พอยัยนั่นยอมออกไป ผมก็นอนถือสายคุยกับคนรักของผมอย่างสบายใจ
ผมไม่ได้สนใจว่ายัยนั่นจะไปนอนที่ไหน แค่ออกไปให้พ้นๆหน้า แค่นี้ผมก็พอใจละ
ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหน แต่ตื่นขึ้นมาอีกที ก็ไม่พบว่ามีใครอยู่ในห้อง พบเพียงหมอนใบใหญ่ที่ผมจำได้ว่ายัยนั่นถือออกไป ที่วางเอาไว้คู่กับเสื้อแขนยาวสีหวานตัวบาง
ผมจัดการตัวเองจนเรียบร้อย ก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่าง
เมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย ยังคงอยู่เคียงกายแม่ของผม เธอดูตั้งใจจัดอาหาร พร้อมกับบรรยายสรรพคุณของแต่ละเมนูให้แม่สามีฟัง
"เป็นไง หลับสบายไหม ข้าวใหม่ปลามัน"
แม่ทักทายผมด้วยรอยยิ้มกว้าง แล้วท่านจะรู้บ้างไหม ว่าลูกสะใภัตัวดี ไม่ได้นอนที่ห้องสักคืน
"มัชล่ะลูก หลับสบายไหม"
"สบายค่ะ!"
เธอส่งยิ้มให้ โดยไม่คิดที่จะหันมาสนใจผม!
"แม่ว่า มัชไปทำงานกับโยดีไหม โยก็หาตำแหน่งที่เหมาะสมให้น้อง น้องจะได้ไม่เบื่อ วันๆเอาแต่เฝ้าคนแก่อย่างแม่"
นี่แค่เข้ามาอยู่ในบ้าน ผมยังชังขี้หน้าจะตาย แม่ยังจะให้ตามไปที่บริษัทอีกหรือไง เขาบดกรามอย่างไม่พอใจ และมองหน้าเมียที่กอดทะเบียนสมรสไว้ไม่วางตา
"ไม่ได้นะคะ ช่วงนี้เรามีนัดถี่ เอ่อ หมายถึง มัชมีธุระบ่อยค่ะ"
ต่อให้เธอจะรีบปรับเปลี่ยนคำพูดแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้หูหนวก ที่พอจะไม่ได้ยิน ที่เธอพูดออกมา ว่าพักนี้มีนัดถี่ๆ
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็ยังเหมือนเดิม ยัยนั่นดูเอาอกเอาใจแม่ผมมากมาย แล้วผมก็ไม่แปลกใจ ว่าทำไมแม่ผมถึงหลงใหลยัยนี่นักหนา
"มัชน่ารักมาก แม่ขอโทษนะ ที่ไม่ได้ตบแต่งให้ถูกต้อง แต่มัชเป็นสะใภ้ของแม่แบบถูกต้องแล้วนะ"
"ค่ะ!"
ยัยนั่นตอบก่อนจะก้มหน้า ผมเองก็ชักอยากจะรู้ขึ้นมา ทำไมยัยนี่ยอมมาเป็นเมียผมง่ายๆ เธอต้องการสิ่งใดกันแน่
แม่บังคับให้ยัยนั่นตามออกมาส่งผมที่รถ ทำอย่างกับว่า เธอเป็นภรรยาของผมจริงๆ เธอจะเป็นภรรยาของผมได้ไง ปลายเล็บผมยังไม่คิดจะแตะเลย
"เที่ยงนี้ คุณแม่ให้พี่โยมารับมัชไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันค่ะ"
"จำเป็นต้องทำไหม เธอไม่ต้องทำท่าเอาใจแม่ฉันมากมายขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่ชอบเข้าใจป่ะ!"
ผมชักสีหน้าใส่ พร้อมกับหันหลังให้ ถ้าเป็นแบบนี้ เห็นทีผมจะทนนานๆไม่ได้
ผมคิดบางอย่างในใจ ก่อนจะต่อสายไปหาเพื่อนชายคนสนิททันที
.
.
.
"เลขาหน้าห้องสวยว่ะ สิ่งนี้กูถูกใจ!"
