แต่อารีแอนน่าเข้าใจว่าพี่ชายเป็นห่วงว่าชีวิตความเป็นอยู่เป็นอย่างไร เนื่องจากนานๆ จะได้เจอกัน เลยเล่าอย่างละเอียด จึงไม่รู้ว่าพี่ชายหลอกถาม อาเลสซันโดรโล่งใจทุกครั้งที่น้องสาวของเขายังปลอดภัยดีอยู่ เขาไม่ได้รังเกียจเจ้านายผู้ร่ำรวย แต่กังวลว่าน้องสาวอายุยังน้อย จึงไม่เหมาะที่จะมีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้น
“ยังไงเหรอพี่สเตฟาน” อาเลสซันโดรถามเสียงราบเรียบเหมือนไม่รู้ความนัยที่เพื่อนรุ่นพี่กำลังจะเล่า
“เจ้านายน่ะหวงคุณแอนนามากเลยนะ นายไปทำงานตรวจดูคาสิโนนานเป็นเดือนกว่าจะกลับ เลยไม่ค่อยได้อยู่กับคุณแอนนา”
“หวงยังไง” อาเลสซันโดรถามต่อเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยากจะเล่าเต็มที่
“ก็หวงถึงขนาดส่งคุณนิกไปเรียนต่างประเทศยังไงล่ะ ตอนที่เผลอไปเห็นคุณริกสนิทสนมกับคุณแอนนาถึงขนาดเล่นน้ำในสระด้วยกัน ลูกน้องหลายคนก็โดนไล่ออกเพราะแอบไปมองคุณแอนนาเข้า”
“แค่มองนี่เหรอ” อาเลสซันโดรถามอย่างแปลกใจ เพราะเขาก็พอรู้ว่ามีบอดี้การ์ดหลายคนโดนไล่ออกโดยไม่ทราบสาเหตุ
“แค่มองอย่างเดียวคงไม่โดน แต่จ้องยังกะจะกลืนกิน นายต้องยอมรับว่าน้องสาวของนายสวย และคุณริกก็ทั้งรักทั้งหลง เคยมีครั้งนึงตอนนั้นนายไปดูคาสิโนที่ลาสเวกัส มีการ์ดคนหนึ่งไปแอบดูคุณแอนนาเล่นน้ำ โดนคุณริกสั่งจัดการ”
“จัดการยังไง”
“ควักลูกตามั้ง”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“มันแย่กว่านั้นอีกสิ ไอ้หมอนั่นมันเสือกสัมผัสคุณแอนนาตอนที่คุณแอนนานอนหลับพักผ่อนอยู่ริมสระ” สเตฟาโน่คุ้นชินกับการลงโทษที่เหี้ยมโหดสำหรับคนที่คิดไม่ซื่อ แต่เขาเองก็ทำท่าทีสยองเช่นเดียวกัน
“แล้วพี่ล่ะ แอบมองแอนนาไม่กลัวเหรอ”
“เฮ้ย! ฉันเป็นเกย์”
สเตฟาโน่สะดุ้งโหยงเมื่อมีคนรู้ว่าเขาแอบมองอารีแอนน่าเหมือนกัน และไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นพี่ชายของหล่อนนั่นเอง แต่การมองของเขาไม่ได้หยาบโลนหรือแทะโลม กลับมองด้วยความชื่นชมในความงดงามของเด็กสาวเสียมากกว่า
“พี่นี่นะเป็นเกย์ มีใครที่ไหนจะยอมรับว่าเป็นเกย์ง่ายๆ” อาเลสซันโดรรู้สึกว่าหายตึงเครียดในทันทีที่ได้คุยกับเพื่อนรุ่นพี่คนนี้
“ก็เอาไว้ป้องกันตัวไง ถ้าบอกว่าเป็นผู้ชายทั้งแท่งแล้วไปเผลอมองคุณแอนนาเข้าจะได้ไม่โดนเจ้านายควักลูกกะตายังไงล่ะ” สเตฟาโน่พูดติดตลก แต่แววตาจริงจัง เขาไม่กล้าเสี่ยงกับอารมณ์ของเจ้านาย ริกคาโด้ดูภายนอกเป็นนักธุรกิจที่สุขุมลุ่มลึกและใจเย็น แต่จริงๆ แล้วกลับแฝงด้วยความเหี้ยมโหดเอาไว้อย่างไม่มีใครคาดคิด นอกจากคนที่สนิทเท่านั้นที่จะรู้
“ฉันไม่เคยรู้มาก่อน” อาเลสซันโดรพึมพำ
“เคยมีครั้งหนึ่ง ตอนที่คุณแอนนายังเด็ก ตอนที่จมน้ำน่ะ นายจำได้ไหม”
“จำได้สิ ทำไมล่ะพี่” อาเลสซันโดรถามด้วยความสงสัย
“ผู้หญิงของเจ้านายเป็นคนผลักคุณแอนนาตกน้ำ ตอนนั้นคุณแอนนายังเด็กว่ายน้ำไม่เป็น นายรู้ไหมผู้หญิงคนนั้นมีสภาพเป็นยังไง”
