EP.9 : แพ้แฟนเก่า

3541 คำ
“นี่แบบนี้สวยไหม” “ไม่” คนที่ไม่แม้แต่จะลืมตา ฉันส่งภาพชุดสเก็ตเป็นชุดที่ 28 แล้วมั้ง เขาก็บอกว่ามันไม่สวยสักชุด เริ่มชักจะหมดกำลังใจวาดแล้ว เขาไม่สนใจจะดูด้วยซ่ำ ไม่ตั้งใจเลย เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ เลย “นายไม่ตั้งใจอ่า ถ้าฉันทำได้ ฉันจะได้เงินค่าแบบ 5,000 บาทเลยนะ ฉันจะต้องคิดให้ออกนายเข้าใจไหม” ยิ่งเวลาที่พวกทวงหนี้โหดมันใกล้เข้ามา ฉันก็ยิ่งต้องรีบ ประโยคของฉันทำให้คนที่หลับลืมตาขึ้นมามองฉัน แล้วกดหัวฉันลง “จะวาดรูปอีกนานไหม นี่ตี 3 แล้ว” “ไม่เอาฉันจะไปนอนห้องนู้น จะให้มานอนกับนายได้ยังไง!!!! ฉันเป็นผู้หญิงนะ” นายจะให้ผู้หญิงมานอนด้วยมั่วซั่วไม่ได้นะ แล้วอีกอย่างงานฉันยังไม่เสร็จเลย จะให้นอนอะไร ฉันเอาเท้ายันตนที่อยากนอนอะไรนักหนาให้ออกไปไกล ๆ ฉันกลับเข้ามาสู้หมวดทำงานอีกครั้ง ฉันคิดถึงชุดที่ถ้าฉันเป็นเพื่อนเจ้าสาวจะใส่แล้วสวย แต่ฉันจะใส่ได้สวยก็ต้องเป็นชุดที่เป็นแนวทางการหน่อย โอ้ยยยย ทำไมมันคิดยังไงก็คิดไม่ออกเลยนะ “ไหน ติดอะไรตรงไหน บอกมา” คนที่หงุดหงิดที่ฉันไม่ยอมนอนสปริงตัวลุกขึ้นมานั่ง โกนหนวดโกนเคราแล้วก็หล่อดี ต่อไปอย่าปล่อยตัวเองเป็นโยคีอีกล่ะ ฉันส่งสมุดสเก็ตให้เข้าดู แต่จะกี่ชุด เขาก็บอกว่ามันไม่ผ่าน นายไม่ใส่ใจชุดด้วยแค่เปิดผ่าน ๆ ไม่คุยกับแม่งละ “ไม่ใส่ใจเลย เก็บไปถามพี่สองก็ได้” เพียงแค่สิ้นเสียง นิ้วเรียว ๆ ก็ดีดเข้าที่หูของฉันเลย กรี๊ดดดดด เจ็บ!!!! “ไม่ผ่าน ก็คือไม่ผ่าน อย่ามาตีโพยตีพาย ใครจะใส่ชุดแบบนี้ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว นี่…ดู!!! นี่คือชุดเจ้าสาวที่เป็นเมนนนนน แต่ชุดที่เธอวาด อีกนิดนึงก็ชุดเจ้าสาวแล้ว “ก็ใช่ไง แม่งยากนะเว้ย นายไม่ได้จบแฟชั่นมา มันจะต้องเป็นอะไรที่เข้าธีมกัน ฉันยกตรงนี้ให้มันเป็นชุดไทยที่เข้าแบบกับเจ้าสาว” ฉันเถียง แต่คนที่ฟังทำท่าจะดีดหูฉันอีกครั้ง “ตัดชุดเพื่อนเจ้าสาว ไม่จำเป็นต้องเหมือนชุดเจ้าสาว เพื่อนเจ้าสาวเด่นกว่าเจ้าสาว ได้เหรอ!!!! แล้วไอ้ชุดแต่งงานนี่มันยังไง เจ้าสาวใส่ลูกไม้ขนาดนี้ ได้โจทย์เป็นคอบัว แทนที่จะมาวาดมั่วซั่วลากไปเรื่อย ไปตามหามา ว่าคอนเซ็ปท์งานคืออะไร แล้วค่อยขึ้นชิ้นงาน ฉันเนี่ยไม่ได้จบแฟชั่นมา จบบริหารก็ตอบได้เว้ย เจ้าสาวใส่ลูกไม้ เพื่อนเจ้าสาวต้องลูกไม้รึไง เข้าใจคำว่าลำดับความสำคัญไหม เจ้าสาวลูกไม้ ออกแนวย้อนยุครัชกาลที่ 5 ขนาดนี้ ได้โจทย์มาก็รู้แล้วสิ ว่าแฟนซี วาดชุดคนใช้ลงไปยังได้เลย” โหยยยยย เป็นชุดเลย มันก็จริงอย่างที่ว่า ฉันเลยลองร่างชุดเป็นเส้นดินสอแบบที่ไม่ตัดเส้น โดยมีคนที่ทำคิ้วขมวดดูอยู่ตลอดเวลา “แบบนี้ดีไหม” “ตั้งใจทำงานมันดี แต่หักโหมไม่ดี” “นายไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันโอเค วันนี้กินกาแฟมาแล้ว” “ใช่ที่ไหนห่วงตัวฉันเองเนี่ย ตี 3 แล้ว แมวแถวนี้ยังไม่ให้นอนเลย จะทำถึงกี่โมง พรุ่งนี้ป่วยไป 5,000 บาท เนี่ยคุ้มไหม แล้วไอ้ 5,000 บาทเนี่ยไม่ใช่แค่ออกแบบใช่ไหม” “ใช่ ออกแบบ จนกว่าลูกค้าจะพอใจ ขึ้นแพทเทิร์น ตัดเย็บชุดตัวอย่าง แก้จนกว่าลูกค้าจะพอใจ ตัดเย็บชุดทั้งหมด ถึงจะได้ 5,000 บาทนี้ แต่มันก็โอเคสำหรับมือใหม่อย่างฉันที่จะได้ขึ้นงานชุดแรกนะยีน ไม่สิตอนนี้ต้องเรียกว่าพูสินะ” “คนอื่นเรียกก็เฉย ๆ เธอเรียกแล้วมันจั๊กจี้ดีจัง” “ไหน เรียกใหม่” “พู” “อีกทีซิ” “ไอ้พู” “โหยขึ้นไอ้เลยเหรอ ตายซะ” มือหันหัวฉันให้นอนอีกแล้ว จะให้นอนอะไรนักหนา จะไปนอนห้องนู้น ไม่ทันที่ฉันจะได้ด่าอะไร คนตัวใหญ่ก็ทิ้งตัวลงมานอนข้าง “นี่ ทำไมถึงกลับมาอ่า นายหายไปสองอาทิตย์แล้ว นึกว่าจะไม่กลับมาแล้ว เอ่อออ ไม่ได้คิดถึงนายนะ ฉันแค่อยากรู้อะ” ทำไมต้องพูดตะกุกตะกักด้วยนะ แค่ถามเฉย ๆ เอง “เพราะที่โรงพยาบาลจิตเวช มันทำให้ฉันเหมือนจะเป็นบ้าไง ก็เลยกลับมา” คำตอบที่ตอบส่ง ๆ มันไม่ใช่เหตุผลสักนิด อยู่ที่นี่มีตุ๊กแก นายไม่บ้ากว่าเหรอ ไม่มีเหตุผลอื่นเหรอ “แค่นี้เองเหรอ” “แล้วนี่ทำไมไม่หลับสักที ฉันอยากจะนอนแล้ว ฉันเจอหมอทรมานมาทั้งวันแล้ว เธอก็ควรจะนอน ไม่ง่วงรึไง จะทำงานจนตายรึไง” “ถ้าหลับแล้วนายหายไปอีกล่ะ!!!” “กลัวฉันหายไปเหรอ” ดวงตาตี่ลืมพรึบขึ้นมองฉัน “ไม่ใช่นะ ฉันแค่ เอ่ออออ แค่ คิดว่าจะต้องงงงง เอ่ออออ ซื้อไข่เผื่อนายรึเปล่า นายกินเปลืองอะ” ฉันพยายามจะลุกขึ้นจากเตียง เพราะใจเจ้ากรรมอยู่ดี ๆ มันก็ดันเต้นผิดจังหวะเอาดื้อ ๆ แต่กลัวโดนมือใหญ่กดหัวให้นอนอีกแล้ว จะให้นอนอะไร ก็บอกว่าจะไปนอนห้องนู้น “จะไปไหนอีก” “ไปนอนห้องนู้นไง ไปแล้ว!!!” แต่พอฉันจะลุกมือใหญ่ก็กดหัวให้นอนลงที่เดิม ไอ้นี่ “นอนนี่” “จะไปนอนกับหลานแล้ว พู!!!!!!” ขาใหญ่หนัก ๆ เกี่ยวทับฉันเอาไว้ไม่ให้ฉันไป ไอ้นี่มันมากไปแล้ว ฉันหันหลังให้คนที่มันงี่เง่า บอกให้นอนแต่ก็ไม่ยอมปล่อยฉันไป “ปล่อยไป ก็ไปนั่งทำงานห้องนู้นอีก นอนมันที่นี่แหละ รบกวนหลานจะนอน อยู่รบกวนฉันที่นี่” “นี่ฉันยังเป็นเจ้าของบ้านอยู่ไหม” แล้วคนหน้ามึนก็กอดฉันแล้วหลับเฉยเลย ท่าจะเพลียจริงแฮะ พอได้ยินเสียงหายใจหนัก ๆ ฉันเลยพลิกตัวหันมามองคนที่หลับ ฉันไม่นึกเลยว่านายจะกลับมา ไม่ว่านายจะเป็นขับรถ คนไร้บ้าน คนบ้า บ้านฉันก็ยินดีจะต้อนรับนายเสมอ “ฉันอยากจะพูดว่า ขอบคุณ ถ้าฉันรวยเมื่อไหร่ เงินที่ยืมนายมา ฉันจะคืนให้หมด ฉันกล้าพูดกับนาย แค่ตอนที่นายหลับนั่นแหละ พอนายตื่นมา ความกล้ามันก็ไม่มีแล้ว ขอโทษที่คิดว่านายขโมยเงินไป ขอโทษที่ไม่ได้ตามหานาย” ฉันนาบมือลงบนหน้าของคนที่หลับ “ฉันเองก็ควรจะไปนอนบ้างแล้ว” ฉันพยายามจะยกขาหนัก ๆ ของพูออก แต่พอมันพ้นจากตัว แขนใหญ่ก็ตรงเข้ามารวบตัวฉันเอาไว้ทันที “นอนนี่แหละ จะไปกวนหลานทำไม สัญญาไม่ทำอะไรหรอก” คนที่กอดฉันจากทางด้านหลังพูดขึ้น ล “ทำไมฉันต้องนอนกับนายด้วย!!!” “เดี๋ยวเธอไปแอบคุยโทรศัพท์กับใคร” “ตี 3 เนี่ยนะ จะให้ฉันไปคุยกับผีที่ไหน!!!!!!!!” วันต่อมา “ในที่สุดก็เข้าใจแล้วสินะ เธอจะมาวาดชุดแต่งงานแข่งกับฉันไม่ได้ ฉันให้เธอออกแบบชุดเพื่อนเจ้าสาวนะยะ ถ้าแค่นี้ยังไม่เข้าใจ ก็ทำงานร่วมกันไม่ได้ ฉันจะส่งแบบไป ถ้าลูกค้าชอบ ชุดถึงจะได้เริ่มตัด” สายตาที่งานของฉันอย่างพิจารณา มันทำให้ฉันดีใจจนบอกไม่ถูก เพราะครั้งนี้ฉันไม่ได้ถูกไล่ออกมาทุกที “คุณศศิคะ เอ่อคือว่า เงินเดือนที่ขอเบิก รบกวนช่วยพิจารณาด้วยนะ พอดีฉันมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงินค่ะ” ฉันขอออกไปแบบหน้าด้าน ๆ ก็ฉันไม่รู้จะต้องทำยังไง ฉันไม่มีที่พึ่งที่ไหนแล้ว ฉันแค่เอาเงินในอนาคตมาใช้ คุณศศิคงไม่ใจร้าย “จะลองเอาไปคิดดู ออกไปได้แล้วปะ” คุณศศิไล่ฉันออกจากห้องทำงาน แต่ในระหว่างที่จะเดินออก กลับเห็นแบบชุดแต่งงานแบบไทยประยุกต์ที่ละม้ายคล้ายคลึงกับที่ฉันวาดส่งแบบ ให้คุณศศิเมื่อวานก่อน ไม่หรอก แกอ่าคิดมาก ทำไมคุณศศิจะต้องมาก๊อปงานฉันด้วย เขาเก่งจะตาย ฉันเดินออกมาจากห้องทำงานของคุณศศิ แต่ตาก็ยังหยุดมางานของเธอไม่ได้ มันช่างเหมือนของฉันจังเลย พูม่า Say :: ผมอาศัยช่วงที่ลินินไปทำงาน และเด็ก ๆ ไปเรียน ไปตามที่เกิดเหตุอีกครั้ง อากาศในยามเย็นไม่ร้อน แต่ที่ร้อนคือความร้อนจากท่อไอเสียของรถที่ติดในยามเย็น ผมขับรถมอเตอร์ไซค์ย้อนตามทางเรียบทางด่วน ที่ตอนนี้มีรถวิ่งเนืองแน่นจนไม่ขยับ แต่สิ่งที่แปลกกว่าทุกวัน คือวันนี้มีคนมากมายมาด้อม ๆ มอง ๆ แถวเรียบทางด่วน เป็นชายฉกรรจ์ท่าทางแปลก ๆ ที่ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่ พวกนั้นมันมาดักรอผมกลับมาที่เกิดเหตุรึเปล่า หรือผมจะคิดมากไป ผมรีบขับรถเข้าซอยทันที “พวกมันเป็นพวกไหน ถ้้าเป็นพวกที่ทำให้ผมเกิดอุบัติเหตุ มันอยู่ใกล้แบบนี้ ไม่ดีแน่” ผมขับรถกลับไปอีกเส้นทางเพื่อรับลินินทันที วันนี้คงไม่ได้อะไรจากการสำรวจที่เกิดเหตุแล้วล่ะ ถ้าดึงดันต่อ มันอาจจะไม่ส่งผลดีต่อตัวผมเอง ผมต้องระวังตัวกว่านี้แล้วสิ ผมขับรถตรงดิ่งไปรับนินที่รัานทันที แต่พอมาถึงกลับเจอไอ้พี่สองนั่งมองเธอทำงานจากอีกฝั่งของโต๊ะ ไอ้นี่มันว่างไปเปล่าวะ มานั่งมองอะไรนักหนา บ้าบอ แล้วนินไปนั่งให้มันมองทำไม!!!! ผมรีบจอดรถแล้วเดินเข้าไปในร้านทันที วันนี้ผมไม่ได้แต่งตัวเสื้อยืดกางเกงเจเจ คีบหูหนีบอีกแล้วนะบอกให้ “ตอนนี้ร้านปิดแล้วค่ะ มาใหม่พรุ่งนี้นะคะ” “มารับแฟน พรุ่งนี้ได้ยังไง จะรับแฟนกลับไปวันนี้” ประโยคของผมทำให้นินเงยหน้าจากงานขึ้นมามองหน้าผม ผมเลยยักคิ้วให้เธอน้อย ๆ “น้องนั่งรอก่อนได้เลยนะ นินเขาทำงานจะเสร็จแล้ว นินกลับกับแฟนได้เลยนะพี่ปิดร้านให้” คนที่พูดไม่พูดเปล่า กลับแตะไหล่ของยัยนี่อย่างสนิทสนม “พี่สองกลับได้เลยนะคะ นิน ปิดร้านเอง ไม่ดึกแน่นอนค่ะ” “อย่าลืมเอาขนมของพี่ไปให้เด็ก ๆ ด้วยล่ะ เด็ก ๆ ต้องชอบแน่ มีแต่ที่นินชอบ” ประโยคชวนคลื่นไส้ของไอ้พี่สอง มันกำลังเพิ่มพูนความหงุดหงิดในใจของผม ให้มากขึ้น “ร้านเดิมไหม หรือร้านใหม่คะ ชอบที่สุดเลย ขนมเบื้องเนี่ย” ความกระหนุงกระหนิงของลินินกับพี่สอง มันทำให้ผมหงุดหงิดขั้นสุดจนเผลอกวาดขนมของมันลงถัง หึ….ไม่เผลออะตั้งใจ “พู!!!! นี่มันขนมของฉัน ทำไมนายเป็นคนแบบนี้ พี่สองเขาซื้อให้ฉันกับเด็ก ๆ” “แค่นี้ซื้อใหม่ก็ได้มะ!!!” ทำไมเธอต้องมาหงุดหงิดผม เพราะไอ้แฟนเก่านี่ด้วย “ไหนเงิน!!!!” “อะไรที่ให้ไป มันไม่พอเหรอ!!!!!” ผมให้เธอไปตั้งเท่าไหร่แล้ว ทำไมมันไม่เคยพอเลย!!! ผมมองเธอเพื่อคาดคั้นคำตอบ เพราะก่อนจะไป ผมเองก็ทิ้งของไว้ให้เธอขาย ให้เธอเอาเงินมันไปซื้อของดี ๆ กินบ้าง ทำไมมันยังต้องมาให้ไอ้แฟนเก่านี่ซื้อขนมให้กินอีก “อ่าวคุณไม่รู้เหรอ ว่าพี่ชายนินเป็นหนี้ 2 ล้าน พวกมันมาตามเอาที่นิน อีก 2 วันพวกมันก็จะมาเก็บดอกแล้ว” สิ่งที่ไอ้พี่สองอะไรนี่มันรู้ ทำไมผมไม่รู้ ผมอยู่บ้านเดียวกับเธอแท้ ๆ “ทำไมไม่รู้จักบอก!!!!” “นายให้ฉันมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ใครจะไปกล้าบอก แล้วนายมาโมโหอะไร!!!” “เมื่อคืนเธอถามว่าฉันกลับมาทำไม ฉันกลับมา เพราะฉันเห็นว่าเธอสำคัญ แต่วันนี้ฉันเข้าใจแล้ว ว่าฉันมันไม่ได้สำคัญสำหรับเธอเลย” ผมส่งกุญแจรถคืนให้เธอ ตอนนี้จะสู้แฟนเก่าเธอยังไม่ได้เลย ผมอยู่ข้างเธอแค่นี้ แต่เธอกลับเล่าให้แฟนเก่าฟัง แต่ไม่เล่าให้ผมฟัง พอดีกว่า อยู่ตรงนี้มันก็หงุดหงิด “นิน ไหวไหม” เสียงไอ้แฟนเก่าที่มันกำลังโอ๋ยัยงี่เง่าที่ผมลืมเอาไว้ มันทำให้ผมต้องไปเก็บของของผมคืน ไหวเหี้ยอะไรเล่า บทคนดีมันหนังซ้ำ กูเล่นไปแล้ว “กลับมาทำไม” เสียงสั่นเครือของคนที่เหมือนจะร้องไห้ มันทำให้ผมต้องตอบคำถามของเธอ “ลืมของได้มะ!!” ผมเดินไปลากแขนยัยตัวดี ให้ออกจากร้านของเธอมาเลย ไปอยู่กับมันสองต่อสองได้ไง ผมดึงกุญแจรถออกจากมือเล็ก ๆ ของคนที่ผมเพิ่งจะคืนมันไปนั่นแหละ ทำไมเธอมันน่าหงุดหงิดแบบลินิน ฉันจะทำยังไงดี แล้วผมกำลังหงุดหงิดอะไรนักหนาเนี่ย ขนาดจะเสียบกุญแจยังเสียบไม่ตรงรูเลย มือเล็ก ๆ จับมือที่โกรธจนสั่นของผมให้เสียบกุญแจ “โกรธ!!!” “โกรธอะไร!!!! ฉันสิต้องโกรธ ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยนะทั้งวัน แต่นายมาทิ้งอาหารของฉันหมดเลย ฉันหิวมากเลยนะ” “กลับไปกินไข่เลยไป!!!!!!” อุตส่าห์ทิ้งเข็มขัดเอาไว้ อยากให้กินอะไรดี ๆ จะได้ไม่ต้องงกมากนัก ดันเอาเงินไปใช้หนี้ จนไม่มีเงินกินข้าว นี่โง่หรือโง่ ผมขับรถออกจากร้านของเธอ โดยมีเธอซ้อนท้ายเงียบ ๆ ผมเองก็ไม่มีอะไรจะคุยกับเธอทั้งนั้น หงุดหงิด!!!! ผมบิดใส่ทุกหลุมเพื่อแกล้งเธอ เพราะผมรู้ว่าเธอหวงรถมาก จะชอบพูดว่า ขับดี ๆ เดี๋ยวล้อดุ้ง ผมเลยใส่หลุมแบบเต็ม Max ไม่มีเบรคเลย แต่วันนี้เธอกลับไม่มีเสียงด่า มีเพียงแขนเล็ก ๆ ที่โอบเอวผมเอาไว้ ไม่ต้องมากอดเลย!!! “วันนี้แต่งตัวหล่อเนอะ ฉีดน้ำหอมด้วย แต่งตัวเพื่อมารับฉันเลยเหรอ แล้วทำไมวันนี้เปลี่ยนทางกลับบ้านล่ะ” คนที่พูดไม่พูดเปล่า เธอทำจมูกฟุดฟิดที่ด้านหลังคอของผมจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ มันทำเอาผมขนลุกไปตัวเลย อู้ววววว ตรงนี้อาจจะมีพลังงานบางอย่างก็เป็นได้ “ฉันก็หล่อเป็นปกติ” เธอชมผมว่าหล่องั้นเหรอ บ้า!!!! ผมก็หล่อเหมือนทุกวันนะ หรือวันนี้เป็นพิเศษ ไม่ใช่หรอกผมตื่นมาก็หล่อแบบนี้เลย ไม่ได้แต่งอะไรเยอะเลยนะ “ขี้โม้เก่ง มีเรื่องไหนไม่โม้บ้าง นี่พู ฉันไม่ได้กลับไปชอบพี่สองนะ ฉันแค่หลอกกินของฟรีอะ ” เธอนี่ยังไงชมผมไม่ทันไรก็ด่าผมซะแล้ว แต่ช่างเถอะ เธอได้พูดสิ่งที่ผมอยากได้ยินแล้ว กะว่าจะหายโกรธไม่หายแล่ว จะกอดเขาแล้ว ก็กอดเขาต้องกอดแน่น ๆ ดิ กอดหลวมแบบนี้ได้เหรอนมยังไม่ชนหลังเลย ผมแกล้งขับรถปาดไปมาเหมือนรีบไปตามควายที่หาย จนคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถออกถนนใหญ่อย่างลินินต้องกอดผมเอาไว้แน่น แค่นี้แหละ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว “พู ขับดี ๆ พูขับดี ๆ สิ ไอ้พู!!!!!” เฮ้ออออ สบายใจ ผมขับไปตามถนนใหญ่เส้นพระรามสอง ที่แน่นขนัดไปด้วยรถมากมาย แม้รู้ว่าทางมันอ้อมแต่ถ้าขับไปทางเดิม อาจจะไม่ปลอดภัย “นี่ นิน เปิดบัญชีให้ฉันหน่อยดิ ใช้ชื่อเธอเปิด ฉันอยากมีบัญชีอะ เผื่อฉันจะหางานทำ” ผมหันมาคุยกับคนที่ซ้อนท้าย ในตอนที่กำลังติดไฟแดง ผมจะหางานทำในแบบของผม ผมไม่สามารถใช้ชีวิตแบบไม่มีเงินได้ตลอดไปหรอกนะ “ทำไมไม่ใช้ชื่อตัวเองเล่า มาใช้ชื่อฉันทำไม ไม่เห็นจะเข้าใจเลย” ถามเก่งจังเลย ให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะหน่า “เปิดเบอร์โทรศัพท์ให้ด้วย” “จะเปิดเบอร์ก็ต้องมีโทรศัพท์นะ ตอนนี้ฉันยังไม่มีตังซื้อให้นาย สิ้นเดือนได้ไหม” ยัยนี่น่าจะไม่เข้าใจว่าผมจะเอาตอนนี้ ผมขับรถพาเธอเข้าห้างที่ใกล้ที่สุด เพราะในห้าง ธนาคารจะเปิดถึง 19:30 น. ซึ่งตอนนี้มัน 19:00 น. เยี่ยมจริง ๆ เราเริ่มจากการเปิดเบอร์ก่อน แน่นอนว่าถ้าเปิดเบอร์แบบรายเดือนมันจะนาน ไม่ทันธนาคารแน่ ๆ ผมเลยเลือกที่จะเอาซิมแบบเติมเงินนั่นแหละ แต่จะซื้อซิมมาได้มันต้องมีบัตรประชาชน ซึ่งผมไม่มี เปิดบัญชีก็ต้องบัตรประชาชนเช่นกัน มันเลยต้องเป็นลินินที่ทำให้ เมื่อได้ซิมมาแล้วผมก็ขอให้ที่ทางเครือข่ายใส่ให้เลย พร้อมกับเติมเงินด้วย “โห ไอโฟน11 Pro Max เลยเหรอ!!! ไปเอามาจากไหนอะ” “เจ้านายให้มาอะ” “เจ้านาย ใจดีจังเลย ต่อไปนายก็ไลน์คุยกับฉันได้แล้วใช่ไหม” คนที่สนอกสนใจโทรศัพท์ของคนอื่น จนลืมไปรึเปล่า ผมจะเปิดบัญชี ผมดันเธอให้เข้าธนาคารชื่อดังที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก ดีที่มันเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็ก ๆ ศูนย์เครือข่ายโทรศัพท์กับธนาคารมันเลยอยู่ไม่ห่างกันมาก ผมเป็นคิวสุดท้ายพอดี ผมใช้เวลาที่ลินินไปเปิดบัญชีตั้งค่าโทรศัพท์ พร้อมใส่รหัสอย่างดี วันเกิดจำไม่ได้วันสำคัญจะไม่ได้ การตั้งรหัสของผมเลยใช้ความพอใจล้วน ๆ ผมไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ แต่ลินินทำได้ ผมจะใช้ชื่อของเธอในการทำทุกอย่าง ซื้อของ ทำงาน และรับเงินต่าง ๆ “นาย เปิดบัญชีแล้วนะ อย่าเอาชื่อฉันไปทำอะไรแปลก ๆ” ดวงตากลมโตหรี่ลงเหมือนจะคาดคั้นคำตอบ “ลินิน เธอไว้ใจฉันไหม” ผมจ้องตาเธอกลับ ด้วยตาที่มุ่งมั่น มือใหญ่ทั้งสองข้างจับลงที่ไหล่ของเธอ เพื่อให้เธอมองมาที่ตาของผม “ไม่ กดเงินในบัญชีมาคืนฉันด้วย เปิดบัญชีมัน 500 บาท บัตรอีก 150 บาท นายต้องคืนฉันด้วย” อะไร!!! ไม่มีความมั่นใจให้กันเลย แถมทวงเงินด้วย “ในตัวมีเงินเหลือเท่าไหร่” ผมถามถึงเงิน คนที่ถูกถามก็มีอาการลุกลี้ลุกลน ทำไมมีเยอะเหรอ “เบิกเงินล่วงหน้ามาจ่ายให้พวกเจ้าหนี้ 10,000 บาทอ่า อย่าพูดดัง เดี๋ยวโดนกระชากกระเป๋า” คนที่พูดเอามือป้องปาก อย่างกับว่ามันเป็นเงินล้าน โอ้ยยยยย คนจะกระชากกระเป๋า เพราะเข้าใจผิดจากการกระทำของเธอเนี่ยแหละ “ใส่บัญชีของฉันมาให้หมดเลย ฉันจะทำให้มันเป็น 2 หมื่น ภายใน 3 วัน” “นายหายงอนแล้วเหรอ” “เออ ลืม งอนอยู่ ง้อต่อไปเลย!!!” อีกด้าน “คุณอินครับ!!!! เจอแล้วครับ มีคนเห็นอยู่ที่ห้าง Big D แถวพระราม 2 ครับ ให้บอกท่านประธานไหมครับ” เสียงจากลูกน้องที่รีบวิ่งมาบอกข่าวดี ว่าเจอตัวภูวดลแล้ว “มึงโง่ปะเนี่ย สั่งคนไปเก็บมัน อย่าให้คนของท่านประธานเจอก่อนเรา ไม่งั้นเราจบเห่แน่” “เอ่อออ คือ พวกนั้นหายไปแล้วครับ คือรถมันติดมากเลยครับถนนเส้นนั้น พวกนั้นขับมอเตอร์ไซค์ เราตามต่อไม่ได้ ตอนนี้หายไปอีกแล้ว” คำตอบจากคนเป็นลูกน้อง ทำให้อินทราเส้นเลือดในสมองกระตุก “โอ้ยยยย ไอ้พวกโง่!!!!” อินทราระบายโทสะใส่ลูกน้อยด้วยฝ่ามือหลายที ที่ปล่อยให้คนที่ตัวตามมาแรมเดือนหายไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง “แต่พวกเราจำทะเบียนรถที่คุณภูวดลเธอขับได้นะครับ เอาไปเช็คก็รู้แล้ว ว่าใครซื้อไป” “งั้นมึงช่วยกรุณา!!!! รีบไปจัดการเลย!!!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม