เขาดึงชามมาจากมือเธอไปวางบนโต๊ะ หยิบพริกป่นมาเทลงแทบหมดขวด ตามด้วยเกลือ น้ำตาลทราย แล้วคนๆๆๆ จากนั้นก็หยิบอาหารญี่ปุ่นที่เธอชอบออกมาจากถุง ทันทีที่เปิดฝา กลิ่นหอมของอาหารที่คุ้นเคยก็โชยเตะจมูก แต่มันไม่ได้ทำให้ข้ามฟ้ารู้สึกอยากอาหารเลยสักนิด
“อาซื้อมาฝาก” เขาเลื่อนอาหารทั้งสองอย่างมาตรงหน้าเธอ “เลือกเอาว่าจะกินอะไร”
ข้ามฟ้ามองหน้าเขา เอื้อมมือไปหยิบอาหารญี่ปุ่น เหลือบเห็นเขายิ้มน้อยๆ จากนั้นเธอก็หันไปใส่ถังขยะ และหันกลับมาหยิบชามแกงเลียงที่ใส่หัวปลีมากเป็นพิเศษเทใส่ถังขยะตามลงไป
ข้ามฟ้ามองหน้าที่เปลี่ยนเป็นถมึงทึงของเขา “เพื่ออะไร ทำแบบนี้เพื่ออะไร” เสียงเธอสั่นเครือ “อาโต๋ก็รู้ว่าตุ๋นไม่ชอบกินผัก แต่รู้ไหม ตุ๋นกินแต่แบบนี้มาเดือนนึงแล้วตั้งแต่คลอด เพราะตุ๋นกลัวไม่มีนมให้ลูก”
น้ำตาเธอไหลพรากขณะพูดจนต้องยกมือขึ้นปาดทิ้งลวกๆ
“แค่ไม่กี่ชั่วโมงที่อาโต๋มา อาโต๋ก็ทำเหมือนตุ๋นไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง มันก็อาจจะใช่ แต่ตุ๋นโตแล้วนะ ตุ๋นหาทางแก้ปัญหาได้เองแหละ” เธอขึ้นเสียงในตอนท้ายพร้อมกับผลักเขาออก รีบวิ่งออกไปจากครัว
“ไข่ตุ๋น อย่าวิ่ง ไข่ตุ๋น” ความน้อยเนื้อต่ำใจของเธอกระแทกใจเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนบอกด้วยความเป็นห่วง
‘ไข่ตุ๋นโตแล้ว ทั้งร่างกายและจิตใจ ความรู้สึกของอาก็เหมือนกัน มันไม่เหมือนเดิมมาตั้งนานแล้วไข่ตุ๋น’
**********
สิบเดือนก่อน
“โบราณเขาว่าคืนส่งตัวห้ามเจ้าบ่าวเจ้าสาวออกจากจากห้องหอ” ท่องธาราท้วง แต่ข้ามฟ้าก็ดึงดันจะกลับห้องของตัวเองท่าเดียว
“เราแค่แต่งงานตบตาคนอื่น อาโต๋จะไปยึดติดกับมันทำไม อีกอย่าง พี่ปัณณ์กลับมาเมื่อไรเราก็ต้องหย่ากัน”
“ไม่ดื้อสิคะ ข้างนอกแขกยังกลับกันไม่หมด รออีกสักพักนึงดีไหม อย่างน้อยรอให้ผู้หลักผู้ใหญ่กลับไปก่อนก็ยังดี”
ข้ามฟ้านิ่งคิดครู่หนึ่งก็เห็นด้วยกับเขา ไหนๆ ก็เล่นละครมาทั้งวันแล้ว นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ในห้องนี้อีกสักสองสามชั่วโมงจนกว่าแขกผู้ใหญ่จะกลับไปหมดจะเป็นอะไรไป แต่เครื่องประดับกับชุดที่รุงรัง มันไม่สะดวกนักที่จะทำตัวผ่อนคลาย เธอจึงเริ่มถอดข้าวของเครื่องประดับ พลางชวนคุณอาที่กำลังถอดเน็กไทออกคุยไปเรื่อยๆ
“พี่ปัณณ์ไปไหนคะอาโต๋” เธอถามคำถามนี้มาเป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้
“อาก็รู้เท่าที่ไข่ตุ๋นรู้” เขาเหลือบมองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังเอื้อมแขนรูดซิปด้านหลังลงอย่างทุลักทุเล
“ตุ๋นเป็นห่วง ไม่รู้พี่ปัณณ์มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เธอพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล สะดุ้งน้อยๆ เมื่อมีลมหายใจร้อนรินรดตรงต้นคอระหง
“อาช่วยถอดให้” ท่องธาราวางมือทับลงไปบนมือเธอ ข้ามฟ้าผละมือออกจากหัวซิปด้านหลังของชุดราตรี แผ่นหลังเล็กบางขาวเนียนดึงดูดให้เขาฉวยโอกาสไล้ข้อนิ้วลงมาตามแนวซิปที่เลื่อนลงมาช้าๆ ข้ามฟ้ารู้สึกวูบวาบกับสัมผัสเชื่องช้า ความร้อนถูกทิ้งไว้เป็นทาง กระทั่งถึงสะโพกกลมกลึง เผลอไผลเคลิบเคลิ้มอยู่ในความเงียบที่มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองดังรับจังหวะ มือหนาสอดเข้าไปใต้เนื้อผ้าอย่างลืมตัว
“พอแล้วค่ะ” ข้ามฟ้ากลืนน้ำลายลงคอ สะกดกลั้นความรู้สึกให้ดูเหมือนเป็นปกติ และหันกลับมาบอก “ตุ๋นถอดต่อในห้องน้ำเองได้ เดี๋ยวเข้าไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
“ค่ะ เดี๋ยวอาวางชุดนอนของไข่ตุ๋นไว้ให้หน้าห้องน้ำนะคะ”
“วันนี้อาโต๋มองตุ๋นแปลกๆ นะคะ อาโต๋ไม่สบายใจหรือเปล่า อาอิงค์จะเข้าใจไหมคะว่าระหว่างเราเป็นเรื่องหลอกลวง” ข้ามฟ้ามองเข้าไปในดวงตาคมที่จับจ้องเธอนิ่ง
“ไม่เป็นไรหรอก” เขาตอบแค่สั้นๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง “วันนี้ไข่ตุ๋นของอาสวยมากเลย เอ๊ะ พูดแบบนี้ไม่ได้สิ ทุกวันไข่ตุ๋นก็สวยอยู่แล้ว ต้องบอกว่าเจ้าสาวของอาสวยมากเลย”
“ฟังยังไงก็ไม่ต่างกัน สงสัยอาจะเมา ดื่มไปเยอะไหมคะเนี่ย” เธอยกมือจับแก้มเจ้าบ่าวดึงส่ายไปส่ายมาแบบที่ชอบทำ
ท่องธาราโอบเอวบางแล้วยิ้มให้สาวน้อยของเขา “ไปอาบน้ำค่ะ เดี๋ยวอาจะได้อาบบ้าง”
.................
“จะนอนแล้วเหรอคะ” ท่องธาราเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ ข้ามฟ้าวางมือถือลง แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงคอ
“นอนไปนอนมาชักง่วงจริง เพลียมากเลยค่ะ” เธอตอบรับ ตาปรือปรอย “คิดถึงเตียงนี้จัง ตุ๋นไม่ได้มานอนเตียงนี้นานแล้ว กี่ปีแล้วนะอาโต๋”
รอยยิ้มของท่องธาราเจื่อนลง ข้ามฟ้าค่อยๆ ปลีกตัวออกจากเขาเมื่อเขาพาสาวๆ มาที่บ้าน คนล่าสุดคืออิงดาว ครั้งแรกที่อิงดาวได้พบกับข้ามฟ้า หลานสาวนอกไส้ที่เขาพูดถึงบ่อยๆ เธอก็เริ่มระแวงเขามาตั้งแต่นั้น เพราะข้ามฟ้าที่โตเป็นสาวเต็มตัวนั้นสวยน่ารักจนแม้แต่ผู้หญิงเองยังมองตาค้าง และตอนนี้อิงดาวก็ขาดการติดต่อกันไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว
“ที่นอนของอายังนุ่มเหมือนเดิมไหมคะ”
เขาข้ามคำถามของเธอไป คุกเข่าลงนั่งข้างเตียงด้านที่เธอนอนตะแคงหันหน้ามา เกลี่ยผมยาวๆ ไปทัดใบหู
“นุ่มค่ะ อาโต๋ของตุ๋นก็น่ากอดเหมือนเดิม”
“เด็กน้อยของอา” เขาเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา กดจมูกลงบนแก้มเนียนเบาๆ “อยากกอดอาไหม”