ภาคิณคิดในใจ เขายิ้มกริ่มก่อนจะหันไปที่พี่สะใภ้ของเขาบ้าง
“ สู้ๆนะครับ ”
“ สู้...สู้อะไรหรอคะ ”
หวายไม่เข้าใจในสิ่งที่ภาคิณพูดแถมรอยยิ้มนั่นก็ดูเจ้าเล่ห์ด้วย
“ เอ่อ...ไม่มีอะไรครับผมหมายถึงเรื่องติวหนังสือกับพี่ชายผมไง สู้ๆนะครับ ”
ภาคิณยกมือทำท่าประกอบ
“ อ๋อ ขอบคุณนะคะ ”
หลังจากที่มื้ออาหารจบลงทุกคนก็พากันแยกย้าย ธาดากับหวายก็ขึ้นมาที่ห้อง เป็นห้องที่ธาดาเคยอยู่ ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพเดิมเพียงแต่คราวนี้มีการจุดเทียนหอมเอาไว้ด้วย
“ อยากอาบน้ำก่อนหรือเปล่า ”
ธาดาถามหลังจากที่เข้ามาแล้วรู้สึกทำอะไรไม่ถูก บรรยากาศก็แบบว่า….
“ ค่ะ แต่ว่าหนูไม่มีชุดเปลี่ยน ”
“ ใส่ชุดของผมไปก่อนได้มั้ย มีบางตัวที่ผมยังไม่เคยใส่ ”
ธาดาพูดพร้อมกับเดินไปหยิบชุดนอนมาจากตู้เสื้อผ้า ระหว่างที่หวายกำลังอาบน้ำอยู่นั้น อยู่ๆธาดาก็รู้สึกแปลกๆกับตัวเอง เขารู้สึกร้อนรุ่มและมีเหงื่อออกตามหน้า หิวน้ำอยู่ตลอด ธาดาดื่มน้ำไปหลายแก้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น เขาก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองเพราะรับรู้ได้ว่าน้องชายของเขาเริ่มจะตื่นตัวตัวในขณะเดียวกัน....หวายก็เปิดประตูออกมา เธอสังเกตเห็นอาการผิดปกติของธาดาทีั่นั่งอยู่ปลายเตียง
“ ไม่สบายหรือเปล่าคะ ”
หวายเดินเข้าไปถาม เธอนั่งลงข้างๆธาดาทำให้เขาต้องรีบลุกขึ้น
“ เปล่า ผมไปอาบน้ำก่อนนะ ”
ธาดารีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขามองดูตัวเองผ่านกระจกและตอนนั้นก็ฉุกคิดถึงชาที่ทิพย์ธาราเอาให้ดื่ม
“ คุณแม่นะคุณแม่ ”
ธาดาสบทออกมาเขาอดที่จะต่อว่าให้คนที่เป็นแม่ไม่ได้ก่อนจะรีบถอดเสื้อผ้าออกแล้วใช้น้ำเย็นๆจากฝักบัวดับอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่น
ธาดาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าปกติเพื่อควบคุมตัวเองที่มีความต้องการทางเพศสูงจนสถานการณ์โดยรวมเริ่มดีขึ้น ธาดาถึงได้ออกมาจากห้องน้ำ
พอเห็นหวายหลับไปแล้วธาดาก็รู้สึกโล่งใจ เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อจะเอาผ้าห่มมาปูนอนที่พื้น เนื่องจากว่าห้องของเขาตอนนี้ไม่มีโซฟาอยู่แม้แต่ตัวเดียว ก่อนจะพบว่านอกจากโซฟาจะหายไปแล้ว แม้แต่ผ้าห่มสักผืนหรืออะไรที่พอจะให้เขาใช้ปูนอนได้ก็ไม่มีแถมประตูห้องก็ถูกล็อกกลอนจากด้านนอกอีกด้วย เขารู้ดีว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของคุณปู่กับทิพย์ธาราที่อยากจะให้เขาเผด็จศึก
ธาดาเป่าลมหายใจออกเป็นช่วงยาวก่อนจะตัดสินใจนอนลงที่พื้นแข็งๆนั้น
คืนนี้เขาไม่ไว้ใจตัวเอง
