BAD HEART 7 อย่าทำ 2/2

1331 คำ
“เราโอเคไหม” พี่คินถามฉัน “ค่ะ โอเคค่ะ” ฉันรีบยิ้มตอบกลับไปทันที ได้อยู่กลุ่มเดียวกับพวกพี่เขาว่าดีใจ การได้ทำงานร่วมกับพี่ดินนั้นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกดีใจยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น “งั้นเราเริ่มทำกันเลยไหม อาทิตย์หน้า” พี่ขุนพูดขึ้น “อาทิตย์หน้าเหรอคะ” ฉันถามออกไป “ใช่ครับ น้องวีติดอะไรรึเปล่า” “อ่อ ไม่ค่ะ ๆ วีโอเค” ฉันยิ้มตอบไปทันที ก่อนจะหันหน้าไปมองยังคนตัวสูงที่นั่งนิ่งอยู่ “ดีใจนะคะที่จะได้ทำงานกับพี่” “...” พี่ดินก็นิ่ง “วีจะตั้งใจทำ...” “เมื่อไหร่เธอจะเงียบสักที” ใบหน้าหล่อหันมามองหน้าถามฉันเสียงนิ่ง “...” ฉันจึงเงียบไม่กล้าพูดอะไรออกมา “น่ารำคาญ” ฉันเม้มปากแน่นกับคำพูดใจร้ายที่ออกมาจากปากของคนที่นั่งอยู่ พึ่บ! ฉันตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างแรงด้วยความรู้สึกบางอย่าง แต่... โชคไม่ดีที่ฉันรีบจนไม่ทันระวังทำให้ข้อเท้าตัวเองนั้นเกือบพลิกจนเซเสียหลักไปยังใครอีกคน “อ๊ะ!” ฉันร้องออกมาทันทีที่ล้มทับพี่ดินที่นั่งอยู่ “...” ฉันได้แต่เงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยความตกใจสุดขีด “ทำบ้าอะไรของเธอ” พี่ดินมองหน้าถามฉันเสียงนิ่งแต่เต็มไปด้วยความดุดัน “คะ...คือ...” “อย่ามาอ่อยฉันด้วยวิธีแบบนี้...” “...ฉันไม่ชอบ” พูดจบ พี่ดินก็ผลักฉันให้ออกจากเขาทันที “วีไม่ได้...” ฉันที่ตั้งสติได้ก็พยายามจะอธิบาย ตึก! ตึก! แต่ก็ไม่ทันเพราะเจ้าของใบหน้านิ่งเดินออกจากห้องไปอย่างไม่สนใจใคร “...” ฉันก็มองตามคนตัวสูงไป “เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงพี่คินเอ่ยถามฉัน “ไม่ค่ะ แต่ว่า...” แล้วฉันก็มองไปยังประตู “ช่างมันเถอะ มันก็เป็นแบบนี้แหละ” “...” ฉันก็นิ่ง “ทำไม ถอดใจแล้ว?” “เปล่าค่ะ ก็แค่...” ไม่รู้สิ ความรู้สึกตอนนี้ ฉันไม่รู้เลยว่ามันคือความรู้สึกอะไร ทุกอย่างมันปะปนกันไปหมดจนฉันแยกไม่ออก ทั้งที่ตอนแรกดีใจที่ได้ใกล้ชิดเขา แต่พอมาเจอคำพูดร้าย ๆ มันก็... “เอาเท่าที่ไหว อย่าฝืนตัวเอง” พี่คินยิ้มบอกฉัน ซึ่งฉันเองก็ค่อย ๆ เงยหน้ามองพร้อมกับยิ้มตอบพี่เขาไป ก็จริง เอาเท่าที่ไหวนะวี... ตกเย็น “สวัสดีค่ะพี่ปราบ” ฉันเดินเข้าไปทักทายพี่ปราบพี่ผู้จัดการร้านที่ฉันทำงานอยู่ “อ้าววี ทำไมวันนี้มาไว เราสลับกะกับส้มไม่ใช่เหรอ” พี่ปราบถามฉัน “ใช่ค่ะ แต่ว่ารถไม่ติดเลยมาถึงไวเลย” เพราะฉันมักจะเผื่อเวลารถติดก่อนมาทำงานไว้เสมอ แต่วันนี้รถดันไม่ติดอย่างปกติซะงั้น “งั้นเราไปนั่งรอก่อนก็ได้” “ให้วีทำเลยก็ได้นะคะพี่ปราบ” “มันจะกินแรงเราน่ะสิ ไหนจะปิดร้านอีกวันนี้” “วีไหวค่ะ” คำพูดของฉันทำเอาพี่ปราบหันมามองหน้าฉันด้วยความเอ็นดู “มีคนแบบเราสักสิบคน ร้านคงเจริญน่าดู” “แหะ ๆ” ฉันก็ยิ้มให้พี่เขาไป “งั้นเริ่มทำเลยก็ได้ เดี๋ยวพี่เพิ่มค่าแรงให้” “ไม่เป็นไรค่ะ” “เอาไปเถอะ อย่าทำฟรีเลย เจ้าของร้านเขารวยมาก ลูกส.