“เอ่อ...” เธออึกอัก รู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิตจับจ้องมองเธออยู่ แต่เธอไม่กล้ามองกลับไปตรงนั้นหรอก
“นะครับ คิดถึงจังไม่ได้เห็นหน้าตั้งเทอมนึงแน่ะ กินข้าวกับพี่สักมื้อนะครับ” สุรเชษฐ์มองอย่างออดอ้อน ทำให้ไหมแก้วใจอ่อนยวบ เพราะสุรเชษฐ์เป็นรุ่นพี่ที่ดีและมีบุญคุณช่วยเหลือเธอหลายอย่าง หลักๆ เลยคือเรื่องแนวข้อสอบ
“ได้ค่ะ แต่พี่เชษฐ์อยากจะกินอะไรคะ”
“กินติ่มซำกันไหม ร้านเจ๊พรอร่อยมากพี่คิดถึงติ่มซำร้านแกมากครับ กินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าร้านแก”
“ก็ได้ค่ะ” เพราะติ่มซำอยู่อีกร้าน ไม่ใช่ร้านเดียวกับที่ภามกับหยกมณีกินอาหารเช้ากันอยู่ ทำให้เธอหายใจคล่องขึ้น
แค่กินข้าวกับพี่รหัสคงไม่เป็นไรหรอกกระมัง เพราะเธอบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีลับหลังเสียหน่อย
ไหมแก้วปลอบใจตัวเอง ตอนเย็นเธอไปช่วยเพื่อนขายผลไม้ดอง เพราะบ้านของปิ่นปักนั้นเป็นร้านอาหาร ปิ่นปักอยากให้เธอมีรายได้จึงชวนเธอไปช่วยพ่อแม่ขายผลไม้ดอง และมีมุมเล็ก ๆ ให้เธอนำขนมไปวางขายโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า
“เดี๋ยวนี้เธอเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอกไปแล้วอย่างนั้นเหรอ” ร่างน้อยถูกกระชากเข้าไปในห้องเต็มแรง
“โอ๊ย!” ไหมแก้วต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“คุณภามหมายความว่ายังไงคะ”
“หมายความว่าที่เธอดีใจนักหนาเพราะมีคนรอรับช่วงต่ออยู่แล้วใช่ไหม”
“คุณพูดอะไรคะ” เธอมองหน้าคุณหมอหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ที่เธอดีอกดีใจเสียเหลือเกินที่เราจะเลิกกัน แถมยังไม่แสดงอาการหึงหวงอะไรสักอย่างที่ฉันจะคบหากับหยกมณี” ประโยคของเขาทำให้เธอมองแล้วกะพริบตาปริบ ๆ
“คุณภามอยากให้ไหมหึงคุณเหรอคะ ไหมมีสิทธิ์นั้นด้วยหรือคะ” เธอเอ่ยถามเขาทั้งน้ำตา ไม่อยากร้องไห้ แต่อดที่จะถามออกไปไม่ได้ เธอน่ะหรือไม่รู้สึกอะไร เธอก็มีชีวิตจิตใจ มีเลือดมีเนื้อเหมือนกัน
ไหมแก้วปาดน้ำตาทิ้ง ไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเขา ให้เขาต้องสมเพชเวทนา
“เธอไม่มีสิทธิ์” คำตอบของเขาสร้างความร้าวรานให้เธอจนหัวใจแทบแตกร้าว
“ไหมรู้ดีค่ะว่าไหมไม่มีสิทธิ์”
“คนที่มีสิทธิ์คือฉัน น้องชายของเธอจะได้รับการดูแลอย่างดี ยายของเธอก็จะสบายไปด้วย เธอจะได้เรียนต่อจนจบ หนี้สินที่ยายของเธอติดพี่ชายของฉันอยู่ก็จะยกให้ ถ้าเธอยอมอยู่กับฉันแบบนี้ตลอดไป”
“แล้วคุณหยกมณีล่ะคะ คุณเอาเธอไปทิ้งไว้ที่ไหน” ในฐานะลูกผู้หญิงด้วยกัน เธอเข้าใจดีว่าคงไม่มีผู้หญิงคนไหนจะยินยอมให้ผู้ชายของตัวเองไปแอบมีผู้หญิงอีกคนเอาไว้ทั้ง ๆ ที่ยังคบหากับตัวเองอยู่
“เรื่องนั้นเธอไม่ต้องสนใจหรอก ฉันจะจัดการเอง”
“แต่ไหมไม่อยากเป็นเมียเก็บใคร ไม่อยากเป็นผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแย่งสามีใคร ต่อไปคุณก็ต้องแต่งงาน คุณก็ควรให้เกียรติภรรยาของตัวเอง”
“สิ่งนั้นฉันจะเป็นคนจัดการเอง”
“อีกไม่กี่วันจะครบกำหนดเจ็ดวัน ไหมจะไปจากคุณเองค่ะ”
“คนที่บอกว่าเธอจะไปหรือไม่ไปคือฉันไม่ใช่เธอที่จะเป็นคนตัดสิน” เขาบีบแขนของเธอจนเจ็บ ก่อนจะรั้งร่างของเธอเข้าไปในห้องนอน
ร่างของไหมแก้วล้มหงายลงไป ในขณะที่ร่างของคุณหมอหนุ่มทาบทับเข้ามาหาบดเบียดเธอไปบนเตียงนอนกว้าง
“เจ็บ ไหมเจ็บค่ะคุณภาม” ไหมแก้วร้องด้วยความเจ็บ แต่เขาเต็มไปด้วยอารมณ์หึงหวงและมึนเมา กลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้เธอรับรู้ได้ถึงความไร้สติของเขา
ปกติเขาไม่กินเหล้าเมายา เขาเป็นคุณหมอหนุ่มที่สะอาดสะอ้าน แต่เหตุใดถึงได้เป็นเช่นนี้ไปได้
ไหมแก้วร้องประท้วงจนเสียงแหบแห้งแต่เขาไม่คิดปรานี สุดท้ายเธอก็ตกเป็นของเขาแบบไม่เต็มใจ
ร่างกายเจ็บร้าวไปหมด น้อยใจเสียใจที่เขาทำเหมือนเธอไม่ใช่คนแบบนี้
เขาขืนใจเธอ ค่ำคืนที่แสนยาวนานยิ่งกว่านรกบนดินเสียอีก ไหมแก้วขดตัวเองร้องไห้อยู่มุมหนึ่งของห้อง เป็นเมียเก็บลับ ๆ ของเขาก็น่าสมเพชตัวเองพอแล้ว ต้องมาคอยรองรับอารมณ์ร้าย ๆ ของเขาอีก
ช่วงเวลาที่ขออยากจากกันด้วยดี เธอจะไม่เอาอะไรไปเลยสักอย่าง ของมีค่าที่เขาซื้อให้ เธอไม่อยากได้แต่แรก เพราะภาวะหน้าที่บังคับ ขอแค่ให้เธอได้กลับไปอยู่กับยาย บ้านไม้เก่า ๆ สองชั้นที่ทำความสะอาดอย่างดีก็ยังพออยู่ได้ไม่ลำบากอะไรกับที่ดินอีกนิดหน่อยที่เอาไว้ปลูกพืชผักสวนครัว กับน้องชายที่เธอจะดูแลให้ดีที่สุด แม้ว่าอีกฝ่ายจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราไม่ฟื้นเช่นนี้
เธอจะขยันทำงานเพิ่ม จะไม่เป็นภาระใครอีกต่อไป
ภามกะพริบตาตื่นขึ้นมา รู้สึกได้ถึงอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้ที่แสนคุ้นเคย จึงรีบหันขวับไปมอง
“ไหม” ภามเห็นสภาพของเธอแล้วตกใจไม่น้อย นี่เขาทำอะไรลงไปนี่
“พอแล้ว ไหมกลัวแล้ว” ไหมแก้วตัวสั่น ปัดมือของภามออกไปแรง ๆ
“ไหม ไหมฉันขอโทษ” ภามร้องเรียกไหมแก้วเสียงดัง แต่เธอก็ยิ่งหวาดกลัว เขาเลยเข้าโอบกอดเธอเอาไว้
“ปล่อยไหมนะ ไหมกลัวแล้ว ไหมเจ็บ อย่าทำเหมือนไหมไม่ใช่คนแบบนี้อีก” ไหมแก้วรัวกำปั้นใส่แผ่นหลังของภามระรัว พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ไหม ฉันขอโทษ ฉันไม่ทำอะไรเธอแล้ว ฉันขอโทษ”
“ออกไปนะคะ ไหมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก” ไหมแก้วทุบตี กรีดร้อง แม้จะเจ็บแต่ภามก็ไม่ยอมปล่อย
“ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปตลอดชีวิต ฉันรักเธอ” ประโยคของเขาทำให้ไหมแก้วชะงัก เธอถอนสะอื้นมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
“เมื่อกี้คุณภามพูดว่าอะไรนะคะ” ไม่น่าเชื่อว่าคำว่ารักที่เธอรอคอยจะหลุดออกมาจากปากของผู้ชายที่เธอรักเขาตั้งแต่แรกเห็น
“ฉันรักเธอไง ถึงได้กลัวจะเสียเธอไปแบบนี้ ที่บ้านของฉันอยากให้ฉันแต่งงานกับหยกมณี ผู้หญิงที่เพียบพร้อมคู่ควร” เขาสารภาพความรู้สึกออกมา ที่โมโหหึง ทำตัวงี่เง่าก็เพราะอยากรู้ว่าเธอนั้นมีความรู้สึกตรงกับเขาไหม
พอเขาบอกว่าต้องแต่งงานกับหยกมณี ผู้หญิงที่ทางบ้านหาให้ เธอกลับยินยอมพร้อมใจยกเขาให้ผู้หญิงคนอื่น รอคอยให้เขาปล่อยเธอไป
แทนที่เธอจะร้องห่มร้องไห้ กอดแข้งกอดขา บอกรักเขา และขอร้องไม่ให้เขาไป เธอกลับนิ่งจนเขาใจหาย
สิ่งที่เธอทำ ทำให้เขาหงุดหงิดมาจนถึงตอนนี้ เธอรักเขาบ้างไหมนะ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันสามปี
“เธอล่ะรักฉันบ้างไหม ทำไมถึงไม่แสดงออกว่าหึงหวงอยากรั้งให้ฉันอยู่ต่อ”
“ไหมมีสิทธิ์ทำแบบนั้นด้วยหรือคะ” เขาเพิ่งบอกว่าเธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะอาจเอื้อมรักเขา
“ถ้าอยากมีสิทธิ์นั้นเธอก็ต้องบอกว่าเธอรักฉันบ้างไหม” ประโยคของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวเร็ว