ไอ้ปั๊บออกลายตามประสาผู้ชายเจ้าชู้ แต่นี่ใช่เวลาที่ผมควรมารับรู้เรื่องของมันไหม
"ทำไงกูจะกำจัดยัยนั่นออกไปจากชีวิตกูได้วะ"
"ยัยนั่น หมายถึงเมียที่แม่หาให้อ่ะหรอ"
"มึงไม่ต้องย้ำคำว่าเมียได้ไหม กูไม่ชอบ แล้วแม่งกูกลัวว่านุ่นจะรู้ว่ะ กูกลัวเขารับไม่ได้"
"เอาตรงๆถ้ารับได้ ก็เท่ากับเต็มใจยุ่งกับผู้ชายมีเมียเลยนะโว้ย"
"เพราะแบบนี้ไง กูถึงอยากไล่ให้ไปพ้นๆ ก่อนที่คนรักของกูจะรู้เรื่องเข้า"
นุ่นคงรับไม่ได้ และเธอคงทิ้งผมไป แน่นอนว่าผมยอมไม่ได้แน่ๆ
.
.
.
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมตั้งใจกลับช้าแบบเดิม พอเสร็จจากงาน ผมก็ตรงไปหาคนรัก
นุ่นยังคงน่ารักในแบบฉบับของเธอ แล้วผมก็มีความสุขเสมอเมื่ออยู่กับเธอเช่นกัน!
ยิ่งผมคิดถึงหน้าคนรักมากเท่าไหร่ ผมยิ่งอยากไล่เมียตามกฎหมายให้ไปไกลๆมากเท่านั้น
.
.
.
เมื่อผมเปิดประตูห้องเข้ามา ผมก็พบว่ายัยบ้านั่น ถือวิสาสะนอนอยู่บนเตียงของผม เธอยังคงหลับไหล ศีรษะของเธอหนุนหมอนอีกใบเอาไว้ ในขณะที่ข้างกาย กลับกอดก่ายหมอนที่ผมใช้หนุนเป็นประจำ
ผมเพ่งมองอย่างไม่ชอบใจ แล้วไวเท่าความคิด ผมก็ขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะกระชากแขนเรียวขาวนวล จนเจ้าตัวผวาตื่นขึ้นมา
"ทำบ้าอะไรอ่ะ!"
ยัยนั่นร้องถามอย่างตกใจ ก่อนจะใช้มือดึงชายชุดนอนที่สั้นของเธอเอาไว้
"เธออ่ะทำบ้าอะไร ใครใช้ให้ขึ้นมานอนบนเตียงของฉัน"
"มัชเป็นภรรยา ทำไมมัชจะนอนบนเตียงของสามีไม่ได้ล่ะ"
"ภรรยาหรอ เหอะ.. ภรรยาที่ฉันไม่อยากได้ ไม่ต้องมาเสนอหน้าบอกว่าเป็นภรรยาของฉัน!"
"คำก็ไม่อยากได้ สองคำก็ไม่อยากได้ ไม่อยากได้ทำไมไม่บอกคุณแม่ตรงๆล่ะ!"
"ฉันแค่ขัดไม่ได้ อย่ามั่นหน้ามากไปหน่อยเลย!"
ปกติผมไม่ใช่ผู้ชายปากร้าย แต่เพื่อให้ยัยนี่ยอมไป ต่อให้พูดแรงแค่ไหน ผมก็จำใจต้องพูด
"มัชเองก็ไม่ได้อยากมีสามี มัชแค่ทำตามหน้าที่ พี่โยแค่ทำให้คุณป้าสบายใจ เรื่องอื่นพี่โยไม่จำเป็นต้องสนก็ได้"
"แค่นั้น.. แล้วเมื่อไหร่เธอจะยอมไป"
"คุณป้าเอ่ยปากเมื่อไหร่ มัชจะยอมไปทันที"
"ดี! งั้นก็เตรียมตัวเอาไว้ เธอได้ไปจากที่นี่แน่ๆ"
ผมบอกออกไปอย่างมั่นใจ ผมจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้แม่ของผม ยอมปล่อยยัยนี่ไป แล้วอ้าแขนรอรับสะใภ้ตัวจริงให้ได้ในสักวัน