แสงแดดยามสายสาดส่องผ่านประตูระเบียงที่ปิดม่านไว้เพียงครึ่ง เข้ามากระทบเปลือกตาที่ปิดสนิทของดาราหนุ่มชื่อดังผู้เป็นลูกรักคนใหม่ของช่อง
เปลือกตาที่เคยปิดสนิท ค่อยๆ เปิดขึ้นช้าๆ ภาพตรงหน้าที่ได้เห็นครั้งแรกหลังจากลืมตา ทำให้ดวงตาที่เคยหรี่ปรืออย่างงัวเงีย เบิกโพลงขึ้นฉับพลันด้วยความตกใจ
ก็หมอนใบข้างๆ ที่เคยว่างเปล่า กลับมีผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะมานอนหนุนหมอนใบนี้ได้ เธอนอนหลับตาพริ้มราวกับอยู่ในห้วงฝันอันแสนสุข
ดวงตาคมกริบที่เบิกกว้าง ไล่มองต้นแขนบอบบางขาวผ่องที่โผล่พ้นผ้าห่ม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าภายใต้ผ้าห่มผืนหนานั้น เธอจะมีเสื้อผ้าติดกายอยู่กี่ชิ้น
ฉิบหายแล้ว
ดาราหนุ่มร้องตะโกนก้องในใจ พลางยกมือขึ้นบีบขมับตัวเองไล่อาการหนักอึ้งปวดหนึบจนแทบยกหัวไม่ขึ้น
แต่แรงขยับเพียงน้อยนิด กลับทำให้สาวสวยที่นอนหนุนหมอนใบข้างๆ รู้สึกตัวพร้อมลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ
หญิงสาวเบิกตาขึ้นฉับพลันหลังจากตื่นจากห้วงฝันแสนวาบหวามที่เพิ่งเคยลิ้มรสครั้งแรกในชีวิตวัยสาว จากที่เคยคิดว่ามันเป็นแค่ความฝัน แต่มันดันเป็นความจริง เมื่อตรงหน้าเธอคือ กวิน ดาราหนุ่มที่เธอไปทาบทามมาให้เล่นละครของบริษัทเธอด้วยตัวเองเมื่อหลายปีก่อน
แถมเขายังอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน โชว์หน้าอกหนั่นแน่น และลอนกล้ามท้องชัดเจนทุกลูกชวนใจสั่น
ดวงตาทั้งสองคู่สบกันอยู่เพียงชั่วอึดใจ หนุ่มสาวก็ต่างลุกขึ้นนั่งพรวดพราดด้วยความตกใจ
แป้งหอม ปุณณดา อธิพัฒน์โภคิน กระชับผ้าห่มแน่น ปิดบังหน้าอกอวบอิ่มเปลือยเปล่าของตัวเองเอาไว้ การขยับตัวอย่างรวดเร็วทำให้เธอเจ็บแสบร้าวระบมที่จุดกึ่งกลางกายสาวจนสะดุ้งโหยง รู้ได้ทันทีเลยว่า สิ่งหวงแหนที่เธอเก็บรักษามาตลอดชีวิต ได้ถูกทำลายลงด้วยดาราหนุ่มที่อายุห่างจากเธอเป็นสิบปีคนนี้เสียแล้ว
“เอ่อ คุณแป้ง ผม..คือ..”
กวินที่กำลังพยายามจับต้นชนปลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก ไม่รู้ว่าพูดอะไรที่มันเหมาะสมและสามารถชดเชยความผิดที่เขาทำลายผู้มีพระคุณ ทั้งยังเป็นนายจ้างของเขาได้ดีกว่าคำสิ้นคิดคำนี้
“ผมขอโทษครับ คุณแป้ง”
หัวใจของปุณณดาเต้นกระหน่ำ เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าการที่เธอต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ มันแย่จนสมองมึนงง คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะจัดการปัญหานี้อย่างไร
“มะ ไม่เป็นไร พะ พี่ไม่ถือ”
แต่คำพูดที่หลุดออกจากปากเธอ กลับเป็นคำพูดง่ายๆ ตอนนี้อย่างไรก็ช่าง ขอดึงตัวเองออกจากสถานการณ์บ้าๆ ที่ทำให้กระอักกระอ่วนใจตรงนี้ให้ได้ก่อน
ทันทีที่คำพูดราวกับผู้หญิงที่ผ่านเรื่องอย่างว่ามาอย่างโชกโชน ทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกไม่พอใจที่สาวสวยที่ถูกเขาจ้วงแทงอย่างเมามันมาทั้งคืน พูดราวกับเยื่อบางๆ ที่เขาทำลายลงไป มันไม่ได้มีค่ามีความหมายกับเธอ
หรือผู้ชายอย่าง กวิน รชตะภาคิน ที่สาวๆ ต่างหมายปองและพร้อมจะทอดกายยอมเป็นผู้หญิงคืนเดียวของเขาจนแทบจะตีกันตาย..ไม่ได้มีความหมายให้เธอจดจำเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมพูดแบบนี้”
เสียงห้วนสั้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจถูกเปล่งออกมา ดวงตาที่เคยคมกริบทรงเสน่ห์ ดุดันจนขนอ่อนในกายสาวลุกซู่ไปหมด เธอไม่เคยเห็นเขาในภาพลักษณ์แบบนี้เลยจริงๆ นอกจากผ่านหน้าจอในงานแสดงของเขาเท่านั้น
“ทำไมล่ะ ก็เมื่อคืนเราทั้งคู่เมามาก เราไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ปล่อยมันไปเสียเถอะ”
“แต่ผมเป็นคนแรกของคุณ”
คนตัวบางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะมีสติรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป และไม่คิดว่าเขาจำได้ ก็เขาเมามากออกเสียขนาดนั้น
“ทะ ทำไมนายถึงจำได้”
“ผมเมาก็จริง แต่ผมยังมีสติ และผมก็จำได้”
“งั้นก็ลืมมันไปให้หมดเสียเถอะ พี่กลับล่ะ”
“เดี๋ยว พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง คุณไม่ต้องการให้ผมรับผิดชอบคุณหรือ ผมเป็นคนแรกของคุณนะ”
ปุณณดาเลิกคิ้วขึ้นถาม
“รับผิดชอบอะไรกวิน เราเมามากทั้งคู่ ถึงจะจำได้แต่ก็ทำไปด้วยความเมา เราแทบไม่มีสติยับยั้งชั่งใจเลยด้วยซ้ำ อย่าไปคิดอะไรมากเลย อีกอย่างเราก็ไม่ได้ชอบกันด้วย กวินจะมารับผิดชอบอะไรพี่ จะแต่งงานกับพี่งั้นหรือ”
“เอ่อ คือ ผม..”
คนที่ยังสับสน ด้วยไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จึงคิดตามไม่ทัน ถึงแม้เขากับเธอจะไม่ได้ชอบกันก็จริง แต่เขาก็จิ้มเธอไปแล้ว เธอเป็นผู้หญิง เป็นฝ่ายเสียหาย ต้องเรียกร้องให้เขารับผิดชอบสิ ถึงจะถูก
เธอต้องหวงแหนเขาที่เป็นสามีคนแรกของเธอสิ ทำไมถึงทำราวกับว่าเขามันไม่ได้เรื่อง ไม่เป็นที่ต้องการของใครเลย..แบบนี้ล่ะ
“ก็ใช่น่ะสิ คุณต้องเรียกร้องให้ผมรับผิดชอบคุณ แต่งงานกับคุณ ถึงจะถูก”
“ไร้สาระแล้วกวิน พี่โตมาจนอายุขนาดนี้แล้ว ไม่มามัวเสียดายเยื่อบางๆ นั่นหรอกนะ เราไม่ได้รักกัน ไม่ได้คบกัน อย่ามาคิดอะไรหยุมหยิมแบบนี้เลย ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเสีย แล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิม ถือว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นแล้วกันนะ”
ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้างดงามเขม็ง ที่เธอพูดนั้นมันก็ไม่ผิดเลย เราไม่ได้รักกัน ในหัวใจของเขายังมีเพื่อนรักคนนั้นอยู่เต็มหัวใจ ถ้าต้องให้เขารับผิดชอบเธอด้วยการแต่งงาน มันอาจตามมาด้วยการหย่าร้างในไม่นานนี้ สู้ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปไม่ดีกว่าหรือ ในเมื่อเขาเป็นผู้ชาย ไม่ได้มีอะไรเสียหายสักนิด คนที่เสียหายยังไม่เรียกร้องขอความรับผิดชอบอะไรเลย แล้วเขาจะมัวมาเป็นเดือดเป็นร้อนทำไม
บางทีการที่เรากลับไปสู่จุดเริ่มต้น เป็นพี่น้อง เป็นนายจ้างลูกจ้างเหมือนเดิม ก็คงดีที่สุดแล้ว
“แต่ผมไม่ได้ป้องกัน แล้วยังปล่อยข้างในตัวคุณตั้งหลายครั้ง”
คนตัวบางชะงักไป แก้มขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความเขินอาย เกิดมาก็เพิ่งเคยมีอะไรลึกซึ้งกับใคร แถมยังมาเจอคำพูดชวนอายจนหูอื้อไปหมด บ้าจริง
“เอ่อ..พี่โตแล้ว ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องกังวลนะ”
“คุณแป้ง คิดดีแล้วใช่ไหม ที่จะให้เรื่องนี้จบแบบนี้”
“อืม พี่คิดดีแล้ว วันหนึ่งที่นายโตขึ้น หรือเจอคนที่นายรักแทนที่มะลิ นายอาจจะขอบคุณพี่ด้วยซ้ำ ที่ไม่ได้เรียกร้องขอการรับผิดชอบจากนาย เราอายุห่างกันตั้งสิบปีนะ เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้หรอก กว่านายจะโต พร้อมหยุดอยู่ที่ใครสักคน พี่ก็คงแก่ใกล้ตายแล้วล่ะ ให้เรื่องไม่ตั้งใจนี่จบลงแค่ตรงนี้เถอะ”
ไม่จริง มันไม่จริงเลยสักนิด แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ เขารักใครรักจริง ถึงจะมีรักสนุกบ้างตามประสาวัยรุ่นและหนุ่มโสด แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่เขารัก เขาพร้อมจะแต่งงาน และพร้อมเป็นพ่อของลูกแล้ว วันนี้เลยก็ได้..แต่คนอย่างเขา มันไม่ได้โชคดีแบบนั้น
“ครับ เอาแบบที่คุณต้องการก็ได้”
“โอเค งั้น..พี่ไปนะ”
ดวงตาคมทรงเสน่ห์กวาดมองใบหน้างดงามของผู้หญิงที่เขากอดจูบจ้วงแทงมาทั้งคืน อยากจดจำความพิเศษนี้เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากเธอเลย ที่มองใบหน้าหล่อเหลาชวนฝันของผู้ชายคนแรก เก็บเรื่องเมื่อคืนเอาไว้เป็นความทรงจำชั่วชีวิต
“ครับ”
สาวสวยสุดมั่นใจอย่างปุณณดา ลากผ้าห่มคลุมร่างเปลือยเปล่าพร้อมหยิบเสื้อผ้าที่ตกเกลื่อนห้องเข้าห้องน้ำไป ไม่นานก็ออกมาในสภาพพร้อมเดินทาง
เธอหันกลับมามองหน้าชายหนุ่มรุ่นน้อง ที่ลุกขึ้นมาใส่กางเกงผ้ายืดขายาว นั่งมองเธออยู่ที่ปลายเตียงเงียบๆ ไม่ได้มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของเขาอีก
เธอยกยิ้มมุมปากให้เขาเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินจากมาเงียบๆ บอกลาความผิดพลาดแสนหวานที่อยู่เบื้องหลัง ด้วยน้ำตาอาบแก้ม..โดยไม่มีใครรู้
เขามองแผ่นหลังบอบบางเดินออกจากห้องไป เมื่อเธอลับสายตา ก็หันกลับไปมองบนเตียงที่ยับย่นสภาพดูแทบไม่ได้เพราะผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดเลอะคราบเลือดและคราบน้ำรักเกรอะกรังเต็มไปหมด
กวินถอนหายใจยาว ดวงตาแดงก่ำ กัดกรามแกร่งจนสันขึ้นนูนขยับไปมา เขาเสยผมลวกๆ แล้วก้มหน้าลง ใช้มือทั้งสองข้างกุมหัวจิกทึ้งเส้นผมของตัวเองแน่น
“ไอ้เหี้ยกวิน..แม่ง มึงทำอะไรลงไปวะ”