ส.” “ฮ่า ๆ ๆ ๆ งั้นก็ได้ค่ะ” ฉันก็หัวเราะตอบกลับไป ก่อนจะเดินไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน “มาค่ะพี่น้ำ เดี๋ยววีช่วย” “น้องวี มาเร็วจัง” “รถไม่ติดน่ะค่ะ” “เรานี่ขยันจริง” “...” ฉันก็ยิ้มช่วยพี่น้ำเก็บกวาดทำความสะอาดเพื่อเตรียมพร้อมให้บริการลูกค้า โดยฉันก็ทำนู่นทำนี่ไป จนกระทั่ง... “ลูกค้าเริ่มทยอยมาแล้ว ประจำโซนกันได้เลย” เสียงพี่ปราบเอ่ยบอก ทำให้พวกเรารีบเดินไปทำหน้าที่ตามที่พี่เขาบอกทันที “นี่ของโต๊ะสี่” พี่ที่รับหน้าที่รับออเดอร์เดินเข้ามาบอกฉัน “ค่ะ” ฉันก็รับออเดอร์เดินไปยังเคาน์เตอร์บาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มและรอรับไปเสิร์ฟ “ได้แล้ว” บาร์เทนเดอร์เอ่ยบอกฉัน “ค่ะ” ฉันก็รับเครื่องดื่มเดินไปเสิร์ฟตามปกติ “เครื่องดื่มได้แล้วค่ะ” หลังจากที่ทำหน้าที่ตัวเองเสร็จ ฉันก็รีบเดินออกมาจากตรงนั้น ก็อย่างที่ทุกคนพอจะรู้ ในสถานที่แบบนี้ ก็มักจะมีคนประเภทมือไวอยู่ ฉันเองก็เคยเจออยู่บ่อยครั้ง จึงมักจะเลี่ยงออกมาทันทีที่ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จ อะไรเซฟตัวเองได้ ฉันก็จะต้องทำ ครืดดด ครืดดด ขณะที่ฉันกำลังยืนเพื่อรอรับออเดอร์จากพี่ที่ทำหน้าที่เชียร์อยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น พ่อ “...” ฉันชะงักไปทันทีที่เห็นชื่อเรียกเข้า จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง ในเมื่อพ่อแม่ฉันไม่รู้ว่าฉันทำงานอยู่ที่นี่ ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะปกปิดหรืออะไรหรอกนะ แต่ฉันไม่อยากให้พวกท่านต้องมาเป็นห่วงต่างหาก “เอาไงดี...” ตึกตึก สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจเดินออกไปรับโทรศัพท์ที่บริเวณหลังร้านเพราะมันเป็นจุดที่ค่อนข้างเงียบที่สุด “โอเค” ติ้ด! “ว่าไงคะพ่อ” (วี พ่อโทรมากวนรึเปล่า) “ไม่เลยค่ะ พ่อมีอะไรรึเปล่าคะ” (เปล่าหรอกลูก พ่อก็แค่คิดถึงหนู) “วีก็คิดถึงพ่อค่ะ...” ให้ตายเถอะ กี่ครั้ง ๆ ก็ไม่เคยชิน เสียงสั่นทุกที TT (ร้องไห้อีกแล้วเหรอเรา) “เปล่าซะหน่อย วีไม่ได้ร้อง” แค่เสียงสั่นเอง... (ฮ่า ๆ แล้วนี่หนูทำอะไรอยู่) “เอ่อ...” ต้องโกหกพวกท่านอีกแล้วสินะ “...อ่านหนังสือค่ะ พอดีพรุ่งนี้มีสอบย่อย” วีขอโทษนะคะพ่อที่ต้องโกหก (อ้าวงั้นเหรอ งั้นพ่อไม่กวนหนูแล้วกันลูก) “ค่ะ” (พ่อคิดถึงหนูนะ) “ค่ะ วีก็คิดถึงพ่อมาก ๆ” (ไป ๆ อ่านหนังสือต่อเถอะลูก ไว้พ่อจะโทรหาใหม่นะ) “ค่ะ ฝันดีนะคะพ่อ” (จ้ะลูก) แล้วปลายทางก็ถูกตัดไป โดยฉันเองยังคงยืนซึมอยู่ที่เดิม บอกตามตรง...ฉันเองไม่ได้อยากทำแบบนี้ ไม่ได้อยากโกหกพ่อแม่ แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือก ฉันไม่อยากให้พวกท่านต้องมาเป็นห่วง “อ่านหนังสือในร้านเหล้าเหรอ” เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ฉันสะดุ้งหันไปมอง ก่อนจะชะงักไป “...” เขาคือใครไม่รู้ ฉันไม่รู้จัก “ไม่ยักรู้ว่าที่นี่อ่านหนังสือได้” “...” ฉันก็นิ่งไม่ตอบพร้อมกับทำท่าจะเดินหนีไปอีกทาง “หึ เด็กขี้โกหก” “ฉันจำเป็นนะคะ” ฉันอดที่จะหันไปพูดใส่อีกคนไม่ได้ “แล้วฉันจำเป็นต้องเชื่อเธอเหรอ” “...” ฉันก็มองหน้าคนตรงหน้า ท่าทีเขาดูกวนประสาทไม่ใช่เล่น “จะเชื่อไม่เชื่อ ก็เรื่องของคุณค่ะ แล้วนี่มันก็เป็นเรื่องของฉัน” พูดจบ ฉันก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที ซึ่งก็ไม่วายรับรู้ได้ถึงสายตาของผู้ชายคนนั้นที่มองตามฉันมา แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่สนใจ ฉันไม่รู้จักเขาสักหน่อย ทำไมต้องสนใจด้วยล่ะ ถ้าเขาจะตัดสินใจแค่ได้ยินที่ฉันคุยโทรศัพท์กับพ่อแค่นั้น ก็ช่างเขาเถอะ ครืดดด ครืดดด LINE (5) Khun.p : ขอเลื่อนนัดเป็นศุกร์นี้แทน Khun.p : อาทิตย์หน้าติดธุระ Read 4 Khun.p : ? Varin : โอเคค่ะพี่ขุน Namkhing : รับทราบ! Kin : ตามนั้น Read 4 Khun.p : @Din ยังไง Din : อืม Khun.p : โอเค เจอกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม