“กะ กวิน..”
คนตัวบางพูดออกมาได้แค่นั้น ก็ไม่สามารถหาเสียงของตัวเองเจออีก เมื่อดาราหนุ่มผู้เอาแต่ใจโน้มใบหน้าลงไปประกบปากบดจูบเธออย่างเร่าร้อนเรียกร้องให้เธอตอบสนองเขากลับคืนมา
สุดท้าย เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอระหง มีเพียงเสียงครวญครางระงมด้วยความเสียวซ่านแทบขาดใจ จวบจนพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าแล้วเท่านั้น เขาจึงยอมปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระจากเรือนกายใหญ่โตและได้นอนพักผ่อนจริงๆ เสียที
ดาราหนุ่มถอนหายใจออกมาด้วยความหนักอึ้ง เรื่องเมื่อคืนทำให้เขามีความสุขสุดๆ เสียวสะบั้นจนถึงปลายเท้า เธอทำให้เขาแทบคลั่งตาย แม้เขาและเธอจะเมามาก ทุกการกระทำแม้จะเกิดจากอารมณ์หนุ่มสาวที่พาไป แต่เขาก็มีสติรู้ตัวและจดจำได้ทุกรายละเอียด
ความอบอุ่นของร่างกายบอบบางยังติดอยู่ที่ร่างกายของเขา จนหัวใจดวงโตเต้นแรง ภาพความเร่าร้อนแสนหวานของเธอกับเขาหลั่งไหลวนเวียนเข้ามาในสมองของเขาอีกครั้ง จนต้องสะบัดศีรษะไล่ความวาบหวามออกไปให้หมด
“บ้าเอ๊ย มึงเป็นอะไรไปวะ”
เขาสะบัดศีรษะอีกครั้งแล้วเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่องรอยของเธอออกไปจากเขาเสียที ในเมื่อตกลงกันไว้ว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ก็ไม่ควรต้องมาคิดวนเวียนถึงเธออีก
ปุณณดากลับถึงบ้านในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอไม่ลืมที่จะแวะซื้อยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินแล้วกินทันทีตั้งแต่ซื้อเสร็จ
ในห้องน้ำขนาดใหญ่ เธอใช้เวลายืนสำรวจร่างกายของตัวเองในกระจกเงาบานโตอยู่นาน
มือเล็กลูบเบาๆ ที่รอยจ้ำแดงบนซอกคอและเนินอกอวบอิ่มที่เขาทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
“บ้าจริง ทำรอยไว้ด้วยเหรอเนี่ย เด็กบ้า”
เธอเดินเข้าไปในโซนอาบน้ำที่กั้นกระจกไว้เป็นสัดส่วน เปิดน้ำฝักบัวสุดแรง แล้วใช้มือลูบไล้ครีมอาบน้ำไปทั่วเรือนร่างวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา ราวกับต้องการลบล้างสัมผัสของเขาออกไปให้หมด..จากหัวใจ
เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองเหมือนจะไม่สบาย ที่จริงตั้งแต่ตื่นมาเธอก็รู้สึกว่าเหมือนจะเป็นไข้ แต่อารมณ์ตกใจกลับทำให้เธอลืมความรู้สึกนั้นไปจนหมด
เธอกินยาแก้ไข้และแก้อักเสบ แล้วนอนหลับพักผ่อนทั้งวัน สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเด็กในบ้านมาเคาะประตูตามลงไปกินข้าวเย็น
ใจจริงอยากจะปฏิเสธไป แต่กลัวว่าจะผิดสังเกต จึงต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวใหม่ด้วยเสื้อผ้าที่ค่อนข้างมิดชิด แล้วลงมาที่ห้องอาหารเป็นคนสุดท้ายของบ้าน
“มาแล้วหรือลูก นอนหลับหรือจ๊ะ”
อัณณา มารดาสุดสวยของเธอเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เพราะปกติลูกสาวคนโตจะเป็นเด็กแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยกับใครเขา แต่เด็กในบ้านกลับลงมารายงานว่าลูกสาวของเธอกลับบ้านมาในตอนสาย แล้วไม่ออกมาจากห้องนอนอีกเลย
ปุณณดา กวาดสายตามองสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่มองมายังเธอเป็นตาเดียวด้วยความสนใจ จึงจำต้องตอบออกไปไม่ให้มีพิรุธที่สุด
“ค่ะแม่ แป้งรู้สึกเป็นไข้ สงสัยเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยค่ะ”
“แล้วเมื่อคืนพี่แป้งไปนอนที่ไหนมา ผมกลับบ้านมาเกือบเช้ายังไม่เห็นรถพี่มาจอดเลย”
ปุณณ์ ปุณณิธิ พระเอกหนุ่มชื่อดัง น้องชายที่คลานตามเธอมา ห่างจากกันเพียงแค่ปีเดียว เอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะปกติ ต่อให้เขาจะกลับบ้านดึกดื่นเพียงใด มักจะเห็นรถของพี่สาวจอมบ้างานจอดอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว ยกเว้นแค่วันที่เธอเดินทางไปควบคุมละครที่ยกกองไปถ่ายทำที่ต่างจังหวัดเท่านั้น
และคำถามนี้ ทำเอาคุณพ่อรูปหล่อจอมหวงลูกสาวหูผึ่ง หันมามองหน้าลูกสาวอย่างคาดคั้นต้องการคำตอบในทันที
“เมื่อคืนแป้งไม่ได้กลับบ้านหรือลูก ไปนอนที่ไหน ทำไมไม่ไลน์บอกพ่อไว้ก่อน”
โปรด ปุณณัตถ์ อดีตพระเอกอันดับหนึ่งที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของบริษัทผลิตละคร มองลูกสาวสุดสวยที่ตัวเองหวงแหนราวไข่ในหินตาเขม็ง แต่ก็ถูกเมียรักเตือนสติเสียก่อน
“คุณโปรด ลูกเราโตแล้วนะคะ อายุ 32 จะ 33 อยู่แล้ว อย่าทำเหมือนลูกยังเป็นเด็กสิคะ”
ปุณณัตถ์หันกลับมามองหน้าเมียรักด้วยแววตาอ่อนโยน เขารู้ ว่าลูกสาวของเขาโตเป็นสาว เข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัว และเธอก็ไม่เคยทำตัวเหลวไหลให้พ่อแม่ผิดหวัง แต่คนเป็นพ่อ ก็อดที่จะทั้งหวงทั้งห่วงไม่ได้อยู่ดี
“อัณณ์ครับ แต่ลูกเราเป็นลูกสาวนะ ผมก็ต้องห่วงสิครับ”
“อัณณ์รู้ค่ะ แต่ลูกเราโตแล้วนะ ยัยแป้งควรมีแฟน มีครอบครัวได้แล้วด้วยซ้ำ ดูสิคะ ทั้งคุณ ทั้งหนุ่มๆ อธิพัฒน์โภคิน ทำเอาไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้าใกล้ จนสามสาวจะขึ้นคานกันหมดอยู่แล้วนะ”
“ก็ไม่เห็นต้องมีแฟนเลยครับ พี่สาวคนเดียว ผมเลี้ยงได้”
ปัณณ์ ปัณณธี น้องชายคนเล็กของเธอ ที่รับหน้าที่บริหารบริษัทผลิตละครร่วมกันกับเธอ และเป็นผู้จัดละครมือทองอีกหนึ่งคน เอ่ยออกมาด้วยใบหน้านิ่งๆ ไร้ซึ่งความรู้สึกอันใด ราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องลมฟ้าอากาศ แต่ในใจนั่นจะครุกรุ่นขนาดไหนด้วยความหวงพี่สาว ไม่อาจมีใครรู้ได้เลย
“พอเลยเจ้าปัณณ์ พอกันทั้งพ่อทั้งลูกชาย แม่ขอสั่งห้าม ไม่ให้หนุ่มๆ วุ่นวายกับพี่แป้ง เพราะพี่แป้งโตแล้ว และแม่อนุญาตให้พี่แป้งมีแฟนได้ แต่ต้องพาผู้ชายคนนั้นมาให้พวกเรารู้จักก่อน โอเคไหม”
“แม่ขา แป้งไม่ได้มีแฟนค่ะ เมื่อคืนแป้งเมา กลับบ้านไม่ไหว เลยไปนอนที่คอนโด ตื่นมาก็รู้สึกป่วยแต่ไม่อยากนอนคนเดียวที่คอนโดอีก เลยฝืนสังขารกลับบ้านมานอนพัก”
ปุณณดา ที่มองคนนั้นทีคนโน้นทีรีบเอ่ยขัด ก่อนที่ทุกคนจะเข้าใจอะไรผิดมากไปกว่านี้ ทั้งทีเมื่อคืนเธอก็ไปนอนกับผู้ชายมาจริงๆ นั่นแหละ แต่เรื่องแบบนี้จะให้ใครในครอบครัวรู้ไม่ได้เป็นอันขาด มีหวังผู้ชายคนนั้นได้ถูกลากคอมารับผิดชอบเธอด้วยการแต่งงานแน่นอน โทษฐานที่บังอาจมาจิ้มลูกสาวบ้านอธิพัฒน์โภคินที่ทุกคนในตระกูลแสนหวงแหน
“คราวหน้าถ้ามีงานเลี้ยงปิดกล้องอีก พ่อจะเป็นคนไปรับแป้งเอง”
ปุณณัตถ์ ก็ยังคงเป็นปุณณัตถ์ผู้หวงแหนลูกสาวคนเดียวราวไข่ในหินอยู่ดี
“พ่อขา ไม่ต้องเป็นห่วงแป้งขนาดนั้นหรอกค่ะ พ่อก็รู้ว่าแป้งไม่เคยเมาขนาดนี้ บังเอิญว่าช่วงนี้แป้งไม่ค่อยได้พักผ่อน ร่างกายเลยไม่ค่อยแข็งแรง เลยเมาง่าย ป่วยง่าย แต่ต่อไปแป้งจะพักผ่อนให้มากกว่านี้ค่ะ แป้งสัญญา”
“พ่อให้แป้งเอาคนขับรถไปใช้ แป้งก็ไม่ยอม”
คุณพ่อคนหล่อขมวดคิ้ว ทำหน้ายุ่ง ราวกับเด็กหนุ่มแสนงอน เพราะเอาเข้าจริงๆ เขาเองก็ใจอ่อน ไม่สามารถขัดใจอะไรลูกสาวสุดที่รัก รวมถึงเมียรักได้เลยสักครั้ง
“ก็แป้งชอบไปไหนมาไหนเองนี่คะ มันสะดวก คล่องตัวพ่อก็รู้ นะคะ อย่ากังวลเลยนะคะ แป้งสัญญา โอเคไหม”
“หึ พ่อไม่เคยขัดใจแป้งได้เลย แป้งก็รู้ แต่เรื่องผู้ชาย พ่อไม่ยอมนะ ถ้ามีใครมาจีบ แป้งต้องเอามาให้พ่อรู้จักก่อนจะคบเป็นแฟน ถ้าไม่ผ่าน พ่อไม่ให้คบ แป้งห้ามขัดใจพ่อด้วย”
“ค่ะๆๆๆ แป้งยอมแล้วค่ะพ่อ อย่างอนนะ”
ปุณณดาจำต้องลุกขึ้นมากอดคอคุณพ่อรูปหล่อ แล้วหอมแก้มเนียนๆ นั้นฟอดใหญ่เพื่อเอาใจคนขี้งอน
“เอาๆ กินข้าวกันเถอะ แม่หิวแล้ว แป้งจะได้รีบขึ้นไปกินยานอนพัก พรุ่งนี้มีบวงสรวงละครเรื่องใหม่อีกแล้วไม่ใช่หรือลูก”
“ค่ะแม่”
เธอเดินกลับไปนั่งประจำที่ของตัวเอง พร้อมกับกินข้าวให้ดูเป็นปกติที่สุด แม้อาหารเลิศรสเหล่านั้นจะฝืดคอเต็มที เพราะพรุ่งนี้ละครเรื่องใหม่ที่กำลังจะบวงสรวง ดันมีเขาเป็นพระเอกคู่กับนางเอกน้องใหม่ที่ช่องต้องการให้เธอช่วยดัน
เธอยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเขาเลย แต่จะไม่ไปงานบวงสรวงยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ บ้าจริง ทำไมเรื่องยุ่งยากใจพวกนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับสาวมั่นอย่างเธอด้วยนะ เธอไม่เคยรู้สึกประหม่าและไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลย ให้ตายสิ