"ดี ถ้างั้นข้าจะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน" ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มให้หญิงสาว ทว่ารอยยิ้มนั้นมันกลับดูฝืนธรรมชาติเสียเหลือเกิน
"ได้ เราจะคุยเรื่องอะไรกันล่ะ"
หลี่เวยกลับมาทำสีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้ง แววตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความจริงจัง
"เรื่องอนาคตของเจ้า"
"อนาคตของข้าทำไม หรือเจ้าจะเอาข้าไปขายเพื่อชดใช้ค่าอาหารรสชาติปะแล่มๆ นั่น บอกไว้ก่อนนะว่าข้าไม่ได้เรียกร้องให้เจ้าทำมาให้ เพราะฉะนั้นเจ้าจะมาคิดค่าอาหารกับข้าไม่ได้" หญิงสาวร่ายออกมายาวเหยียด
หลี่เวยรู้สึกอ่อนใจอย่างบอกไม่ถูก ชายหนุ่มมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยท่าทางที่ราวกับว่าเขาเจอคนสติไม่สมประกอบ
"เจ้ามองอะไร?" นางหันมาตวาดใส่ชายหนุ่มดังลั่น
"เจ้านั่นแหละเป็นอะไร ข้าพูดตอนไหนว่าจะเอาเจ้าไปขาย" หลี่เวยตอบเสียงขรึม
หลินเสี่ยวเป้ยผงะไปเล็กน้อย หญิงสาวมีท่าทีอ่อนลง แต่ก็ราวกับกลัวจะเสียหน้าที่เมื่อครู่ตนเองคาดเดาเรื่องราวผิดไป นางจึงยกแขนขึ้นกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างมีชั้นเชิง
"หึ่ม งั้นก็แล้วไป ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้าก็แล้วกัน" หญิงสาวกล่าวด้วยใบหน้าแดงซ่านเพราะความอับอาย
"เอาเรื่องข้า? เหอะ พูดอย่างกับตัวเองเป็นลูกคุณหนูงั้นแหละ" หลี่เวยเค้นเสียงขึ้นจมูก คำพูดที่เปล่งออกมาติดแววขบขันเล็กน้อย
ร่างผอมสูงเอนพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าแฝงรอยยิ้มยียวนชัดเจน
"เจ้า!" หญิงสาวได้ฟังคำพูดของชายหนุ่มก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ร่างระหงผุดลุกขึ้นยืนพลางกระทืบเท้าเสียงดังปักๆ
"แม่นาง ข้าไม่รู้หรอกนะว่าก่อนหน้านี้เจ้าจะมีฐานะเช่นไร แต่ก็อย่าลืมไปด้วยเล่าว่าตอนนี้เจ้าเป็นเพียงสตรีเร่ร่อนไร้หลักแหล่งน่ะ" ชายหนุ่มกล่าวด้วยท่าทีสบายๆ
หลินเสี่ยวเป้ยมองเสื้อผ้าที่ตนเองใส่ซึ่งตอนนี้มันขาดวิ่นไปหลายส่วน อีกทั้งยังดำคล้ำจนแทบไม่หลงเหลือความงดงามก่อนหน้าอีกต่อไป
นางร้ายตัวประกอบกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ แต่นางก็สำเนียกตัวเองได้ว่าตอนนี้ตนหาใช่คุณหนูใหญ่ของตระกูลหลินอีกแล้ว ดังนั้นหญิงสาวจึงข่มอารมณ์แล้วนั่งลงบนเตียงอีกหน
หลี่เวยมองสตรีตรงหน้าที่พยายามระงับความโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ เขาเค้นเสียงหัวเราะออกจากลำคอก่อนเปรยขึ้นเสียงเรียบ
"เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าแค่ต้องการให้เจ้าออกไปจากบ้านของข้าเมื่อเวลาเช้ามาถึง"
"ออกไปหรือ ออกไปไหนเล่า" หญิงสาวถามอย่างไม่เข้าใจ
"ไปตามทางของเจ้าน่ะ ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่"
หลินเสี่ยวเป้ยผุดลุกขึ้นอีกครั้ง ใบหน้างามเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ทว่าดูเหมือนคราวนี้นางจะลุกขึ้นเร็วเกินไปหญิงสาวจึงมีอาการหน้ามืดเล็กน้อย
"ว๊ายย! " ขณะที่หญิงสาวกำลังโอนเอนเตรียมจะล้มลงกับพื้น ชายหนุ่มก็แข็งรถมาเบื้องหน้ารับหญิงสาวเข้าสู่อ้อมแขนไว้ได้ทัน
"ร่างกายอ่อนแอ ใครสั่งสอนให้เจ้าลุกขึ้นยืนแบบนี้กัน"
หญิงสาวหลับตาปี๋ นางได้สิ่งที่อีกฝ่ายพูดชัดเจน แต่ก็ไม่ตอบอะไร ตอนนี้อาการหน้ามืดยังอยู่ หญิงสาวจึงตัดสินใจหลับตานิ่งรอให้อาการหน้ามืดหายไปเสียก่อน
ดังนั้นเวลานี้ท่าที่ทั้งสองอยู่จึงค่อนข้างน่าอายเล็กน้อย หญิงสาวร่างเล็กเอนกายเข้าหาบุรุษที่นั่งอยู่บนรถเข็น ท่าทางคล้ายคู่รักไม่ผิดเพี้ยน
ใบหน้าสวยซุกเข้ากับหน้าอกของชายหนุ่ม จมูกที่เชิดรั้นเล็กน้อยของนางสูดกลิ่นตัวของบุรุษแปลกหน้าเข้าไปจนเต็มปอด
เดิมทีการสัมผัสตัวกับคนที่มีฐานะต่างกับตัวเองเป็นสิ่งที่หลินเสี่ยวเป้ยรังเกียจมากที่สุด แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้หญิงสาวจึงรู้สึกสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หลี่เวยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ชายหนุ่มนั่งอยู่บนรถเข็นนิ่งๆ สองมือประคองหยิงสาวเอาไว้รอให้นางผละออกไป
"เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า" เวลาผ่านไปหญิงสาวก็ยังคงไม่ขยับ หลี่เวยกังวลว่าบางทีอาจเกิดอะไรขึ้นกับนางจึงเอ่ยถาม
"ข้ายังหน้ามืดอยู่ เจ้าอยู่นิ่งๆ ก่อน" หญิงสาวตอบเสียงอู้อี้ ใบหน้างามดุจเซียนจิ้งจอกซุกแน่นเข้าที่หน้าอกแกร่ง
หลี่เวยกลอกตาไปมา เขาไม่รู้ว่าตอนนี้หญิงสาวคิดจะทำอะไรกันแน่ แต่ถึงยังไงตอนนี้เขาก็ทำได้แต่รอเท่านั้น
เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ สุดท้ายหลินเสี่ยวเป้ยก็กล่าวขึ้นกระทันหัน
"ข้าไม่มีที่ไป"
"หื้ม? " หลี่เวยส่งเสียงผ่านลำคอ ชายหนุ่มเหลือบมองหญิงสาวในอ้อมแขน
"ข้าบอกว่าข้าไม่มีที่ไป"
"แล้วเจ้าจะให้ข้าทำยังไง"
"เจ้าก็ให้ข้าอยู่ที่นี่ด้วยสิ" หลินเสี่ยวเป้ยเอ่ยพลางชอนตาขึ้นมองเขา
ดวงตาสองคู่สบประสานกัน หลี่เวยสัมผัสได้ว่าตอนนี้หัวใจของเขากำลังเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง ฉับพลันเขาเบนหน้าไปอีกทางไม่สนใจท่าทางน่าสงสารของหญิงสาวอีก
"จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร ข้าเป็นบุรุษ เจ้าเป็นสตรี บุรุษกับสตรีที่ยังไม่แต่งงานจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร อีกอย่างเจ้ากับข้าก็ไม่ได้อยู่จักกันด้วยซ้ำ" หลี่เวยตอบเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อย
หลินเสี่ยวเป้ยมองเห็นอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ใบหน้าของชายหนุ่มกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงดุจอิงเถา
ริมฝีปากสวยของหลินเสี่ยวเป้ยยกขึ้นน้อยๆ
"เช่นนั้นข้าจะแต่งกับเจ้า"
หลี่เวยหันควับ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจับจ้องใบหน้าของหญิงสาวด้วยความตกตะลึง
หญิงสาวไม่รีรอให้อีกฝ่ายกล่าวปฏิเสธ นางก็รีบเอ่ยแนะนำตัวทันที
"ข้าชื่อหลินเสี่ยวเป้ย เรียกข้าว่าเป้ยเป้ยก็ได้"
"เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน! " หลี่เวยตั้งสติ เขาหันหญิงสาวให้ลุกขึ้น ก่อนจะถอยเข็นรถถอยออกมา
หลินเสี่ยวเป้ยมองอีกฝ่ายด้วยความงุนงง
"จู่ๆ คิดจะมาแต่งกับข้า เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!?"
"วางใจได้ ข้าจะไม่ได้มาอยู่ที่นี่เฉยๆ หรอกนะ ขาของเจ้าใช้งานไม่ได้ งานบ้านต่างๆ ข้าจะเป็นคนจัดการดูแลเอง แน่นอนว่าสิ่งที่ข้าต้องการมีเพียงแค่ที่ซุกหัวนอนเท่านั้น"
หลี่เวยมองหญิงสาวตรงหน้าพลางหรี่ตาแคบ
"เจ้าทำงานบ้านเป็นหรือ? "
หลินเสี่ยวเป้ยชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่หญิงสาวจะเผยรอยยิ้มพลางเชิดหน้า
"แน่นอนอยู่แล้ว"
หลี่เวยยังคงไม่ไว้ใจ เขาหรี่ตาพลางจ้องเขม็งไปที่หญิงสาว
"จริงนะ? "
"นะ แน่นอน" คราวนี้หลินเสี่ยวเป้ยเริ่มตอบเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้างามมีเหงื่อผุดพราย