“เดินไปสิจ้ะ พาเจ้าสาวไปขึ้นเวที” มารดาสะกิดข้างหูกัญจน์ เพื่อดึงสติให้พาเจ้าเดินขึ้นเวที บนเวทีเหมือนเสกมนต์ คุณมัทวันชำเลืองแววตาเจ้าเล่ห์ไปทางคุณภัคจิรา พิธีดำเนินไปด้วยท่าทีขัดเขิน ไร้ความเป็นธรรมชาติระหว่างคู่บ่าวสาว ทั้งคู่เพิ่งได้พบกันไม่กี่นาที การกล่าวคำขอบคุณล้วนมาจากสคริป ถ้อยคำขอบคุณจึงดูกระท่อนกระแท่นไปบ้าง สาระไม่ได้อยู่ตรงพิธีสากลเหล่านั้น หากแต่อยู่ที่คนสองคนซึ่งไม่เคยรู้จักกันมากกว่า พิธีการจัดรวดเร็วไร้ที่ติหนำซ้ำวินาที ขณะนี้สองหนุ่มสาวไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้าต่อกัน ทั้งภัทราและกัญจน์ต่างนั่งจ้องกระดาษลายน้ำตราครุฑบนโต๊ะราวกับอยากให้ครุฑกระเด็นออกมา “เซ็นสิจ๊ะกัญจน์” “ต้องจดด้วยหรือครับ เว้นระยะให้เราสองคนได้มีเวลาศึกษากัน ก่อนจดทะเบียนไม่ดีหรือครับ” “จดเถอะไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว พรหมได้ลิขิตไว้แล้วนะกัญจน์”