เพราะฤทธิ์ของยาที่ยังไม่หมด ความรู้สึกทรมารที่เกิดขึ้นเลยทำให้ธาดานอนไม่ได้และระหว่างนั้นเอง...หวายก็ตื่นขึ้นมา เธอวาดขาลงจากเตียงแล้วก็ยังเป็นฝั่งเดียวกับที่ธาดานอนอยู่ เพราะไม่ทันจะได้ระวัง เธอจึงสะดุดขาธาดาและล้มลงทับไปที่ตัวของธาดาเต็มๆ ต่างคนต่างก็ตกใจกัน โดยเฉพาะธาดาที่เมื่อเขาถูกสัมผัสตัวก็เกิดอาการร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้งแต่เขาก็ยังพยายามข่มใจเอาไว้
อย่านะธาดา อย่าเชียวนะ
“ ขะ...ขอโทษค่ะ!! แล้วอาจารย์มานอนตรงนี้ทำไมคะ ”
หวายถามหลังจากลุกออกไปจากตัวธาดาได้แล้ว
“ ผม……. ”
พอธาดาเอาแต่อ้ำอึ้งหวายเลยรู้ทันทีว่าคงเป็นเพราะเขาต้องการจะเสียสละให้เธอนอนเตียงนุ่มสบายๆคนเดียวเหมือนตอนที่อยู่โรงแรม
อาจารย์จะน่ารักไปไหนค่าาา
“ อาจารย์ขึ้นไปนอนข้างบนเถอะค่ะ เราเคยนอนด้วยกันแล้วนี่ก็ไม่เห็นจะเกิดอะไรขึ้นสักหน่อย ”
หวายยิ้มหวานออกมา เธอเชื่อมั่นในความเป็นสุภาพบุรุษของธาดาบวกกับที่เข้าใจว่า เขาเป็น "เกย์" เลยไม่เคยคิดจะระวังเนื้อระวังตัว
“ แต่ว่าผม…… ”
“ ไม่มีแต่ค่ะ ขึ้นมานอนด้วยกันเถอะ ”
พอเห็นว่าธาดาเอาแต่อ้ำอึ้งท่าเดียวก็ยิ่งทำให้หวายรู้สึกเกรงใจเจ้าของห้องอย่างเขา หวายดึงแขนธาดาให้ขึ้นมาที่เตียงก่อนที่ตัวเองจะล้มตัวลงนอนบ้าง สุดท้ายธาดาก็ยอมนอนที่เตียงแต่เขาเลือกที่จะนอนชิดขอบเตียงอีกฝั่ง
เวลาผ่านไปได้สักพักต่างคนก็ต่างตกอยู่ในความเงียบ พอหวายสังเกตุเห็นธาดายังไม่นอนจึงตัดสินใจถามขึ้น
“ อาจารย์ไม่เคยนอนกับผู้หญิงมาก่อนหรอคะ ”
หวายกำลังคิดในใจว่า "เกย์" เป็นเพศที่ไม่อยากเฉียดใกล้ผู้หญิงขนาดนี้เลยหรอ ขนาดตกอยู่ในสถานการณ์บังคับก็ยังจะมัวแต่หวงเนื้อหวงตัว
“ ไม่เคย ”
คำถามของหวายทำให้ธาดาแอบเขินกับคำตอบเล็กน้อย
ทำไมเราต้องมาตอบคำถามเรื่องแบบนี้ด้วยนะ
ด้านหวายพอได้ยินแบบนั้นก็หันหน้าเข้าไปหาธาดาก่อนจะจ้องหน้าของเขาแล้วอมยิ้ม
“ งั้นอาจารย์ก็คิดซะว่าหนูไม่ใช่ผู้หญิงสิคะ คิดว่าหนูเป็นหมอนข้างก็ได้ ”
ใบหน้าของหวายที่ดูใสซื่อไร้เดียงสาทำให้ธาดายิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นแต่สำหรับหวายเธอกลับพูดทุกอย่างออกมาจากความรู้สึกนึกคิดเพราะเธอไม่อยากให้ธาดารู้สึกไม่ดีเพียงเพราะว่าคนที่นอนข้างๆ...ไม่ใช่ผู้ชาย
“ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรเราสองคนก็ไม่ควรจะใกล้ชิดกัน ”
“ แต่หนูไว้ใจอาจารย์ค่ะ ”
หวายยังคงจ้องใบหน้า "อาจารย์ธาดาของเธอ" และน้ำเสียงที่ดูจริงจังก็ทำให้ธาดาหันมาหาอีกคนจนได้ ทั้งคู่ต่างก็นอนมองหน้ากันเงียบๆอยู่เป็นนาทีก่อนที่ธาดาจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้
“ อย่าไว้ใจผมเลยเพราะตอนนี้ผมเองก็เริ่มจะไม่ไว้ใจตัวเองแล้ว ”