“เฮ้ย!!นาย นายน้องนักเลงคนนั้นหนิ” มือบางคว้าชายเสื้อยืดของชายหนุ่มตรงหน้าเอาไว้ ในขณะที่เขาเดินผ่านโต๊ะของเธอ
“หยุดเลยนะ ตะวันแกเมามากแล้วปล่อยชายเสื้อเขาสิยะ” เสียงเอ่ยเตือนจากไวน์ เมื่อเห็นว่าตะวันยังดึงชายเสื้อของชายหนุ่มตรงหน้าไม่ยอมปล่อย
“หยุด!! อย่าร้องนะ ฮึบเอาไว้” เธอใช้มาตีที่มือของตะวันเพื่อให้เธอปล่อยและก็ได้ผล เมื่อตะวันปล่อยชายเสื้อของชายหนุ่มตรงหน้า เธอลูบหลังมือตัวเองปรอย ๆ พร้อมกับทำหน้างอนใส่เพื่อน เบะปากเหมือนเด็กน้อยกำลังจะร้องไห้
“ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะ”
“.......” ไม่มีเสียงตอบรับจากชายหนุ่มตรงหน้า เขาเพียงแค่ปรายตามองคนตัวเล็กที่กำลังฮึบกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นของตัวเองไม่ให้เล็ดลอดออกมา
“ไปกันเถอะไอ้พายุ เดี๋ยวไม่ทัน” ภัทรที่เห็นว่าพายุไม่ยอมเดินออกมาเสียที ทำให้เขาต้องเอ่ยเตือนเพื่อนรักของตัวเองที่กำลังยืนมองคนสวยตาไม่กะพริบที่กำลังเมาอยู่
“อืม”
พายุกับภัทรรีบเดินออกมาจากร้านเหล้า เพื่อตามหาใครบางคนเพราะพวกเขามีธุระที่จะต้องรีบจัดการและก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้เมื่อเป้าหมายที่เขาอยากเจอดันนั่งสูบบุหรี่อยู่หน้าร้านพอดี
“ไง!!”
“ไอ้พายุ” น้ำเสียงและสีหน้าตื่นตระหนกตกใจของคริส เมื่อเห็นพายุปรากฏตัวตรงหน้า แววตานิ่งน่ากลัวของพายุที่ใครหลายคนได้สบตาเป็นอันต้องผวา
“.........”
“มึงมีอะไรกับกู” น้ำเสียงที่พยายามไม่ให้สั่น เอ่ยถามพายุที่นิ่งเงียบแต่แววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ผลัวะ ผลัวะ
ไม่มีเสียงตอบจากพายุ เขาซัดหมัดใส่หน้าของคริสทันที หมัดหนักของพายุซัดเข้าที่ใบหน้าของคริสจนเขาล้มลงไปกองกับพื้นจนเลือดไหลกลบปาก
“มึงส่งคนไปรุมกระทืบไอ้พายุไม่ใช่เหรอ”
“กูไม่ได้...”
“มึงอย่ามาอ่อนแถวนี้ ทีจ้างคนไปรุมกระทืบคนอื่นเสือกไม่กลัว” เป็นภัทรที่เอ่ยแทนพายุ เพราะเขารู้ว่าเพื่อนรักไม่ชอบพูดมากแต่เน้นการกระทำมากกว่า
“มันกระทืบน้องกูก่อนไง”
“ไอ้คิมน้องมึงมันมาหาเรื่องไอ้พายุก่อน”
“ก็ไอ้พายุมันเสือกแย่งแฟนน้องกูไง” คริสไม่ยอมแพ้ เขาเถียงกับภัทรไม่หยุด สายตามองไปที่พายุด้วยความโมโหที่ไม่สามารถทำอะไรคนอย่างพายุได้เลยสักนิด
“แฟนน้องมึง?”
“มึงอย่ามาทำไขสือไอ้พายุ”
“......”
“แฟนไอ้คิมเลิกกับมันเพราะบอกว่าจะไปคบกับมึงไง”
“มึงนี่ปัญหาอ่อนนะไอ้คริส ไอ้พายุมันยังไม่มีแฟน ไอ้สัส!!” เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ตอบโต้ พายุก็ไม่มีอะไรต้องจัดการ เขายืนฟังคริสพล่ามด้วยความโกรธแต่ก็ทำให้เขางุนงงเล็กน้อย ที่ตัวเองถูกพาดพิงว่าไปแย่งแฟนของคนอื่น
“ถ้ากูเข้าใจผิด กูก็ขอโทษมึงแล้วกันไอ้พายุ”
พายุกำลังจะเดินหันหลังออกจากบริเวณนั้น แต่ต้องชะงักเพราะเขาได้ยินเสียงยานครางของคนเมาที่กำลังต่อว่าเขาอยู่ ดวงตาแดงก่ำด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จ้องมองใบหน้าหล่อของพายุไม่ว่างตา
“ไอ้น้องนักเลง ทำไมนิสัยไม่ดีแบบนี้ ทำร้ายคนอื่นทำไม” ยังไม่ทันที่ตะวันจะพูดจบ ไวน์ก็รีบใช้มืออุดปากเพื่อนรักทันที
สายตาของพายุที่หันมามอง ทำให้กลุ่มเพื่อนของตะวันต่างพากันขนลุกซู่ แววตาเรียบเฉยแต่ข้างในแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง
เพื่อนของตะวันต่างพากันลากเพื่อนรักออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมยกก้มหัวขอโทษขอโพยพายุและรีบเดินออกไป
“เกือบโดนตีนแล้วไหมละ”
“ตะวันถ้าฉันหน้าเสียโฉมเพราะโดนกระทืบฉันจะจัดการแก่” ทั้งไวน์และมดยักษ์ต่างพากันเทศนาคนเมาที่กำลังนั่งทำตาแป๋วนั่งรอกอบัวขับรถมารับ
“อาราย ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
“คนอื่นเมาแล้วล่อผู้ชาย ส่วนแกตะวันเมาแล้วเสือกล่อตีน”
“ฉันว่าผู้ชายคนเมื่อกี้หล่อมากเลยนะ หล่อจนมดลูกฉันสะเทือน” มดยักษ์หันมาคุยกับไวน์
“แกไม่มีมดลูกค่ะ!!”
“ดับฝันฉันตลอด”
“ฉันก็ว่าหล่อนะ หล่อมากด้วย แต่โหดไปหน่อย วันดีคืนดีใช้มีดปาดคอฉันจะทำยังไง”
“ก็ตายนะสิยะ”
“ฉันยังไม่มีผัว ตายไม่ได้” เพื่อนรักของตะวันน่าเถียงกันอยู่ ส่วนตะวันนั้นหลับคอพับไปโดยปริยาย
เมื่อเห็นรถของกอบัวขับมารับ ทั้งสองจึงรีบพยุงตัวของตะวันให้ขึ้นรถเพื่อพากลับคอนโดในสภาพที่หลับการอากาศไปแล้ว
“มึงรู้จักผู้หญิงคนเมื่อกี้เหรอวะ”
“ไม่”
“แต่เหมือนเธอรู้จักมึง” ภัทรเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย เขายังไม่ได้คำตอบที่น่าพึงพอใจนัก
พายุหยิบบุหรี่ออกจากกระเป๋ากางเกงอย่างใจเย็น เขาพิงกำแพงจุดไฟที่มวนบุหรี่อย่างใจเย็นด้วยแววตาเรียบเฉยนิ่งงัน
เขากำลังนึกถึงภาพเห็นการณ์ที่เจอผู้หญิงคนนั้นเป็นครั้งแรกแถมสถานการณ์แบบนั้น อาจจะทำให้บางคนเสียขวัญได้แต่กลับไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้
เธอยังดูอารมณ์ดีและไม่โวยวายหรือโทษเขาแต่อย่างใดแถมยังมีจิตใจดีช่วยทำแผลให้เขา โดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับคนอย่างพายุอย่างมากเพราะเขาไม่เคยเจอคนประเภทนี้มาก่อน
“ไอ้พายุ ไอ้ยุ”
“อะไร” ภัทรที่เห็นเพื่อนของตัวเองนิ่งเงียบไป เขาเรียกพายุอยู่นานสองนานแต่เหมือนว่าพายุกำลังนึกคิดอะไรบางอย่างซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน แต่ก็คงเป็นเรื่องดีเมื่อเห็นแววตาอ่อนลงของพายุเมื่อสักครู่
“กูเรียกมึงต้องนาน คิดอะไรอยู่วะ”
“เปล่า”
“สรุปมึงรู้จักไหม”
“เคยเจอ”
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง” ความสงสัยเริ่มคลายลงแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก เพราะคนอย่างพายุไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ได้เลยสักคน
ยิ่งแตะเนื้อต้องตัวหรือแม้กระทั่งชายเสื้อก็อย่างหวังแต่สำหรับผู้หญิงคนเมื่อกี้ เพื่อนของเขากลับนิ่งมองแต่ก็ไม่ได้กระชากตัวออกแต่อย่างใจ นั้นทำให้เขามั่นใจว่าต้องมีอะไรมากกว่านี้
“มึงว่าเขาสวยไหมไอ้พายุ”
“ไม่รู้”
“โอเค แยกย้าย กลับกันเถอะ” ไม่มีเสียงตอบรับจากพายุเช่นเคย เขาเดินไปควบรถบิ๊กไบค์ของตัวเองและขับออกไป
สายลมยามค่ำคืนตีเข้าใบหน้าหล่อของพายุ ทำให้เขารู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ถนนยามค่ำคืนที่ไม่ค่อยมีรถสัญจรดูเงียบเหงาแปลก ๆ แต่สำหรับพายุเขาชินกับอะไรแบบนี้แล้ว
พายุขับรถไม่เร็วมากนัก เพราะเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ คิ้วเข้มหมวดกันเป็นปมกับความคิดของตัวเองที่มีผู้หญิงขี้เมาคนเมื่อกี้แวบเข้ามาในหัว เขาสะบัดหัวตัวเองเพื่อไล่ความคิดของตัวเอง ก่อนจะรีบขับรถกลับคอนโดตัวเอง