“ไม่ใช่แค่หวั่นไหวค่ะ ตอนนี้แทบจะละลายกลายเป็นวุ้นแล้ว” หน้าตาของหญิงสาว ห่างไกลจากคำว่าละลาย ดวงตากลมโตไหวระริก เปล่งประกายสนุกสนานล้อเขา ดูแล้วคงแซวเล่นมากกว่าจริงจัง ทำเอาชายหนุ่มใจแป้ว เสียดาย
“นึกว่าจะหลงเราจริง”
“แหม...แค่นี้ก็แทบจะแถมให้คุณพงษ์หมดหน้าตักอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่กลัวโดนเจ้านายเล่นงาน เจนจะแถมมากกว่าขายซะอีก ขอบอก” หญิงสาวก้มลงทำท่ากระซิบกระซาบเหมือนกลัวใครได้ยิน ก่อนทั้งคู่จะสบตากัน แล้วหัวเราะออกมา
“คุยอะไรกันอยู่ครับ ผมเข้ามาขัดจังหวะหรือเปล่า”
“นายวิชญ์!” เจนจิราร้องอุทานด้วยความตกใจ จู่ๆ เจ้านายก็โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง
เตวิชญ์เลิกคิ้วสูง ปากยิ้ม แต่ดวงตาแข็งกระด้าง หน้าตึงเปรี้ยะ เมื่อเห็นลูกน้องสาวก้มหน้าลงไปใกล้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผิวเข้ม ไปสนิทสนมมักคุ้นกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ปากนี่ยิ้มไม่หุบ
“สวัสดีครับคุณเตวิชญ์”
“สวัสดีครับคุณธัชพงษ์ มีอะไรกันเหรอครับ ได้ยินเสียงผู้ช่วยผมหัวเราะดังออกไปถึงข้างนอก”
เธอหัวเราะเสียงดังเหรอ!?
เจนจิรายกมือขึ้นปิดปากตัวเอง พลางบ่นขมุบขมิบ ไม่พอใจเจ้านายที่หาว่าเธอเสียงดัง กำลังจะอ้าปากเถียง แต่ก็ต้องชะงัก นั่งนิ่งตัวแข็งค้างด้วยความตกใจ เมื่อเตวิชญ์เดินอ้อมมายืนด้านหลัง แล้วโน้มตัวลงมาใกล้จนได้กลิ่นน้ำยาโกนหนวด และไอร้อนผ่าวจากแผ่นอกหนา
“ผู้ช่วยผมชวนคุยเรื่องไร้สาระ เสียเวลาคุณธัชพงษ์หรือเปล่าครับ” ปากถามลูกค้าหนุ่ม แต่สายตากลับหันมาจ้องหน้าผู้ช่วยสาว
“เปล่านะคะ เจนก็แค่...”
“แค่อะไร”
ถ้าเพียงแต่เขาถามดีๆ เธอก็ไม่รู้สึกเกร็งหรอก แต่นี่เจ้านายหนุ่มกลับก้มหน้าลงมาใกล้อีก จนปลายจมูกแทบจะชนหน้าเธอ เจนจิรากระถดตัวออก แต่ก็ติดลำแขนแกร่งที่วางพาดบนพนักเก้าอี้ จึงได้แต่นั่งนิ่ง และกลั้นใจตอบกลับ
“จะ...เจนก็แค่กำลังจะเสนอโปรดีๆ ให้คุณพงษ์”
“โปรเหรอ...ไหนดูสิ ว่ามีโปรอะไรน่าสนใจ” แขนที่วางพาดอยู่เก้าอี้ เอื้อมไปคลิ้กเม้าข้างตัวหญิงสาว เท่ากับตอนนี้เจนจิรากำลังตกอยู่ในอ้อมแขนของเจ้านายหนุ่ม
จะขยับตัวก็ไม่กล้า จะเงยหน้าขึ้นมองก็ดูเกร็งๆ เธอจึงได้แต่นั่งตัวลีบเล็ก ทำอะไรไม่ถูก ลูกค้าหนุ่มก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างเจ้านายกับลูกน้องสาว
“เดี๋ยวสินค้าล็อตนี้ผมลดราคาให้คุณธัชพงษ์อีกสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นไงครับ ในฐานะที่เป็นลูกค้าใหม่ และก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของเรา”
“นายวิชญ์!” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายด้วยความแปลกใจ เกิดจะใจดีอะไรขึ้นมา
เมื่อวานเธอเข้าไปคุยด้วย จะขอจัดโปรให้ธะนะฟาร์มเป็นพิเศษจากส่วนลดเดิมที่มีให้อยู่แล้ว เพราะสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และมีออร์เดอร์ทุกเดือน เขากลับมองหน้าเธอราวกับจะไปทำให้ธุรกิจเขาล่มจมก็มิปาน คุยงานด้วยก็หน้าบูดหน้าบึ้ง คำพูดเชือดเฉือนเหมือนจะงาบหัวเธออีก จนต้องถอยออกมา
“ดีมั้ย” เจ้านายหันมาจ้องหน้าประสานสายตา
ดีมั้ย!...ก็นั่นมันข้อเสนอที่เธอบอกเขาไปเมื่อวาน ลอกความคิดกันชัดๆ ชิ!!
“ก็ดีค่ะ”
“ขอบคุณนะครับคุณเตวิชญ์ ที่ใจดีทั้งลดทั้งแถมให้”
“ต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อยสิครับ ก็คุณธัชพงษ์เป็นลูกค้าวีไอพีของเรานี่ จริงมั้ยเจน”
“เอ่อ...ค่ะ”
“ขอบคุณครับ ที่ให้ความพิเศษกับธะนะฟาร์ม สินค้าของแสงสุขดีมีคุณภาพอยู่แล้วใครๆ ก็ต้องการ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณนะครับ โปรดี สินค้าคุณภาพ ถือว่าเราวินๆ ทั้งคู่”
“ขอบคุณครับ” เมื่อมีลูกค้าเอ่ยชม ในฐานะผู้บริหารเตวิชญ์ก็ยิ้มรับ แต่รอยยิ้มกลับไปไม่ถึงดวงตา
“ยังไงผมก็คงต้องขอบคุณคุณเจนเหมือนกัน ที่ดูแลธะนะฟาร์มเป็นอย่างดี ไม่มีข้อติ” ธัชพงษ์หันไปส่งยิ้มให้หญิงสาวคนเดียวในห้อง ที่ดูท่าเกร็งๆ เมื่อเจ้านายเข้ามา บ่งบอกได้ว่าเตวิชญ์คงจะเคร่งกับลูกน้องสาวไม่น้อย
“ยินดีเลยค่ะ”
“แต่ห้ามลืมสัญญานะครับ ว่าเที่ยงนี้คุณเจนจะพาผมไปทานข้าว”
“ไม่ลืมแน่นอนค่ะ เดี๋ยวเจนพาไปทานอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ รับรองว่าต้องอร่อย”
“ขอบคุณครับ...ผู้ช่วยคุณเตวิชญ์ดูแลลูกค้าดีขนาดนี้ ผมไม่กล้าเปลี่ยนใจไปซื้อเจ้าอื่นหรอกครับ” ลูกค้าหนุ่มยิ้มใส่ตาหญิงสาว เขากำลังชมเธอจากใจ
“ขอบคุณค่ะคุณพงษ์” เจนจิราฉีกยิ้มกว้างรับคำชมจนดวงตายิบหยี ปลื้มปริ่มเมื่อลูกค้าชมต่อหน้าเจ้านาย ตัวแทบจะลอยจากเก้าอี้ แต่พอหันไปสบตาเตวิชญ์ รอยยิ้มก็เจื่อนลง หน้าแห้งเป็นลูกโป่งถูกเจาะปล่อยลม
ใบหน้าเจ้านายตรึงเปี๊ยะ ดวงตาแข็งกร้าว เมื่อเห็นลูกน้องสาวยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู
ติดใจสินค้า หรือคนกันแน่
...หมั่นไส้ ก็แค่คำชม แล้วไง เขาไม่คิดจะแจกโบนัสให้เธอเพราะคำชมของลูกค้าหรอกนะ ไม่ต้องดีใจออกนอกหน้าขนาดนั้น
...อ้อ...ดูหน้าแล้วคงไม่สนใจโบนัสหรอก แต่สนใจลูกค้าวีไอพีมากกว่า...หึ!
“เอ่อ...เจนว่าจะพาคุณพงษ์ไปเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหารในเมือง แต่คุณพงษ์อยากลองไปทานที่โรงอาหารแสงสุข จะได้เอาไปปรับใช้ที่ธะนะฟาร์ม นายวิชญ์ว่าดีมั้ยคะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสีหน้าเจ้านาย ตอนนี้เขาคงไม่ปลื้มเธอเท่าไหร่แล้ว ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ไม่ใช่คนโปรดเหมือนเดิม
“...”
“เอ่อ...หรือเจนควรจะพาไปทานที่ร้านดีกว่า”
ใบหน้าสาวก็เจื่อนลง เมื่อถามความเห็นอะไร เจ้านายก็ไม่ตอบ เตวิชญ์ตอนนี้ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เจนจิราจึงหันไปหารือกับลูกค้าหนุ่มแทนเจ้านาย ในเมื่อต้องการไปกินข้าวที่โรงอาหาร เธอก็ไม่ขัดอยู่แล้ว ยังไงก็ได้ “ถ้าคุณพงษ์อยากลองไปทานที่โรงอาหารของแสงสุข ก็ได้นะคะ รับรองอาหารอร่อยทุกอย่าง เดี๋ยวเที่ยงนี้เจนจะพาไปลองชิม”
“จะพาไปทานโรงอาหารได้ไง ลูกค้าระดับวีไอพี” เสียงเจ้านายหนุ่มท้วงขึ้น ทำเอาหญิงสาวชะงัก นั่นสิ มันจะเหมาะหรือเปล่า เขาเป็นลูกค้าชั้นดีของเธอเลยนะ
“เหรอคะ งั้นเอาไงดี” เธอเงยหน้าขึ้นมองเจ้านาย อย่างขอความคิดเห็น สีหน้าครุ่นคิด โดยไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ เตวิชญ์ยกมือขึ้นมาวางบนไหล่เธออย่างสนิทสนม ใกล้ชิด
สายตาลูกค้าหนุ่ม จ้องมองเจ้านายกับลูกน้องสาว ท่าทางของเจนจิราดูครุ่นคิดจริงจัง ต่างจากอาการของรองประธานบริษัท นี่เขาคิดไปเองหรือเปล่าว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังแสดงออกบางอย่างเพื่อบอกเขาเป็นนัยๆ