“คุณยี่หวาหายดีแล้วเหรอครับ” เสียงเลขาคนสนิทของยี่หวาเอ่ยถามหญิงสาว เมื่อเห็นร่างเพรียวของเจ้านายสาวกำลังจะเดินเข้าไปภายในห้องทำงาน
“ดีแล้ว ภีมมีงานอะไรให้ยี่หวาเคลียยกมาเลยนะ”
“ได้ครับ” น้ำเสียงสดใสบวกกับท่าทางร่าเริงของภีม เรียกของยิ้มจากยี่หวาได้เป็นอย่างดี เวลาที่เธอมีเรื่องเครียดไม่สบายใจหรือหนักใจก็จะได้ภีมนั่นแหละที่ทำให้เธออารมณ์ดีและเป็นคนที่คอยให้คนปรึกษาเสมอ ภีมไม่ได้เป็นแค่เลขาส่วนตัวแต่ภีมถือว่าเป็นเพื่อนสนิทยี่หวาอีกคนก็ว่าได้
“งานที่จะออกบูธเอาไงดีครับ”
“หวาไม่ติดที่ห้างนะ ยังไงแบรนด์ของเราก็ต้องได้ไปขายที่ห้างนั้นอยู่ดี” เสียงหวานเอ่ยบอกกับเลขาคู่ใจของตัวเอง รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าสวยอีกครั้ง เมื่อเห็นท่าทางเลิกลั่กของภีมที่เหมือนตั้งท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“มีอะไรอีกคะคุณภีม”
“พวกเราตัดสินใจให้เจ้าของแบรนด์เป็นพรีเซ็นเตอร์จะได้ประหยัดงบโฆษณา”
“ถามหวารึยัง”
“โธ่!!คุณหวา งานมันเร่งพวกเราหาพรีเซ็นเตอร์ไม่ทัน”ภีมก้มหน้ามองพื้น ร่างสูงบิดไปมาเหมือนกำลังเขินอายแต่แท้จริงแล้วภีมเพียงทำตัวให้น่าสงสารในสายตาของยี่หวาให้มากที่สุด เพื่อให้ยี่หวาตกลงรับเป็นพรีเซ็นเตอร์
“แบบนั้นก็ได้แต่หวาจะหักเงินเดือนภีมนะ”
“โธ่ ๆ ทูลหัวของบ่าวแค่นี้ก็ไม่มีเงินเปย์ผู้ชายอยู่แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับเจ้านายสาว ท่าทางจริตจะก้านของภีมประจักษ์ออกมาให้เห็น ภีมเป็น LGBTQI คนหนึ่งเป็นบุคคลที่ยี่หวาอยู่ด้วยและสบายใจ
“วันนี้หวาจะกินอะไรดี”
“ส้มตำไหมเจ้านาย เดี๋ยวภีมคนนี้จะเป็นเจ้ามือเลี้ยงเอง”
“ตกลง” เสียงหวานตอบตกลงภีมทันที ใบหน้าแสนงอนของชายสูงโปร่งเงอะงะ เมื่อได้เห็นใบหน้าอารมณ์ดีของเลขาคนสนิท
“ไปกันเลยไหม เลิกงานพอดี”
“เชิญครับ นายหญิง” น้ำเสียงประชดประชันเอ่ยบอกกับยี่หวา ร่างเพรียวยันตัวลุกจากเก้าอี้เดิน เธอเดินนำออกจากห้องทำงานโดยมีภีมเดินตามออกมา
ยี่หวาเป็นบุคคลหนึ่งที่ลูกน้องเกรงใจมากกว่าเกรงกลัว เธอบริหารงานบริษัทของตัวเองเหมือนเพื่อนและพี่มากกว่า จึงทำให้พนักงานทุกคนสนิทกันและสามารถแลกความคิดเห็นของกันและกันได้เป็นอย่างดี
“ฉันลืมปิดแอร์งั้นเหรอ” เสียงบ่นพึมพำของยี่หวาดังเล็ดลอดออกมาเบา ๆ คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปม เมื่อเธอเปิดประตูเข้ามาภายในห้องกลับพบว่าเครื่องปรับอากาศยังคงทำงานอยู่แต่ภายในห้องไร้ซึ่งแสงไฟ
“คุณ!!” เมื่อไฟภายในห้องสว่างจ้า ดวงตากลมโตปะทะเข้ากับร่างสูงของคามินที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาเงียบ ๆ เพียงลำพัง เพียงแค่เห็นสายตาคู่นั้นของชายหนุ่มทำให้ยี่หวาอยากจะก้าวเดินออกจากห้องให้เร็วที่สุด
“มานี่” เสียงเข้มออกคำสั่งให้กับหญิงสาวเดินเข้ามาหาตัวเอง ยี่หวายืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่สองเท้าจะก้าวเดินไปหาคามินที่ยืนจ้องมองใบหน้าสวยของเธออยู่แทบไม่ละสายตา
“คุณมีอะไรรึเปล่าคะ”
“ตอนนี้เธอเป็นของเล่นของฉัน อย่าให้ใครมาซ้ำรอย”
“หมายถึงอะไร? ฉันไปเป็นของเล่นของคุณตอนไหน”
“หึ!!ไม่รู้ตัวสินะ”
“ถ้าฉันยอมเป็นของเล่นของคุณ คุณจะยอมปล่อยฉันเมื่อไหร่” ในเมื่อเธอไม่มีทางเลือกและผู้ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ของเธอก็เหมือนซาตานในคราบของคุณหมอผู้ใจดี ทำให้ยี่หวาตัดสินใจตามใจผู้ชายคนนี้ เพื่อให้เขาปล่อยเธอไป
“เมื่อฉันเบื่อ”
“ฉันรอให้คุณเบื่อฉันอย่างใจจดใจจ่อ” น้ำเสียงเรียบเฉยกับแววตาว่างเปล่าตอบกลับชายหนุ่ม ภายใต้ใบหน้าสวยไร้ที่ติและในเมื่อเธอไม่มีทางเลือกก็คงต้องเลือกเดินตามเกมของผู้ชายคนนี้ คนที่ทำให้เธอรู้สึกไร้ค่ามากที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา
“งั้นก็ทำหน้าที่ของเธอซะ”
“ฉันต้องทำอะไร”
“อ้าขาบำเรอฉัน” ร่างสูงไม่พูดเปล่า มือหนาลูบไปที่ขาอ่อนของหญิงสาว สายตาหื่นกระหายประกายออกมาให้เห็น ใบหน้าของคุณหมอหนุ่มนิ่งจนยากจะอ่านใจของเขา
“ฉันพึ่งหายป่วย”
“นั่นมันเรื่องของเธอ” หมอคามินไม่ได้รับฟังคำพูดที่หญิงสาวเปล่งออกมาแม้แต่น้อย ชายหนุ่มผลักร่างบางล้มหงายหลังบนโซฟาโดยมีร่างสูงขึ้นคร่อมเธอเอาไว้
“คุณทำเหมือนฉันเป็นตุ๊กตายาง”
“เธอแค่เครื่องบำบัดความใคร่ เพราะตัวของเธอไม่ได้มีค่าอะไร ขนาดเงินยังไม่ต้องเสียเลยแค่เอาฟรี” คำพูดของชายหนุ่มเหมือนมีดกรีดลงกลางใจของยี่หวา ทุกประโยคของเขาเธอจำได้ดี คำพูดดูถูกต่าง ๆ นานาหลุดออกจากปากของผู้ชายคนนี้
“ฉันเข้าใจแล้ว” หยดน้ำตาค่อย ๆ ไหลลงหางตา ร่างบางนอนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหน เธอปล่อยให้ร่างกายของตัวเองนอนบำเรอความใคร่ของคุณหอมคามินอยู่แบบนั้น ไร้การขัดขืนพร้อมกับน้ำตาที่เหือดแห้งไปในที่สุด
“หึ!!” ใบหน้าที่เจ็บปวดของผู้หญิงที่อยู่ใกล้ร่างของเขา เรียกความสะใจไม่น้อยให้กับคุณหมอคามิน เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ทำหน้าเหมือนอยากตาย
“ฉันเจ็บ” ร่างบางเปล่งคำพูดออกมา เมื่อรู้สึกเจ็บจากการถูกผู้ชายคนนี้กัดเข้าที่หน้าอกคู่สวย ยิ่งเธอแสดงความเจ็บปวดออกมามากเท่าไหร่ สายตาคู่นั้นยิ่งมองเหยียดและสมเพชเธอมากกว่าเดิม
“นึกว่าจะเก่ง”
“สารเลว” ร่างกายที่ถูกกระทำย่ำยีจนบอบช้ำไม่แสดงอารมณ์หรือความเจ็บปวดใด ๆ ออกมา แม้แต่น้ำตาสักหยดก็ไม่ไหล ความเลวร้ายที่เธอได้เจอหล่อหลอมให้ยี่หวาเริ่มทำใจยอมรับและเข้มแข็งขึ้น
“จัดการตัวเองซะ!!” เมื่อไฟราคะมอดดับลง ร่างสูงยันตัวเองลุกขึ้นเดินเข้าไปภายในห้องนอนของหญิงสาวเหมือนที่นี่เป็นคอนโดของเขาเอง น้ำเสียงเรียบเฉยที่ออกคำสั่งกับหญิงสาวเหมือนเธอเป็นเพียงแค่เครื่องบำเรอความใคร่เท่านั้น
ดวงตากลมโตจ้องมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่เดินเข้าไปในห้องของเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย สมองครุ่นคิดหาวิธีทำให้ผู้ชายคนนี้เบื่อเธอให้เร็วที่สุดและเธอเองก็ต้องรับป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น เพราะผู้ชายคนนี้ไม่เคยป้องกันเลยสักครั้งเวลาทำรักกับเธอ
“ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง”