ร่างสูงเดินเข้าไปนั่งประจำที่คนขับบ้าง ขับรถมุ่งตรงสู่คอนโดของตัวเองทันที พยายามขับรถให้ตรงทางที่สุด แม้สติจะไม่เต็มร้อยเท่าไหร่ แต่พอมองคนที่นั่งหลับอยู่เบาะข้างๆ ทีไร ก็อยากจะพาเธอกลับไปแบบปลอดภัยที่สุด
“ควีน ถึงคอนโดแล้ว” ฝ่ามือใหญ่ตีเบาๆ ไปที่แก้มเธอเพื่อเรียกสติ เขาเรียกเธอมาสักพักแล้ว แต่เธอไม่ตื่นเลย จึงคิดหาวิธีใหม่ และวิธีเมื่อครู่ก็เห็นผลดีที่สุด
“อื้อ” ใบหน้าสวยขยับเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก มองคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ ด้วยสายตาหวานหยด ไอ้อาการวาบวาบเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน เธอรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เพื่อนบอกให้ลองเหล้าใหม่ของร้าน และดูเหมือนตอนนี้ไอ้อาการนั่นจะรุนแรงขึ้นกว่าทุกที
“เดินไหวไหมเนี้ย” ชาเบลถามคนที่หลับตาลงอีกครั้ง ไม่น่าถามเลยแฮะ อย่าว่าแต่เดินไหวเลย ลืมตาไหวรึเปล่าเถอะ
ยัยบ้าตื่นสิเห้ย นี่มันชั้นหนึ่ง ห้องเธอกับเขาอยู่ชั้นบนสุด คอนโดนี้มีเกือบ 20 ชั้น เขาไม่แบกเธอขึ้นลิฟต์หรอกนะ
“…..”
“ถ้าเบลอุ้ม เบลจะคิดกำไรให้หนักเลย” ร่างสูงพึมพำเสียงเบาให้คนที่หลับลงไปอีกครั้ง ร่างสูงเดินอ้อมรถไปอุ้มร่างของเธอ ขึ้นพาดบ่าด้วยความทุลักทุเล เพราะเขาก็เมาไม่ต่างจากเธอ ถึงจะมีสติขึ้นมา แต่มันไม่ปกติหรอก
ร่างสูงเดินโซเซ ซ้ายที ขวาที เพื่อพาร่างที่อยู่บนบ่าไปขึ้นลิฟต์ ไม่ต้องห่วงว่าจะมีนักข่าวมาแอบถ่ายสภาพเธอกับเขาตอนนี้ เพราะมันดึกมากแล้ว คอนโดที่เพื่อนเขาเป็นเจ้าของ มีการรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม คนนอกไม่มีทางเข้ามาได้ โดยเฉพาะพวกนักข่าวยิ่งไม่มีทาง เพราะอย่างนั้นคนในวงการหลายคนจึงเลือกมาซื้อคอนโดที่นี่
เพี๊ยะ! “อย่าดิ้น”
มือหนาตีลงไปแรงๆ ที่ก้นงามงอน คนที่พาดอยู่บนบ่าเขาเอาแต่ดิ้นไปมา มือเธอทุบลงที่หลังเขาอย่างแรงสองสามที ดีนะที่เลือกเอาหัวเธอไปไว้ด้านหลัง ถ้าเขาพาดหัวเธอมาด้านหน้า เธอได้ทุบท้องเขาไส้แตกแน่
เพี้ยะ ๆ
มือหนาตีลงไปอีกครั้ง และอีกครั้ง ทุกครั้งที่เธอยกมือทุบหลังเขา เขาก็เอาคืนเธอด้วยการฟาดมือลงไปที่ก้นเธอแรงๆ ก็แหงละตอนนี้เขาเมา เรื่องอะไรจะต้องคีปลุคให้มันดูดีอยู่ตลอด ก็เมื่อก่อนเขาเป็นคนดีแล้วเธอไม่เอา ก็ลองเป็นผู้ชายแบดๆ ดูหน่อยละกัน เผื่อจะถูกเธอเอาบ้าง
ร่างสูงเดินมาหยุดหน้าห้องของเธอ รู้สึกว่าตลอดทางที่เดินผ่านมาช่างยาวไกล ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ห้องเธออยู่ใกล้ลิฟต์กว่าห้องของเขา และมันก็ไม่เคยต้องเดินไกล และรู้สึกเหน็ดเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน
ชาเบลวางคนที่อยู่บนบ่าลงอย่างเบามือ ตั้งใจจะช่วยพยุงเธอให้ยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ก็พยุงให้นั่งสงบเสงี่ยมอยู่ที่พื้น มากกว่าปล่อยให้นอนกลิ้งที่พื้นคอนโด เพื่อรอเขาเปิดประตูห้องของเธอ
“เห้ย!” ยังไม่ทันได้ถามหาคีการ์ด จากคนที่ทรุดนั่งอยู่กับพื้น ชาเบลก็อุทานด้วยความตกใจ คนที่เขาวางลงที่พื้นเอาแต่ร้องไห้เงียบๆ เหมือนเด็ก
“ควีน เป็นอะไร” น้ำเสียงนุ่นทุ้มถามอยู่ใกล้ๆ ดวงตาสีฟ้าของเธอปล่อยหยดน้ำไหลริน หยดแล้วหยดเล่า
“ตีหนูทำไมคะ” น้ำเสียงใสๆ สั่นเครือ ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา จนคนที่ลงมือตีบั้นท้ายกลมกลึงของเธอ รู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ
“ก็ดื้ออะ” ฝ่ามือหนาเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าสวยแผ่วเบา เพราะเธอไม่อยู่เฉยๆ นั่นแหละ เขาถึงต้องตี
“ฮึก หนูดื้อเหรอคะ” ชาเบลมองเด็กน้อยตรงหน้าอย่างอ่อนใจ ปกติคณิตาคนนี้ เอาแต่ตีหน้านิ่งใส่เขา ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะพูดกับเขาดีๆ แล้วครั้งนี้มันเกิดอะไรขึ้น เพราะเมางั้นหรือ
“อืม” มือแกร่งเอื้อมลงไปหยิบกระเป๋าของเธอ ที่หยิบติดมือมาพร้อมกันกับเธอ ค้นหาคีการ์ดเพื่อเปิดประตูห้อง เขาอยากนอนแล้ว ง่วง
“เพราะหนูดื้อเหรอ ทุกคนถึงทิ้งหนูไป ปล่อยให้หนูอยู่บนโลกนี้เพียงลำพัง ใจร้ายที่สุด” ร่างบางที่นั่งอยู่กับพื้นยังไม่หยุดเพ้อ จนคนที่กำลังจะอุ้มเธอเข้าห้องต้องหยุดชะงัก
เขาไม่ค่อยรู้เรื่องของเธอเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเธอย้ายมาอยู่ห้องข้างๆ เมื่อหลายเดือนก่อน เขาถูกใจหน้าตาเธอตั้งแต่แรกเห็น และพอจะเห็นหน้าคร่าตาเธอตามนิตยสารอยู่บ้าง แต่ตัวจริงเธอเด็ดกว่า เขาจึงตามจีบเธอตั้งแต่เธอย้ายมาแรกๆ
แต่เพราะกำแพงเธอหนาเตอะ แถมยังเต็มไปด้วยน้ำแข็งเย็นเฉียบ เขาพยายามอย่างหนักเพื่อละลายและพังกำแพง แต่เธอปฎิเสธชัดเจน ว่าไม่ชอบผู้ชายแบบเขา เขาถึงล้มเลิกทุกอย่างและกลับไปใช้ชีวิตปกติ นั่นคือสิ่งที่เขารู้ คือเขาแทบจะไม่รู้จักเธอเลย รู้เพียงแค่ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงน้ำแข็งแห่งวงการนางแบบแค่นั้น
“เลิกงอแงซะที เดี๋ยวห้องข้างๆ ก็มาด่าหรอก” ชาเบลก้มลงไปดุใกล้ๆ แต่เหมือนจะไม่ได้ผล เมื่อคนสวยตรงหน้า ร้องหนักกว่าเดิมอีก
“ฮึก หนูขอโทษ” ใบหน้าสวยมองอย่างรู้สึกผิด ความทรงจำในอดีตเล่นงานเธอทุกครั้งที่กระพริบตา และคนตรงหน้าช่างเหมือนคนที่ทิ้งเธอไว้ลำพังเหลือเกิน
“อย่าทิ้งหนูไปเลยนะ หนูยอมแล้ว ยอมทุกอย่าง” มือเรียวดึงร่างคนที่อยู่ในความทรงจำเข้ามาใกล้ ส่งสายตาอ้อนวอนให้คนตรงหน้า ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินเพื่อขอให้เขาเห็นใจ เขาจะได้เลิกทิ้งเธอไปซะที หรือไม่ก็สงสารเธอสักนิด แล้วพาเธอไปอยู่ด้วยก็ได้
“ยอมทุกอย่างจริงๆ ใช่ไหม” ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาใกล้ ร่างกายของเขาร้อนรุมดั่งไฟ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่กินเหล้าอยู่กับเพื่อนเขาแล้ว แต่เขาพยายามอดทนไว้จนถึงที่สุด แต่เหมือนตอนนี้ความอดทนเขามันถูกลดทอนลงช้าๆ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้
“ค่ะ หนูจะยอมทุกอย่าง”
“งั้นจูบสิ แล้วจะไม่ไปไหน” ชาเบลรีบพูดเมื่อเธอตอบรับอย่างหนักแน่น
ริมฝีปากเล็กๆ ประทับลงข้างแก้ม อย่างที่เคยทำกับคนในความทรงจำ จูบลงอีกครั้งเมื่อคนตรงหน้าดูจะเอ๋อๆ กับจูบของเธอ