ผมไม่เสียเวลาคิด ว่ายัยนั่นจะกลับบ้านด้วยวิธีไหน ผมไม่สนด้วยว่าเธอจะกลับบ้านยังไง ต่อให้เธอต้องร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ผมก็ไม่แคร์..
"กูไม่น่าเอากับมึงด้วยคนเลยว่ะ คำด่าของเมียมึงยังฝังอยู่ในใจ เธอบอกให้กูไปหาเอาคนที่เต็มใจ ไม่ใช่เอาใครก็ได้ เธออัดคลิปกูไปรึเปล่าก็ไม่รู้ โครตซวยเลย!"
"ก็มึงมันโง่ แค่ผู้หญิงคนเดียว มึงก็จัดการไม่ได้"
ผมหันไปด่าเพื่อนชายอย่างหงุดหงิดใจ ไม่ว่าจะหงุดหงิด เรื่องที่แผนการพังไม่เป็นท่า หรือว่าเรื่องที่เธอจะลุกขึ้นมาสู้ แต่สุดท้ายมันก็ทำให้ผมหัวเสียได้อยู่ดี
ผมหันไปนั่งดื่มสุราอย่างไม่แคร์คำด่าของใครหน้าไหน
ไอ้ปั๊บมันหาว่าผมใจร้าย ผมทำให้คนเป็นเมียร้องไห้ แล้วมันจะมาวุ่นวายกับเรื่องผัวๆเมียๆของผมทำไม ขนาดตัวผมเองยังไม่เห็นจะใส่ใจอะไรเลย
ผมกลับบ้านในเวลาเกือบตีสอง บ้านช่องเงียบกริบเหมือนทุกคนนอนหลับสนิท ผมตรงขึ้นไปบนห้องอย่างเร็วไว แล้วหมายจะไปคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้ ว่ายัยนั่นอัดคลิปเพื่อนผมเอาไว้รึเปล่า
แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิดไว้ ยัยนั่นไม่ได้นอนที่ห้อง แม้แต่หมอนที่เธอเคยใช้หนุนนอนก็ยังอยู่
ยัยบ้านั่นหายไปไหน เธอคิดจะลองดี ที่จะปล่อยให้แม่ผมด่า เมื่อทราบว่าเธอหายไป อย่างนั้นใช่ไหม..
ผมหยิบหมอนที่ยัยนั่นใช้หนุนมาถือเอาไว้ ในเมื่อเธออยากลองดี ผมก็จะจัดให้!
ผมปาหมอนใบใหญ่ กระแทกกับผนังห้องอย่างไม่ใส่ใจ เจอตัวเมื่อไหร่ จะปั่นให้หนักกว่าเดิม!
ผมเลือกที่จะตื่นเช้ากว่าปกติ เพื่อมาเอาอกเอาใจคนที่เป็นมารดา แต่ท่านก็ยังหาว่าผมทำดีเพื่อเอาหน้า แล้วอย่างยัยบ้านั่น คุณแม่เคยว่าบ้างไหม
"มัช.."
บุพการีของผมร้องทักด้วยความดีอกดีใจ ส่วนยัยนั่น ก็ยิ้มแป้นเข้ามาใกล้ ก่อนที่แม่ของผมจะสวมกอดเธอเอาไว้
"เป็นไงลูก กลับไปนอนที่บ้าน วันหลังชวนโยไปด้วยกันสิ จะได้คุ้นเคยกันไว้"
"คงไม่แล้วค่ะ มัชจะอยู่ที่นี่.."
ยัยนั่นลากเสียง ก่อนจะชายตามามองที่ผมหน่อยๆ
"หมายถึงจะอยู่ที่นี่ อยู่กับคุณแม่ทุกๆวันเลยค่ะ"
ยัยนั่นยิ้มกว้างมากกว่าเก่า เธอไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าเธอจะได้อยู่ที่นี่ตลอดไป
"จริงๆเขากลับไปนอนที่บ้านก็ดีแล้วนะครับ ไม่ขวางหูขวางตาผมดี!"
มารดารีบหันมาถลึงตาใส่ ก่อนที่ความสนใจจะถูกดึงกลับไป โดยคนที่เป็นบุตรสะใภ้
"ห้องที่คุณแม่ตั้งใจจัดไว้ให้มัช เรียบร้อยรึยังคะ มัชจะได้ไปเอาของใช้บางส่วนไปเก็บไว้"
"แม่ให้คนจัดการให้เรียบร้อยแล้วจ๊ะ!"
"ห้องอะไร!"
ผมร้องถามเมื่อได้ฟัง..
"ขอบคุณคุณแม่นะคะ งั้นเดี๋ยวมัชขอไปเก็บของเข้าห้องสักครู่นะคะ เดี๋ยวมัชลงมา"
ยัยนั่นไม่ได้สนใจ ในความสงสัยของผมแต่อย่างใด เธอเดินย่างกรายขึ้นไปบนบ้านหน้าตาเฉย
"หมายความว่าไง ยัยนั่นขออะไรคุณแม่อีก"
"ขอแค่ห้องสำรองไว้เก็บของเล็กๆน้อยๆ"
"คุณแม่จำเป็นต้องตามใจยัยบ้านั่นมากมายขนาดนี้ไหม เธอใช้เล่ห์เหลี่ยมกลไหน คุณแม่ถึงหลงใหลได้ขนาดนี้"
ผมไม่พอใจ บอกตรงๆว่าผมไม่พอใจ นับวัน มัชฌิมา ยิ่งทำให้ผมไม่ชอบใจมากขึ้นไปทุกที
.
.
.
"มารยาสาไถย เธอเล่นบทบาทไหน ถึงทำให้คุณแม่ตายใจ ทำอะไรแบบที่เธอต้องการได้ถึงขนาดนี้"
ผมเข้าไปประชิดตัว พร้อมกับหาเรื่อง ในขณะที่ยัยบ้านั่นตั้งหน้าตั้งตา ลื้อเสื้อผ้าของตัวเองออกมาจากตู้
"แค่เป็นคนดี คุณเข้าใจไหม!"
เธอปรายตามองมาที่ผมอย่างตั้งใจ แล้วคำพูดต่อมา ก็สามารถทำผมเดือดอีกจนได้
"แต่คงจะไม่ เพราะสภาพนี้ เลวเกินไป!"
"มันจะมากเกินไปแล้วนะมัชฌิมา!"
ผมกระชากร่างบางเข้าหา มือของผมบีบเรียวแขนของเธอเอาไว้ แต่ต่อให้ผมจงใจบีบแรงแค่ไหน แต่เธอก็ไม่แสดงสีหน้าของความเจ็บปวดออกมาแต่อย่างใด
"อย่าคิดว่าคุณแม่เข้าข้าง แล้วจะอยู่บ้านนี้ได้นานๆ ฉันจะทำทุกวิถีทาง ให้เธอซมซานออกไปให้ได้"
"ค่ะ! ให้เพื่อนทำเลวทรามต่ำช้ากับคนเป็นเมีย ก็เคยทำมาแล้วนี่คะ!"
ยัยนั่นสบตากับผมอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด เลยเป็นตัวผมเอง ที่รู้สึกกลัวใจของเธอขึ้นมา
ผู้หญิงอ่อนแอก็แค่ร้องไห้ แต่บทจะร้าย ผมก็ชักไม่แน่ใจ ว่าต้องรับมือแบบไหน
"มือถืออยู่ไหน อัดคลิปไว้รึเปล่า!"
ผมรีบถามไถ่ ในสิ่งที่เพื่อนกังวลใจ
"อัดไว้ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกว่าอยู่ในมือถือเครื่องไหน!"
ผมชักสีหน้าอย่างไม่ชอบใจ ยัยนี่คิดจะลองดีให้ได้เลยใช่ไหม!
"ถามอีกสิคะ ว่าอยากได้เงินเท่าไหร่ แล้วจะเรียกเอาให้หมดตัวเลย!"
มัชฌิมาผลักร่างของผมออกห่าง แต่คนอย่างผมก็ไม่ปล่อยช่องว่างเอาไว้นาน
ผมกระชากร่างบางๆนั่นเข้ามาหาอีกครั้ง ทั้งๆที่ยัยนั่นไม่ได้แสดงสีหน้าหรือแววตาหวาดกลัวแต่อย่างใด แต่คนอย่างผมก็ไม่ได้ถอดใจ หรือคิดจะยอมถอยง่ายๆ
"ต้องการอะไร!"
"ไปลากเพื่อนคุณมา แล้วพามาขอโทษฉัน ขอโทษพร้อมกันทั้งสองคน!"
ยัยนั่นเน้นเสียงช้าๆย้ำๆ แต่มันกลับไม่ได้ทำให้ผมนึกกลัวแต่อย่างใด
"เหอะ! คิดว่าคนอย่างฉันจะยอมเธอไหม!"
"คุณแม่คงรับไม่ได้ ถ้ารู้ว่ามีลูกชายสารเลว!"
แล้วความอดทนของผมก็สิ้นสุดลงไป ร่างบอบบางถูกผมผลักไสออกห่างกายด้วยแรงอารมณ์!
"โอ๊ย!"
ร่างของยัยนั่นล้มลงสู่พื้นในทันที ใบหน้าหวานแสดงอาการเหยเกออกมา ในขณะที่มือบางกำเข้าหากันแน่น
ในขณะที่ตัวเธอไม่สามารถจะทำอะไรผมได้ เวลานี้ผมกลับรู้สึกชอบใจ
"สะใจ!"
ผมแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ ยิ่งผมใจร้ายกับเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งจะไปจากบ้านของผมได้ไวเท่านั้น!
"มากเกินไปไหมโย!"
มารดาของผมตรงดิ่งเข้ามาหา ผมไม่รู้ว่าคุณแม่ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วท่านได้ยินในสิ่งที่ผมพูดกับยัยนี่ไหม แต่สุดท้าย เธอก็ทำให้แม่โกรธผมอีกจนได้
"ถ้าลูกเขาแข้งขาหักขึ้นมาจะว่าไง แม่สอนให้แกเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!"
"ก็เห็นยังไม่ตาย แล้วแม่จะเข้าข้างคนอื่นทำไมนักหนา"
"แม่เข้าข้างคนที่ถูก ต่อให้คนที่ผิดคือลูก แม่ก็ไม่เข้าข้าง ลงไปข้างล่างเดี๋ยวนี้!"
ผู้ที่เป็นมารดาออกคำสั่งขึ้นมาทันที ก่อนจะขยับเข้าไปหายัยบ้าที่พึ่งถูกผมกระทำ!
.
.
.
เมื่อลงมาชั้นล่างกันพร้อมหน้า ผมก็ถูกมารดาสั่งให้ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป
"ขอโทษ!"
ผมจะฝืนใจอีกสักเรื่องจะเป็นไรไป ขนาดแม่บังคับให้จดทะเบียนสมรสกับเมียที่ไม่อยากได้ ผมยังจำใจจดมาแล้วเลย!
ผมเพ่งมองไปตามร่างกายของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียตามกฎหมาย
ในเมื่อเธอพยายามจะแย่งชิงความสุขจากชีวิตผมไป ถ้าเกิดผมจะหาความสุขจากกายเธอบ้าง มันก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ!
________________________________
ถ้าอ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตามไว้นะคะ