ตอนที่ 3
คิดได้ดังนั้น...เทวินจึงรีบพาเครื่องดิ่งลงไปถึงสองหมื่นฟิตแต่ก็ยังไม่พ้นกับพายุลูกเห็บอีก ถ้ามัน...แบบนี้!!!! เฮ่ย!!..ฉิบหายแล้ว!!!!
โครม!!!...ตุ๊บ ๆๆ!!!!...
นรกกลางเวหากำลังเกิดขึ้น เมื่อหน้าต่างของเครื่องบินที่สร้างด้วยวัตถุโปร่งใสหนาแน่น และเหนียวเป็นพิเศษ ที่โดนพายุลูกเห็บพุ่งเข้ามาทำลายจนแตกยับไม่มีชิ้นดี
ทำให้ภายในห้องนักบินนั้นมีทุกอย่างปลิวว่อน กระดาษอุปกรณ์ที่ไม่ได้มีที่ยึด หมวกกัปตัน และกล่องปากกาของเทวินเองก็ถูกอากาศดูดวูบหายไปกับตาทางด้านนอก
ดีว่านักบินและผู้ช่วยมีสายรัดที่ยึดไว้กับที่นั่งอย่างแน่นหนา รัดทั้งไหล่และหน้าขา มิเช่นนั้นพวกเขาคงต้องหลุดออกไปข้างนอกเครื่องแล้ว
ทั้งนักบินและผู้ช่วยได้แต่ก้มเอาหัวลงไปเพื่อหลบลูบเห็บ ก่อนจะปล่อยให้เครื่องดำดิ่งลงไปยังด้านล้าน พวกเขาแสบหน้าและหูอื้อไปหมด ก่อนที่กัปตันหนุ่มจะตะโกน
“แอร์ เบรค ผู้ช่วยคิม!!!” ผู้ช่วยนักบินบังคับเบรคอากาศตามคำสั่ง ตายห่า!!!...มันทำงานซะที่ไหน จะเงยดูหน้าปัดก็ไม่ได้ ลมแรงยิ่งกว่าไต้ฝุ่นซักสิบเท่ากระมังที่โหมเข้ามา
“มันไม่ทำงานครับ...กัปตัน”
กัปตันหนุ่มพยายามสู้กับมัจจุราชอย่างสุดกำลัง โดยการลดรอบเครื่องยนต์ให้ลงมาเหลือหกพัน อาร์.พี.เอ็ม. ก่อนที่กัปตันหนุ่มจะพยายามดึงเครื่องให้เงยขึ้น แต่มันไม่เป็นผล เครื่องกำลังเอาหัวทิ่มลงไปหาพื้นน้ำด้านล่างอย่างน่ากลัว
“ระวัง...มันดึงไม่ขึ้นแล้ว!!!!...” ทั้งสองทอดอาลัยให้กับหายนะในครั้งนี้ และรอความตายได้เพียงอย่างเดียว ขณะแอร์บัส 370 ของพวกเขากำลังปักหัวดิ่งลงต่ำลงไปเรื่อย ๆ ในความมืดมิดของพายุฝนที่สาดเข้ามาจนในห้องนักบินเปียกชุ่มโชกไปหมด
ตัวบอกระยะความสูงตกถึงขีดต่ำสุดจากนั้นก็หยุดทำงานไป เทวินตัดสินใจปิดสวิทช์เครื่องยนต์ทันที เพราะตอนนี้มันมีสภาพเหมือนแท่งโลหะมีปีกมีหางที่กำลังจะหล่นลงพื้นอย่างหมดท่าเสียแล้ว