“แอนนาถูกผลักตกน้ำหรอกหรือ ผมกลับมาก็ได้ยินข่าวว่าแอนนาตกน้ำ แต่ไม่ได้ซักถามอะไรยังไง เมื่อเห็นน้องปลอดภัยก็โล่งใจ ไม่เคยรู้มาก่อน” เขานึกตามคำพูดของสเตฟาโน่ ผู้หญิงคนนั้นคงโดนหนักน่าดู
“เจ้านายมาแล้ว” สเตฟาโน่กระทุ้งแขนใส่เพื่อนรุ่นน้อง อาเลสซันโดรหันไปมอง ทั้งสองจึงยุติบทสนทนากันชั่วคราว ก่อนจะเดินตามเจ้านายไปไม่ห่างเพื่ออารักขาความปลอดภัย ส่วนการ์ดที่เหลือก็กระจายอยู่จนทั่ว ไม่ปล่อยให้เจ้านายคลาดสายตาเช่นกัน
ริกคาโด้อยากพาสาวน้อยกลับบ้านโดยเร็ว เพราะมีหนุ่มๆ หลายคนแอบมองสาวน้อยที่เขาสุดจะหวงแหน...
ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก...
เสียงเคาะประตูทำให้ริกคาโด้เงยหน้าจากกองเอกสารและกล่าวอนุญาตด้วยเสียงที่ทรงไปด้วยอำนาจ
“อ้าว... ซันโดร นายมีอะไรหรือเปล่า” ริกคาโด้เลิกคิ้วคมเข้มขึ้นถามหลังจากผายมือให้อีกฝ่ายนั่งตรงกันข้าม ในเวลาที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง มาเฟียหนุ่มจะเป็นกันเองกับลูกน้องคนนี้และทำตัวเหมือนเพื่อนมากกว่าเจ้านายที่ปฏิบัติต่อลูกน้อง แต่ก็ไม่เคยเกินเลยเกินขอบเขตมากนัก
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณริกครับ”
“ว่ามาสิ” แผ่นหลังแกร่งพิงไปกับพนักเก้าอี้ทำงาน มือเลื่อนไปกดเครื่องมือสื่อสารที่ติดต่อไปยังห้องครัวให้สาวใช้ที่ประจำอยู่ที่นั่นนำกาแฟมาเสิร์ฟ
“เอ่อ...”
“พูดมาตรงๆ ฉันรอฟังนายอยู่” ริกคาโด้พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดว่าอะไร เขาจึงไม่อยากให้ต้องโยกโย้อ้อมค้อมอะไรกันอีก
“เรื่องแอนนา ผมคิดว่า...”
“นายคิดอะไร ฉันรู้”
ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก...
“เข้ามาได้”
เสียงจากในห้องทำให้สาวใช้นำกาแฟมาเสิร์ฟก่อนจะเลี่ยงออกไป ริกคาโด้ผายมือให้ลูกน้องคนสนิทที่อยู่กันมาหลายปี อาเลสซันโดรยกกาแฟขึ้นจิบเล็กน้อย “ฉันรู้ว่านายคิดเรื่องความเหมาะสมกับไม่เหมาะสม แต่ฉันก็อยากพูดกับนายตรงๆ แอนนาฉันขอ ฉันจะดูแลเธออย่างดี นายจะให้ฉันได้ไหม”
“คุณริก” อาเลสซันโดรอึ้งไปพักใหญ่ เพราะไม่คิดว่าเจ้านายจะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้
“แอนนาอายุสิบห้า สำหรับนายคือเด็ก และฉันก็คิดแบบนั้น ฉันรับปากว่าจะไม่ล่วงเกินแอนนาถ้ายังไม่ถึงเวลาที่สมควร ฉันกล้าขอตรงๆ แบบนี้ นายล่ะกล้ายกแอนนาให้ฉันหรือเปล่า”
เมื่อใจนักเลงไม่ต่างกัน และเป็นคนพูดน้อยเหมือนกันอีกด้วย เนื่องจากถนัดทำมากกว่าพูด อาเลสซันโดรก็ยินดียกน้องสาวให้อยู่ในความดูแลของผู้เป็นนายตลอดไป
เขากลับรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินคำพูดเช่นนั้น อาเลสซันโดรไม่อยากเห็นน้องเป็นเพียงของเล่นยามเหงาของเศรษฐีมีเงิน แต่อยากให้เธอมีผู้ชายที่ดีดูแลไปจนวันตาย ตามประสาพี่ชายที่รักน้องมากที่สุดคนหนึ่ง
เขารู้ดีว่าผู้เป็นนายเป็นคนเช่นไร ริกคาโด้เป็นคนช่วยชีวิตเขาและน้องสาว แถมยังให้ชีวิตใหม่ หากน้องสาวเพียงคนเดียวอันเป็นที่รักจะมีคนดูแลที่แสนดีเช่นนี้ เขาก็เบาใจลงไปได้...
อาเลสซันโดรออกไปนานแล้ว แต่ริกคาโด้กลับยังนั่งนึกถึงเรื่องที่คุยกันอยู่ ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น แล้วกลิ่นหอมประจำกายที่ทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มในทั่วสรรพางค์กายทุกครั้งที่ได้สูดดมก็ลอยเข้ามาปะทะจมูก
“คุณริก แอนนากวนหรือเปล่าคะ” น้ำเสียงหวานใสราวระฆังแก้วเอ่ยถามออกมา ใบหน้าหวานยิ้มเยือนอ่อนละมุน เรือนร่างหอมกรุ่นน่าทะนุถนอมเดินอย่างเชื่องช้ามาหยุดยืนใกล้ๆ อย่างสนิทสนม
“ไม่ได้รบกวน มีอะไรหรือ” เขาเอ่ยถามแต่สายตาเหลือบมองแก้วนมตรงหน้า
“แอนนาเอานมอุ่นๆ มาให้คุณริกค่ะ ดื่มแล้วจะได้นอนหลับสบาย”
“ฉันดื่มกาแฟแล้ว” เขาตอบพร้อมกับเหลือบมองใบหน้าหวานละมุนที่ทำให้หนุ่มวัยสามสิบกว่าเช่นเขาหลงใหลเด็กอายุเพิ่งจะแตกเนื้อสาวอายุเพียงแค่สิบห้า
“กาแฟไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ ยิ่งเวลากลางคืนแบบนี้ อาจทำให้นอนไม่หลับได้ การดื่มนมจะทำให้สุขภาพดี แถมยังนอนหลับสบายด้วยค่ะ คุณริกควรจะดื่มนมนะคะ”
“ฉันไม่ใช่เด็กนะแอนนา ที่จะดื่มนมก่อนนอน” ริกคาโด้ทำเสียงดุใส่เด็กสาว
อารีแอนน่าก้มหน้างุดอย่างเสียใจ เธอหน้างออย่างแสนงอน แล้วคนแก่ที่สูงวัยกว่าก็ต้องเป็นฝ่ายง้ออีกตามเคย
“ก็ได้ ถ้าอยากให้ฉันดื่มนมก็ต้องป้อนสิ ฉันไม่มีแรงเลยเด็กน้อย” เป็นคำออดอ้อนที่น่ารักที่สุด อารีแอนน่าทำท่าจะหยิบแก้วนมตรงหน้า แต่ถูกดึงไปนั่งบนตักเสียก่อน
“อุ๊ย!” เด็กสาวร้องอุทาน ก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นเขาโอบกอดแล้วส่งสายตามาบอกว่าพร้อมกินนม
เด็กสาวค่อยๆ ดึงหลอดที่อยู่ในซองออกมาฉีกแล้วใส่ลงในแก้วนมให้เขาดูด ริกคาโด้ทำหน้าปูเลี่ยน แต่ก็ยอมดูดนมจากแก้วแต่โดยดีไม่มีเกี่ยงงอน สร้างความพึงพอใจให้เด็กสาวเป็นอันมาก เสียงใสๆ กำกับบอกให้เขาดื่มให้หมดแก้ว มาเฟียหนุ่มแอบคิดในใจว่านี่ถ้ามีใครมาเห็นเขาในสภาพเช่นนี้คงเสียการปกครองแย่
“คุณริกเก่งที่สุดเลยค่ะ ดื่มหมดแก้วเลย” เด็กสาวมองแก้วเปล่าที่มีคราบนมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม