จนแล้วจนรอดฐากูรยังตะขิดตะขวงใจ ในการคบหากับสตรี ไม่ว่าเธอผู้นั้นหรือแม้ภัทราสวยขาดบาดใจเพียงใด เขาหวังใช้ความน่ารักความเก่งความสวยของภัทราเปลี่ยนแปลงตัวเอง นับแต่วันนั้นถึงวันนี้เขาคบกับภัทราร่วมหกเดือน ครอบครัวสองฝ่ายต่างรู้ดีเพราะเขาเปิดเผย ส่วนภัทราพาเขาเข้านอกออกในบ้านของเธออย่างโปร่งใสเมื่อสามเดือนก่อน
เวลาไปรับไปส่งภัทรายังไนต์คลับทุกครั้งมักเจอภาพแขกวีไอพี เรียกให้ภัทราไปนั่งคุยด้วย ส่วนใหญ่คนเป็นแฟนย่อมสวมควรหึงหวงตรงข้ามฐากูรกลับรู้สึกเฉยๆ บางครั้งภัทราแอบสังเกตความเฉยเมยบนดวงหน้าฐากูร หากแต่ภัทราไม่เคยถามอะไรมากความ ฐากูรไม่ต้องการทรมานภัทราด้วยการแต่งงาน เพราะหมายถึงทั้งชีวิตต้องอยู่ร่วมกันเขาไม่อาจทำร้ายภัทราไม่ได้
“ม้าว่างั้นหรือครับ”
“อาหนูภัทราลื้อเป็นคนดี น่ารักที่สำคัญสวยมาก ม้าเห็นม้าชอบทันทีนึกไม่ถึงลื้อจะตาแหลมเอาอาหนูภัทรามาเป็นสะใภ้บ้านเราให้ได้นะ อาป๊าลื้อคงจะยิ้มแก้มฉีกที่จะได้อุ้มหลานซะที”
บุตรชายเพียงคนเดียวอันเป็นความหวังช้อนดวงตามองมารดา ฐากูรแอบพรูลมหายใจไล่ความกลัดกลุ้ม
“ผมจะพยายามครับม้า”
“ต้องอย่างนั้นสิ ทางนั้นไฟเขียวให้ไปสู้ขอ รอแค่วันปั๊มหลานให้อาป๊ากับม้าอุ้มก็พอ”
มารดาแสดงอาการดีใจ ราวกับได้เพชรนิลจินดามีค่ามหาศาล เพราะตลอดเวลาข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับบุตรชายเสื่อมเสียวงศ์ตระกูลอย่างมาก การแต่งงานครั้งนี้ย่อมลบข้อครหาและข่าวลือได้ชะงักนักแล
“ผมขอตัวนะครับม้า”
“จ้าพรุ่งนี้อั้วกับอาป๊าจะไปขอเมียให้นะ”
เมียเหรอฟังแล้วแสลงหูพิกลนี่เขาจะมีเมียจริงๆ หรือ ชายเจ้าสำอางพรูลมหายใจก่อนจากมารดาเข้าห้อง พรุ่งนี้ เขาท่องคำว่าพรุ่งนี้ไปตามทาง สวนกับบิดากำลังเดินสวนตรงบันได มือขาวเรียวพุ่มไหว้บิดาก่อนผละจากไป เจ้าสัวฐิติศักด์ได้แต่ส่งสายตามองตามบุตรชายผู้เป็นความหวังเดียวด้วยสายตางงงัน หันกลับมาอีกทีพบใบหน้าภรรยาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
ณ บ้านใหญ่อีกหลัง
“นั่งนึกอะไรอยู่วะกัญจน์”
มือใหญ่วางกระแทกลงตรงไหล่ชายหนุ่มหุ่นทรมานใจสาวน้อยสาวใหญ่ กัญจน์ วิษณุพงศ์ ทายาทตระกูลดังแห่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เลื่องชื่อ ที่สุดในเมืองไทยขณะนี้ ผู้บริหารไฟแรงแห่งวิษณุพงศ์ กรุ๊ป หรือ ในนามวีพี พรอพเพอตี้ บรัษัท เจ้าของคอนโดริมน้ำ บ้านจัดสรร รีสอร์ท อีกมากมายทั่วประเทศไทย ปทิตเพื่อนรักวัยทะโมนตีรันฟันแทง มาด้วยกันตั้งแต่เรียนช่าง ต่อจากช่างเขาก็ไปเรียนสถาบัน ผลิตวิศวกร อันดับหนึ่งของประเทศ พร้อมใจเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโท และเอกยังสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยติดอันดับดีเด่นของโลก เพื่อกลับมาดูแลกิจการต่อจากบิดา เพราะเกษียณอายุตัวเองอีกไม่กี่เดือน
“อย่าบอกนะว่า นึกถึงแม่สาวนักร้องไนต์คลับ ที่แกประมูนจูบเธอได้”
“สู่รู้” กัญจน์เบี่ยงร่างสูงใหญ่ หลบการกล่าวหาอันคือความจริง
“หรือไม่จริงฉันกับแกคบกันมากี่ปีไม่รู้ใจจะให้ใครรู้ใจแกวะ” ปทิตกระแทกก้นลงนั่งข้างเพื่อนรักข้างสระน้ำสีฟ้า
“จริงก็จริง”
“นั่นแน๊ะยอมรับแล้วใช่ไหมล่ะ”
“อืมก็ปากหล่อนหวานจริงๆนี่หว่า เสียดายไม่เห็นหน้าไม่น่าใส่หน้ากากเลย”
“จริงๆผู้หญิงทำงานกลางคืนแบบนั้นไม่น่าอายสายตาแขกแล้วนะ กะอีแค่จูบพวกหล่อนคงทำมามากกว่านั้น” ปทิตเอ่ยวาจาดูถูกเพศแม่
ความรู้สึกภายในใจและสัมผัสที่กัญจน์ได้รับจากริมฝีปากนุ่มนิ่มหอมหวานในคืนนั้น ตรึงหัวใจอันกระด้างต่อสตรีเพศของเขาให้ชะงักงัน แรกๆ แค่คิดจะจุมพิตเธอเพียงแผ่วเบา เกรงเธออายเพราะมีสายตาผู้คนนับหลายร้อยคู่ จับจ้องกลางเวที ทว่าความหวานความนุ่มจากกลีบปากสีกุหลาบ คู่นั้นกลับดึงดูดให้เขาทำมากกว่าแตะแผ่วพลิ้ว จู่ๆความอุกอาจในกายและใจที่ฮึกเหิม ยุยงให้เขาสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปฉกชิมความหวานในช่องปากเธอ และไม่ผิดหวังรสสัมผัสจากภายใน ช่างหวานล้ำเกินคำบรรยาย คุ้มค่าเงินห้าหมื่นได้เสียไปจากการประมูลจูบในครั้งนั้น
หากเธอไม่วิ่งหนีลงเวทีไปเสียก่อน เขาคิดถอดหน้ากากเพื่อดูใบหน้าแท้จริงของเธอว่างามสักแค่ไหน โชคร้ายตรงที่ว่าเขาไปเกือบร้านใกล้ปิด ไม่ทันได้ดูหญิงสาวร้องเพลง ให้ตายเถอะแค่เรือนร่างอรชร ภายใต้เสื้อผ้าสีสด วาบหวิวยาวกรอมเท้าผ่าถึงหน้าขา ดึงดูดให้เขาหัวใจเต้นระรัวได้ไม่ยากอีกสัมผัสที่เขารับรู้คือเธอเดียงสากับจุมพิตมากกว่าจะคิดว่าเธอเจนจัดกับผู้ชายและสัมผัสจากมือชาย เขาไม่เชื่อจนต้องหารทางพิสูจน์อีกครั้ง
เมื่อคืนเขาไปที่ไนต์คลับแม่รี่บีโชคไม่เข้าข้าง พนักงานบอกว่าเธอไม่มาร้องเพลง เขายังเพียรนั่งรอการมาของเธอทั้งคืน สุดท้ายความหวังเขาเหลือเพียงศูนย์ เมื่อประตูร้านเริ่มปิดลงหลังจากหมดเวลาให้บริการ
“ทีชวนอิดออดไม่อยากไป แต่พอไปไม่อยากกลับแถมยังใจป้ำร่วมประมูลจูบหล่อนตั้งห้าหมื่น ได้จูบเดียวนอนก็ไม่ได้นอน นมไม่ได้จับเสียดายชะมัดไอ้กัญจน์” ปทิตยังคงครางไม่ยอมหยุด เขาเองล่ะชวนกัญจน์ไปเที่ยวที่นั่นหลังออกจากผับแห่งหนึ่งชวนกันไปต่อ เพราะยังติดลมไม่อยากกลับรังนอน เมื่อแรกกัญจน์ไม่อยากไปต่อ แต่เมื่อทนเสียงรบเร้าจากปทิตไม่ไหวรวมทั้งเพื่อนคนอื่นๆด้วยจึงไปด้วยความไม่เต็มใจ
พอดีขณะบนเวทีประกาศประมูลอะไรสักอย่างในตอนนั้นดึกมากแล้วผู้คนบางตา จึงได้ที่นั่งใกล้เวที พวกเขาสั่งเครื่องดื่มคนละขวดไปด้วยกันสี่คน เมื่อได้ยินชัดเจนเกี่ยวกับการประมูลจูบนักร้องสาวแสนสวย เพื่อนๆมาด้วยกันสามคน จึงยุยงส่งเสริมให้ผู้ชายฐานะดีกว่าคนอื่นๆให้ร่วมประมูลเพราะถ้าได้จูบถือว่าคุ้มกัญจน์ทั้งหล่อสูงสง่า สาวเล่นหูเล่นตาตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไนต์คลับดีกรีความเป็นดอกเตอร์พ่วงท้ายอีกต่างหาก
สุดท้ายผลการประมูลคือกัญจน์ชนะอาเสี่ยใจไม่ป้ำทั้งหลาย ด้วยอัตราประมูลห้าหมื่นบาท นักร้องสาวที่ทางไนต์คลับบอกว่าจะขึ้นมามอบจูบให้ครั้งนี้เป็นถึงดาวเด่น เขาอยากรู้ว่าเธอจะเด่นสักแค่ไหน ทันทีที่ร่างอรชรก้าวขึ้นบนเวที กัญจน์ตะลึงงันรู้สึกพอใจมองจนตาค้างกับหุ่นเจ้าหล่อนหากแต่ขัดใจตรงหน้ากากขนนกสีขาวปิดบังอำพรางใบหน้า หากได้เห็นดวงตานั้นชัดเจนภายใต้หน้ากากคงซ่อนความเซ็กซี่ไว้มากล้น เมื่อประมูลชนะเขาต้องได้จูบ
สองหนุ่มกำลังสนทนาออกรสเสียงดังขึ้น ปทิตหันไปพุ่มมือไหว้เจ้าของเสียง
“คุณแม่มีอะไรหรือครับ”
“มีสิ ไปธุระเป็นเพื่อนแม่หน่อย วันนี้ไม่ได้ออกไปไหนใช่หรือกัญจน์” มารดาผู้ยังสวยสะคราญเอ่ยถาม