มาเจอของจริง ชายชุดดำมองพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนของเธอผ่านกระจก ก็อดกระตุกยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ เหมือนกำลังมองกระต่ายที่กำลังตื่นตูม รถยังคงวิ่งกินเวลาไปหลายชม. “เอ่อ…เราใกล้ถึงรึยังคะ?” ลูน่าอดไม่ได้ที่จะถามออกไป เพราะเธอยังไม่ได้ทานอะไรเลยแต่เช้า และตอนนี้ก็เธอเริ่มจะหิวแล้ว “อีกนิดครับ ตอนนี้เราอยู่ในตัวคฤหาสน์แล้ว” ชายชุดดำตอบเสียงเรียบ “ห๊ะ?!..” ลูน่าเบิกตาโพลง แล้วรีบกันกลับไปมองด้านนอกอีกครั้ง เพราะเธอจำได้ว่า พอผ่านเมืองต่างๆก็เข้าสู่ป่า แม่น้ำ ตรงไหนคือเข้ามา ตอนนี้ก็มีแต่ป่า… “หนูฟังผิดรึเปล่าคะ…คือว่าตอนนี้เรา…” “ไม่ผิดครับ เราถึงแล้ว แต่แค่ยังไม่ถึงตัวคฤหาสน์ก็เท่านั้น” ชายชุดดำย้ำอีกครั้งให้เธอมั่นใจ [ลูน่า] จะใหญ่ไปมั้ยเนี่ยยย แล้วคนสวนจะทำยังไง? ใครกันนะคิดมาสร้างบ้านในป่าในเขาขนาดนี้ แล้วถ้าฉันต้องมาทำความสะอาดที่นี้จะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนดีนะ… “ถึงแล้วครับ” ชายชุดดำเอ่ยขึ้น กระตุกฉันออกจากความคิด “เชิญครับ” ชายชุดดำอีกคนเปิดประตูให้ “โอ๊ะ?! ขอบคุณนะคะ” เค้าต้องเข้าใจผิดแน่ๆ ฉันเป็นคนรับใช้จะไม่เป็นไรใช่มั้ยนะ… ลูน่ารีบกล่าวขอบคุณก่อนจะลงมา “ยินดีต้อนรับครับคุณหนู เดินทางมาไกลคงจะเหนื่อยไม่น้อย ผมเคน จะมาพาคุณหนูเข้าไปหานายท่านนะครับ” คุณลุงที่อยู่ในชุดพ่อบ้าน เดินเข้ามาพร้อมโค้งรับ คุณลุงดูใจดีมากๆเลย แต่จะว่าไป คฤหาสน์นี้ใหญ่มากกกก ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจออะไรใหญ่ขนาดนี้ แต่สาวใช้น้อยมากจริงๆ มีก็แต่พี่ๆชุดดำ ไม่น่าละ คุณป้าเลยอยากให้ฉันมาช่วยงาน… “ทางนี้ครับ นายท่านรออยู่ด้านบนห้องทำงาน ตอนนี้ทุกท่านน่าจะถึงครบแล้ว” ลุงเคนผายมือไปทางบันได บอกเลยว่า มันสูงพอควร แต่ยังดีที่ไม่ชันเท่าไหร่ ข้างในคฤหาสน์ตกแต่งโทนแดงดำ ด้านนอกก็ดูตัวคฤหาสน์สีออกเทาๆ ดูลึกลับดีจัง…. ของแต่ละชิ้นราคาไม่ใช่น้อยๆ ตอนทำความสะอาดฉันต้องระวังหน่อยแล้วละ… พรมนี้…ดูแลยากมั้ยนะ ไม่เคยเห็นเลย… ”อ๊ะ..อันนี้..” ลูน่าเอ่ยขึ้นหลังจากหยุดสำรวจรอบบ้านแล้วสายตาไปประจบกับโถงทางเดินกว้าง ที่ด้านข้างมีรูปแขวนอยู่ เรียงกัน “ด้านนี้จะเป็นรูปของเหล่าหัวหน้าเผ่า…เอ่อ..ท่านผู้นำแต่ละรุ่นครับ” เคนอธิบายพลางเดินนำทาง จะว่าไป…ทุกคนผมสีเทาหม่นๆ ตาดำเข้มเหมือนกันหมดเลยแฮะ “มีรูปคุณป้าด้วย?!“ ลูน่าชี้ไปที่รูปคุณป้าที่เธอรู้จัก ”ท่านเป็นผู้นำหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์เลยละครับ“ เคนหยุดตรงหน้ารูป เค้ามองด้วยความภูมิใจ และเผยรอบยิ้มอบอุ่นออกมาโดยไม่รู้ตัว “ฮะแฮ่ม! เอ่อ เราไปกันต่อนะครับใกล้ถึงแล้ว” ลุงเคนกล่าวแล้วเดินต่อ จนสุดทางลูน่าสะดุดตากับรูปหมาป่ายักษ์ที่ดูหน้าเกรงขาม ตัวสีเทา ดวงตาสีดำ กับหมาป่าสีขาวดวงตาสีแดง ทั้งคู่ยืนจ้องกันแทบจะสู้กันและมีกระต่ายขาวตาแดงตัวเล็กหน้ารักอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านหลังพวกเค้ามีหมาป่าอีกสองสามตัวยืนอยู่ “ทำไมเหมือนหมาป่าคอยอารักขากระต่ายยังงั้นแหละ…” เธอเอ่ยออกมากับตัวเอง “ใช่ครับ นี้เป็นภาพที่ตกทอดกันรุ่นสู่รุ่น เชื่อว่าคือต้นกำเนิดของตระกลู เรื่องเล่าที่เล่าขานสืบกันมา…” ลูน่าจ้องมองอย่างสนใจ เธอรู้สึกเหมือนต้องมนต์ ดวงตากระต่ายที่เป็นเหมือนอัญมณีนั้นคล้ายเคยเห็นที่ไหน… ”พวกเค้ากำลังจะแย่งกันกินเหยื่อหรอคะ?“ ลูน่าชี้ไปที่กระต่ายที่อยู่ตรงกลาง ”ก็ไม่เชิงครับ..เรื่องนั้น..“ ไม่ทันได้เล่าต่อ มีเสียงเรียกทุ้มต่ำลอดออกมาจากห้องด้านขวามือ ”เข้ามา“ เสียงนั้นช่างทรงอำนาจและน่ากลัวสำหรับลูน่า ”อ๊ะ?!“ เธอสะดุ้งเล็กน้อยและรีบหันไปทางต้นเสียง ”ถึงแล้วครับคุณหนู เชิญเข้าไปได้เลย นายท่านทั้งหลายกำลังคุณหนูอยู่ครับ“ เคนหลบทางพร้อมผายมือให้ลูน่าเดินเข้าไป “ฟู่ววว~ ฮึ้บ!! ไปกัน” ถึงจะน่ากลัวแต่เริ่มงานวันแรกเราก็ต้องสู้สินะ แกร๊ก..แอ็ดดด ”สะ สวัสดีค่ะ หนูลูน่าค่ะ พร้อมเริ่มงานแล้วค่ะ!“ ลูน่าก้มโค้งทันทีที่ประตูปิดลง ในมือกอดกระเป๋าแน่น …………… จ๊อก~ ทั้งห้องเงียบสนิท… “เอ่อ…..” ฉันน่าจะกินข้าวมากก่อน ลูน่าหลับตาปี๋ ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ เพื่อกลบเกลื่อน [ห้องประชุมตระกูลเบรอส] ชายทั้ง 4 หันมองไปที่สาวน้อย วัย 19 ที่อยู่ในชุดเดรสระบายสีขาว ร่างเล็กที่เหมือนลมพัดก็พร้อมปลิว ต่างจากเหล่าชายฉกรรจ์ที่นี่ ผิวขาวผ่องเนียนดูนุ่มนิ่มจนน่าบีบ พวงแก้มที่สีอมชมพูระเรื่อ ใบหน้าไร้การแต่งเติมใดๆ ผมยาวดำสลวยที่ปล่อยสยาย พริ้วตามแรงก้มตัว ตากลมโตจ้องมองมาด้วยความใสซื่อ อดไม่ได้เลยที่พวกเขาจะตะลึงเล็กน้อย แม้สายตาของพวกเข้าจะจ้องมองเหมือนหมาป่าเตรียมล่าเหยื่อก็ตาม จ๊อก~ ทั้ง 4 คนนิ่งสงัด “อุ๊บ..ฮ่าๆๆ” เสียงชายนิรนามหัวเราะขึ้น ทำให้สาวน้อยไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา “พอได้แล้ว” เสียงชายคนแรกเอ่ยอีกครั้ง ลูน่าสัมผัสได้ว่ามีคนเอานิ้วมาสะกิดเธอเบาๆ ชายคนนั้นส่งยิ้มอ่อนๆให้ “เงยหน้าได้แล้วละ” เขากระซิบเธอเบาๆ เธอเงยหน้ามาพบกับชายตรงข้ามเธอที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ เขามองมาที่เธอนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ตามกฎของเรา เธอต้องคอยปรนิบัติพวกฉัน ทั้ง 5 คน" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ สายตาคมจ้องมองสาวน้อยตรงหน้าที่กำลังส่งสายตามึน งง "ค่ะ" เธอตอบพร้อมพยักหน้า ด้วยหน้าตาใสซื่อ เธอคิดว่าคงไม่ต่างจากแม่บ้านทั่วไป คนทำงานพาร์ทไทม์สองกะแบบเธอ ไม่สะทกสะท้านอยู่แล้ว "ใจกล้าดีนี่~" มีเสียงดังขึ้นจากทางหน้าต่าง เจ้าของเสียงนั่งขอบหน้าต่างมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ "ผมว่าน้องน่าจะเข้าใจความหมายไม่ตรงกับเรานะ" ชายที่ยืนข้างหญิงสาวเอ่ยขึ้น "แต่ก็ดีแล้วเพราะผมกลัวกระต่ายจะตื่นตูม" ชายดังกล่าวเอ่ยต่อพร้อมส่งยิ้มอ่อนๆแก่หญิงสาว "หึ ก็บอกไปสิ ว่าต้องนอนกับพวกเรา 5 คน" ชายที่นั่งริมหน้าต่างเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "คะ?!" หญิงสาวตาเบิกกว้าง เธอยังคงสับสัน "เฮ้ออ แกช่วยเงียบก่อนได้มั้ย" ชายอีกคนที่ยืนริมประตู กุมขมับพร้อมส่ายหน้า "เอ่อ..คือ..คุณป้า" หญิงสาวเอ่ยแทรกขึ้น เพื่อถามหาตัวช่วย "ตอนนี้ท่านแม่ไม่อยู่ หลังจากนี้...เธอจะอยู่ในความดูแลของพวกฉัน เคนจะคอยอธิบายให้เธอรู้เกี่ยวกับตระกูลเราและบทบาทของเธอ ตอนนี้เอาของไปเก็บที่ห้องซะ" ชายคนแรกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ราวกับคำสั่ง เสียงทุ้มต่ำที่ฟังทรงอำนาจ ทำให้ทั้งห้องเงียบ หญิงสาวพยักหน้า เธอไม่กล้าแม้จะสบตาเขาตรงๆ ความรู้สึกเกร็งเข้าครอบงำ เพราะชายตรงหน้าจ้องมองเธอแทบทะลุ "เคน พาน้องไปที" ชายหน้าประตูเอ่ยเรียกพ่อบ้าน แต่สายตาเขายังคงมองไปที่เด็กสาวไม่วางตา ไม่นานนัก พ่อบ้านวัยกลางคนก็เดินเข้าห้องมา "เชิญทางนี้ครับ คุณหนูลูน่า" เคนผายมือออกพร้อมโค้งให้เธอ "เอ่อ..เรียกลูน่าเฉยๆก็ได้ค่ะลุงเคน" หญิงสาวท่าทางเงอะงะ รีบยกกระเป๋าเดินตามชายวัยกลางคนไป "เดี๋ยวผมถือกระเป๋าให้ครับ" เคนเอื้อมมือมาจับกระเป๋า "ไม่เป็นไรค่ะ หนูถือได้" ลูน่ายื้อกระเป๋าไว้ด้วยข้อมือเล็ก แต่ไม่สามารถสู้แรงได้ เคนยิ้มให้พร้อมเดินนำ โดยมีร่างบางเดินตามไป… "หึ ยังมีคนใช้กระเป๋าเชยๆแบบนั้นอีกหรอวะสมัยนี้" ชายริมหน้าต่างพูดอีกครั้ง "เมเดฟ สุภาพหน่อย" ชายที่ก่อนหน้ายืนข้างหญิงสาวเอ่ยขึ้นพร้อมส่งสายตาดุ "ฉันเห็นด้วยกับไวบ์นะ เมเดฟ นายใจเย็นๆกับน้องหน่อย เธอเพิ่งเสียพ่อแม่ไป เก็บความดิบเถื่อนไว้สักหน่อยก็ดี" ชายริมประตูเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ "จิ๊" เมเดฟพยักหน้าเบาๆ พร้อมมองออกไปนอกหน้าต่าง "นายจะเอาไงต่อ ที่ท่านแม่ส่งจดหมายมา.." ไคมองพี่คนโตที่นั่งเงียบที่โต๊ะ สายตาดุดันของเขาเปลี่ยนไป ทำให้ไคต้องจบประโยคเสียดื้อๆ เพราะเขารู้ว่า ไม่สามารถพูดต่อไปได้ ถ้าไม่อยากเห็นโต๊ะงาช้างตรงหน้าต้องหักสองท่อน "หึ เย็นนี้เรียกมันเข้ามาด้วย" แม้ปากจะพูดแบบนั้น แต่สายตาของเกรย์กับตรงข้าม "ห๊ะ?! อย่าบอกนะว่าไอ้คูซีจะได้เข้าร่วมพิธีนี้กับเราด้วย!!" เมเดฟตะโกนขึ้นพร้อมลุกยืน "ไอ้เวรนั่น!! แค่คิดว่ามันจะมองยัยเด็กนั่นด้วยตาคู่นั้นฉันก็อยากควักตามันออกมาแล้ว" เมเดฟกล่าวต่อ "ท่านแม่สั่งมาแล้ว เราทำได้แค่ยอมรับ...ตระกูลเราต้องสืบทอดประเพณีโบราณ แม้จะมีคนเพิ่ม…คนที่ต้องห่วงคือกระต่ายน้อยนั้น ว่าจะรับมือกับชายทั้ง 5 ไหวมั้ย" เกรย์ลุกขึ้นพร้อมเดินออกมา "หลังจากนี้ จุดอ่อนเราปรากฎ...ตระกูลอื่นเพ่งเล็งเรา พวกมันรอจังหวะนี้อยู่ อะไรที่ช่วยให้แข็งแกร่งขึ้นก็ต้องยอม" เกรย์เอ่ยต่อ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป "ดีสิ ช่วงนี้อยากออกล่าคนอยู่พอดี จะได้รู้ว่าอย่ามาแหยมกับหมาป่าช่วงติด…" "ว่าแล้ว..ฉันมีงานต้องทำ..ไปละ" ไวบ์เอ่ยแทรกเมเดฟขึ้น ก่อนจะเดินออกไป "ไอการทรมานคนนี้เป็นงานอดิเรกนายสินะ" เมเดฟกล่าวไล่หลัง [ลูน่า] ทำไมเราถึงขึ้นมาด้านบนนะ? ปกติควรอยู่ด้านล่างรึเปล่า… “เอ่อ…ลุงเคนคะ เรากำลังจะไปที่ไหนหรอคะ?” “ห้องนอนคุณหนูยังไงละครับ อีกนิดจะถึงแล้วครับ” หรือเพราะเราต้องคอยกล่อมพวกพี่ๆเข้านอนกันนะ เลยต้องมาอยู่ใกล้ๆ… ก็เป็นไปได้ “ที่นี่มีนิทานหรือหนังสือเยอะมั้ยคะ?” ฉันต้องใช้อุปกรณ์ช่วยสักหน่อยแหละ “มีห้องหนังสือของตระกูลครับคุณหนู ถ้าหากอยากได้เล่มไหนมาอ่าน สามารถเข้าไปหยิบมาได้เลยครับ” ลุงเคนพูดพร้อมชี้โถงฝั่งตรงข้าม ที่มีประตูบานใหญ่ ลูน่ามองตามพร้อมพยักหน้า "แล้ว…นายท่านหลับง่ายมั้ยคะ หรือมีท่านไหนต้องทานอะไรก่อนนอนมั้ยคะ?" ฉันต้องเก็บข้อมูลจากลุงเคนนี้แหละ เริ่มงานวันแรกจะได้ไม่เงอะงะ "ถึงแล้วครับคุณหนู" เสียงลุงเคนเรียกสติฉันกลับมา แต่ฉันสติกระเจิงอีกครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม