หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองไปชั่วขณะ ฉะนั้นทั้งห้องจึงมีแค่เสียงครางของเครื่องปรับอากาศดังออกมาแผ่วเบาเป็นระยะ ‘ผู้ชายที่ขโมยจูบแก้มของเราในลิฟต์เมื่อสี่ปีก่อน เขาสมบูรณ์แบบไปทั้งเนื้อทั้งตัว เรียกได้ว่าสมชายชาตรีตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหล่อลากไส้ รูปร่างทรงพลัง และที่สำคัญเรายังจดจำได้ดีว่าเขามีลูกเล่นแพรวพราวมากขนาดไหน มองใกล้ๆ เขาหล่อขึ้นกว่าเดิมมาก เอ่อ…มันมากเสียจนเราตาพร่า และใจสั่นไหวแบบแปลกๆ คิดอะไรไม่เข้าท่าเนี่ยยัยว่าน บ้าจัง!’ เมื่อระลึกได้ว่าตัวเองกำลังเผลอชื่นชมบุรุษผู้สมบูรณ์แบบตรงหน้าเสียมากมาย วาเนสซ่าก็ขับไล่ความคิดแสนจั๊กจี้หัวใจ ด้วยการสลัดศีรษะที่ปกคลุมด้วยกลุ่มผมนุ่มสลวยเบาๆ แล้วเบนสายตาจากใบหน้าหล่อเหลาอย่างเร็วจี๋ แต่ยังไม่วายมีริ้วแดงๆ แต่งแต้มที่โหนกแก้มทั้งสองข้าง ปีเตอร์ยกมือใหญ่ขึ้นลูบปลายคางบึกบึน พลางกวาดสายตาสีมรกตสำรวจตั