Episode 5
ตอน เหมือนตายทั้งเป็น
ฉันลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความสว่างไสวภายในห้อง กลิ่นของน้ำยาทำความสะอาดพื้นของโรงพยาบาลทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน สายน้ำเกลือถูกเจาะไว้กับหลังมือของฉัน เสียงคนคุยกันเป็นภาษาจีนดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หากฉันจำไม่ผิด คงจะเป็นเสียงของแสนดี
“คุณพิม! คุณพิมฟื้นแล้ว” ป้านวลที่คงจะนั่งสังเกตฉันมาตลอด คงจะเห็นว่าฉันลืมตาและเริ่มขยับตัวแล้ว ทันทีท่ที่ฉันสบตากับเธอ เธอก็รีบตรงเข้ามาหาฉันทันที
“น้ำ…ขอน้ำหน่อย” เพราะพิษไข้ทำให้ฉันตื่นมาพร้อมคอที่แห้งผาก ป้านวลรีบเทน้ำใส่แก้วแล้วป้อนฉันทันที
“คุณพิมไข้ขึ้นสูงมาก ป้ากับแสนดีเลยพามาโรงพยาบาล” ป้านวลเริ่มอธิบายทั้ง ๆ ที่ฉันยังไม่ได้ถาม “คุณรามติดประชุม ไม่ได้มาด้วย สบายใจได้จ้ะ”
ป้านวลบอกต่ออีกเมื่อเห็นฉันกวาดสายตาไปด้านหลัง ฉันรู้สึกโล่งใจทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนรอบตัวเขาดูเป็นคนดีกันหมด แต่ทำไมนะ ทำไมเขาถึงเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้
“ป้านวลน่าจะปล่อยให้หนูตาย ๆ ไปซะ หนูไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว” ฉันพูดออกมาพร้อมหยดน้ำตาที่แสดงถึงความอ่อนแอ ฉันอ่อนแอมากจริง ๆ
“โถ…ไม่ร้องนะคะ เดี๋ยวคุณหญิงกลับมาป้าจะช่วยพูดให้นะคะ ไม่ร้องแล้วนะคะ” ป้านวลพยายามจะปลอบฉัน แต่เชื่อเถอะว่าเวลาเราได้รับความปรารถนาดีจากใครสักคนในวันที่ตัวเองมาถึงจุดที่ย่ำแย่ที่สุด มันก็ยิ่งทำให้เสียใจหนักเข้าไปอีก ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบไม่สนใจอะไรอีก
“ฝากดูคุณพิมด้วยนะป้า ผมต้องไปทำเรื่องออก คุณรามสั่งให้พาคุณพิมกลับตอนนี้เลย” ฉันเม้มริมฝีปากแน่นทั้งสะอื้นไห้อยู่อย่างนั้น ยอมรับเลยว่าเกิดมายี่สิบกว่าปี ฉันไม่เคยเจอใครที่ใจดำและจิตใจไร้ความเมตตาอย่างรามสูรมาก่อนเลย
“อืม ไปเถอะ” ป้านวลเอ่ยบอก หลังจากที่แสนดีออกไปแล้ว ป้านวลก็นั่งปอกผลไม้ ให้ฉันไปพลาง ๆ ระหว่างนั้น ฉันก็นึกอะไรบางอย่างออก ตอนที่อยู่ในโรงพยาบาล มันเป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะหนีรอดออกไปได้ และเหมือนพระเจ้าจะเริ่มเห็นใจฉันบ้างพยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข็นรถอุปกรณ์วัดไข้เข้ามา ก่อนจะพาฉันไปยังห้องตรวจภายในอีกที
“Sorry…can you speak English?” ฉันเอ่ยถามพยาบาลด้วยภาษาอังกฤษ
“Yes what’ s wrong with you?” พยาบาลก้มหน้าลงมาถามฉันด้วยเสียงที่แผ่วเบา เธอคงเห็นความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับฉัน
“I have something to tell you but…not now” ฉันกำมือแน่นขณะที่พยาบาลคนนั้นเข็นฉันออกมานอกห้องพักผู้ป่วยเพื่อที่จะพาไปห้องตรวจภายใน เธอพยายามถามฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น มีใครทำร้ายฉันหรือเปล่า แต่ฉันก็ได้แค่บอกให้เธอทิ้งฉันไว้ตรงนี้ ฉันจะหาวิธีของฉันเอง
และขอบคุณที่เธอเข้าใจ…พยาบาลเข็นฉันไปหลบที่มุมหนึ่งของตึก เธอมีท่าทีลังเลนิดหน่อย แต่ก็ยอมเดินออกไป
“ขอโทษนะแสนดี ขอโทษนะป้านวล” ฉันรู้ดีว่าหากฉันหนีไปตอนนี้ คนที่จะต้องรับกรรมแทนฉันคือใคร แต่ให้ทำยังไงได้ ฉันจะไม่ยอมกลับไปตกนรกอีกแน่นอน นรกที่ไม่ว่าใครก็ช่วยฉันไม่ได้
ฉันวิ่งหาวิธีทางไปทั่วโรงพยาบาลแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ลากสังขารที่ป่วย ๆ ของตัวเอง พยายามหาทางหนีออกไปจากโรงพยาบาล จนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ฉันก็ยังหาชุดเปลี่ยนไม่ได้ หากออกจากโรงพยาบาลไปทั้งชุดคนไข้แบบนี้ มีหวังได้โดนเจ้าหน้าที่รวบตัวกลับมาที่นี่อีกแน่ ๆ
ฉันพาตัวเองเดินมาจนถึงด้านหลังของโรงพยาบาล เพราะด้านหน้าคนเยอะเกินไป แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ก้าวขาออกไปจากประตู รถตู้สีดำที่ฉันคุ้นตาเป็นอย่างดีก็แล่นเข้ามาจอดพร้อมกันสามคัน ทำให้ฉันต้องวิ่งเข้าไปหลบที่ซอกประตูที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้
และไอ้ปีศาจนั่นก็ก้าวลงมาจากรถ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก รามสูรนั่นเอง...
ฉันแอบดูรามสูรตรงประตูกระจกของโรงพยาบาล ไม่ห่างจากพวกเขามากนัก แต่มันเป็นกระจกที่ติดฟิล์มสีดำ คนด้านนอกจึงมองไม่เห็น
เขาเดินลงจากรถมาโดยมีป้านวลกับแสนดียืนรออยู่ หัวใจของฉันเต้นตึกตัก มันเหมือนว่าฉันกำลังอยู่ในหนังอะไรสักเรื่อง
รามสูรที่มีใบหน้าเคร่งเครียดเดินเข้าไปต่อยแสนดีจนเขาล้มฟุบลงไป ฉันแทนจะกรี๊ดออกมา แต่ดีที่ว่ายกมือตะครุบริมฝีปากของตัวเองไว้ทัน
“มันเป็นความผิดของป้าเองค่ะคุณรามอย่าทำแสนดีมันเลยนะคะ” ป้านวลรีบเข้าไปกอดแขนรามสูรเอาไว้ มันเป็นภาพที่หดหู่จนฉันทนดูแทบไม่ไหว
“ก็ใช่ไง มันเป็นความผิดของป้าที่สะเออะทำดีไม่เข้าเรื่อง! มึงรีบไปตามหาตัวผู้หญิงคนนั้นให้เจอ ส่วนป้า นับตั้งแต่วันนี้ไม่ต้องมาทำงานอีก!” เขาพูดจาร้ายกาจกับคนแก่อายุมากกว่าแม่เขาลงได้ยังไง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะสารเลวและไร้เหตุผลได้มากขนาดนี้
“กูอุตส่าห์ไปลากตัวนังนั่นมาจากพวกไอ้สามภพ แต่พวกมึงสองตัวกลับพานังนั่นมาโรงพยาบาล โถ่เว้ย!” รามสูรคงแทบจะคลั่งแล้วแน่ ๆ ก็แหงสิ ฉันเป็นหมากตัวสำคัญที่จะทำให้ศัตรูของเขาย่อยยับได้ แต่ฉันกลับหายไปนี่นา…
“นายลงโทษผมเถอะครับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับป้านวลเลย” แสนดีพูดทั้งเลือดกบปาก
“ได้” รามสูรชักปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวออกมา เขาบ้าไปแล้วจริง ๆ ป้านวลก้มลงไปคุกเข่าร้องไห้ตัวสั่น มันเป็นภาพที่สะเทือนใจฉันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
ฉันกำลังเป็นต้นเหตุให้คนคนนึงต้องตายงั้นเหรอ?
“หยุดเถอะรามสูร” ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดหนัก ๆ ก่อนจะเดินออกมาจากที่ซ่อน แล้วเดินไปยืนบังแสนดีเอาไว้
ปัง!!
แต่รอยยิ้มนั่น รอยยิ้มชั่วร้ายนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันได้เห็นพร้อมกับเสียงปืนที่ดังขึ้น ฉันไม่รู้ว่าใครถูกยิง อาจจะเป็นฉัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นแสนดี
แต่ฉันไม่มีสติมากพอที่จะรู้ว่าใครถูกยิงอีกแล้ว…