ด้านคนที่ยังจำอะไรไม่ค่อยได้
หลังจากที่ผมแพ้มาม่าต้มยำกุ้งหน้าบวมอยู่หลายวัน ในที่สุดผมก็กลับมาหล่อเหมือนเดิม ความจำเรื่องรอบ ๆ ตัวของผม มันดีขึ้น ผมเรียนรู้ว่าผมขับรถมอเตอร์ไซค์เก่งมาก ไม่กลัวความเร็ว ผมเรียนรู้สิ่งรอบตัวได้ไว เช่น…วันนี้เป็นวันสิ้นเดือน ลินินมีความสุขมากเพราะเงินเดือนออก ชีฟองใกล้สอบขอเงินไปทำรายงานบ่อย ๆ คอตตอนเริ่มเหงา เพราะพี่สาวไม่ค่อยอยู่บ้าน
“พี่หน้าไม่บวมแล้ว พี่ ทำไมทุกคนถึงทิ้งต้อนไปหมด” เด็กชายวัย 6 ขวบ ถามผมขึ้นมาอย่างไร้เดียงสา
“ต้อนครับ ทุกคนไม่ได้ทิ้งครับ แต่ทุกคนแค่มีภาระและหน้าที่ของตัวเอง ที่ต้อนคิดว่าทิ้ง ต้อนอาจจะแค่เหงา ถ้ามีรถ พี่พาไปขับรถเล่นแล้ว แต่วันนี้อานินเอารถไปทำงาน โอกาสหน้านะครับ พี่สัญญาจะพาต้อนไปขับรถบึ้น ๆ” เพราะผมป่วยเลยไม่ได้ไปรับส่งเธอ เฮ้อออออ หวังว่าวันนี้จะไม่เป็นไรนะ
“จริงนะ ดีใจจังเลย พี่ชีฟองมีแฟน ต้อนเหงา”
“อ๊ะ!!! มีแฟนอย่างงั้นเหรอ แล้วคอตตอนรู้จักคำนี้ด้วยเหรอ”
“รู้จักนะ แฟนที่เขาจุ๊บ ๆ แลกขนมกันใช่ไหมล่า ไม่พูดแล้ว พี่ชีฟองไม่ให้บอกใคร พี่ยีนอย่าบอกใครนะ” คอตตอนเอามือปิดปากเอาไว้แน่น
“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ สัญญาลูกผู้ชาย พี่จะไม่บอกใคร” เรื่องนี้อาของเธอรู้รึยัง การที่ทำงานมาก ๆ จนไม่มีเวลาให้ครอบครัว มันเป็นปัญหานะ อ๊ะ!!!!! ทำไม ความรู้สึกนี้เหมือนฉันก็เคยเจอมา พ่อแม่ทำแต่งานงั้นเหรอ หรือฉันเองก็เป็นเด็กมีปัญหา
“สัญญานะ”
ผมเกี่ยวก้อยสัญญากับเด็กน้อย แม้จะรู้ว่ามันไม่จริง คำว่าอย่าบอกใครนะไม่เคยมีจริง แต่ผมดันพูดว่าสัญญาไปแล้ว คำสัญญาเด็กน้อยผมก็ต้องรักษา
“ว่าแต่แฟนพี่ชีฟอง เป็นคนดีไหม”
“ชอบให้พี่ชีฟองซื้อขนมให้กิน พี่ชีฟองไม่ซื้อขนมให้ต้อน แต่ชื้อขนมให้แฟน ต้อนไม่รัก” เด็กน้อยกอดอกแล้วทำหน้าโกรธ
หนอยยยยแน่ มาทำแก้มป่องน่าหยิกนัก ผมเองหายจากการคันแล้ว หน้าก็หายบวมแล้ว ต้องสานต่อสิ่งที่อยากรู้ จากที่อยู่ที่นี่มาเกือบเดือน ผมอยู่ที่ถนนพระรามสอง เป็นชุมชนแออัดในย่านชานเมือง ร้านที่ลินินทำงานไม่ได้ไกลมากก็จริง แล้วก็มีเลียบทางด่วนที่ผมถูกชนเป็นทางลัด
“คอตตอนเรามาวาดรูปเล่นกันเถอะ พี่จะหากระดาษกับดินสอได้จากไหนบ้าง” เพียงแค่ผมพูดคอตตอนก็รีบไปหามาให้ผมเลย เหมือนกับหาคนเล่นด้วยมานานแล้ว ไม่นานปากกา ดินสอ สมุดมากมายก็ถูกเอามาวางลงที่พื้นไม้กระดาน
“ต้อนจะวาดตรงนี้”
“งั้นพี่จะวาดตรงนี้” ทันทีที่ตกลงอาณาเขตได้ ผมก็เริ่มร่างแผนที่ที่ระยะเวลาที่ผ่านมา ผมได้ไปขับรถสำรวจดู ไอ้เลียบทางด่วนที่ผมโดนเธอชน มันมีอีกคู่ขนานกันมาด้วย ทางนั้นจะออกไปไหน ทำไมผมนึกไม่ออก แต่ทางนี้มันออกเส้นพระรามสองหัวกระบือ อะ ทำไมแบบนี้คิดออก เนี่ยมันค่อย ๆ มา จนบางทีผมหงุดหงิดที่มันช้าเกิน
“พี่วาดอะไรอ่า หยึกยือ ไม่สวยเลย นี่!!!! ดูต้อน ต้อนวาดพ่อจ๋า” เด็กน้อยมาวิจารการวาดแผนที่ที่สวยงามของผม ทำให้ผมหันไปมองงานของเขาบ้าง ว้าววว วาดสวยแฮะ
“วาดสวยจังเลย คุณพ่อของต้อนมาเห็นจะต้องดีใจแน่ ๆ”
“จริงเหรอ งั้นต้อนจะวาดอีก แล้วพี่วาดอะไร ต้อนดูไม่เข้าใจ”
“แผนที่ไง แผนที่ไง ดูไม่ออกเหรอ นี่มีรถ ถนน” ผมพยายามจะชี้ต้นไม้เล็ก ๆ ที่เด็กต้องดูออกบ้างหล่ะ
“ถนนของพี่หยักเหมือนปลาไหล อ่าาา แผนพี่ อานินวาดเอาไว้ อานินวาดรูปสวยมาก” ต้อนวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อหยิบสมุดสเก็ตเล่มหนึ่งมาส่งให้ผม แล้วกำชับว่าห้ามผมวาดเล่นลงในนี้ ผมไม่ใช่คนมือบอนนะ แต่แค่อยากรู้จะสวยขนาดไหน
ผมเปิดสมุดสเก็ตที่วาดออกแบบเสื้อผ้าเอาไว้มากมาย แต่ละชุดก็มันก็ไปในทางที่ผมมองว่าสวย มีเอกลักษณ์ ชวนมอง ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอยังทนทำงานที่ร้านพรีเวดดิ้ง sasi อะไรนั่น ไม่ใช่เพราะผู้ชายที่ชื่อสอง แต่เพราะสิ่งนี้ต่างหาก
‘ไอ้พู แกเลือกสักทีได้ไหม คอลเลคชั่นใหม่อะ ฉันจะสั่งตัด ถ้าแกยังช้าแบบนี้จะไม่ทันนะ’ เสียงใสกับภาพในความทรงจำบางอย่าง มันทำให้ผมต้องเอามือกดหัวเอาไว้ มันเหมือนเนื้อในสมองกำลังเต้นอยู่เลย
‘ไอ้พู ทำไมแกเลือกมากแบบนี้ ฉันออกแบบมาให้แกเป็นสิบชุดแล้ว’
‘ผิง งานแบบนี้มันแค่สวยไม่ได้’
“งานแบบนี้มันแค่สวยไม่ได้” ผู้หญิงในหัวผมโผล่มาอีกแล้ว เธอคือภาพในความทรงจำของผม เธอชื่อ ผิง
“ใช่ครับ อาวาดสวยมาก อาวาดแล้วก็หัวเราะคิกคัก อาบอกตลอดว่าอยากให้เสื้อผ้าที่อาวาด ไปอยู่บนตัวผู้คน ถ้าคนใส่เยอะ ๆ อาจะมีความสุข ตอนนี้อากำลังเรียนเย็บอยู่ครับ” เสียงของเด็กตัวน้อยดึงผมออกมาจากภวังค์ความคิดในหัวของตัวเอง
“อื่มมม สวยจริง ๆ ด้วย” ตอนนี้ปวดหัวจัง เหมือนสมองผมมันกำลังเต้นอยู่เลย
ผู้หญิงในความทรงจำ เรียกผมว่าพู ภู อะไรสักอย่าง แสดงว่าผมเองมีตัวตนจริง ๆ แต่สำคัญไหมนะ ผมเป็นคนสำคัญรึเปล่า ถ้าสำคัญทำไมถึงไม่มีใครออกตามหาผมเลยล่ะ หรือยังไง ผมประสบอุบัติเหตุ หรือ มีคนพยายามทำให้มันเกิดขึ้นกันนะ
ลินิน Say ::
20:27 น.
ฉันกลับบ้านมาอย่างอารมณ์ดี ก็วันนี้วันเงินเดือนออกไงล่า แต่ต้องอารมณ์ดีกว่า เพราะเห็นหลานตัวเองนอนกอดกับยีนที่พื้นกลางบ้านเลย เลี้ยงเด็กก็ได้แฮะ วันนี้ทำอะไรกันทั้งวัน วาดรูปเหรอ ฉันดูผลงานของหลาน ก็ทำได้ดีตามภาษาเด็ก แต่มาดูอีกอันที่ เอ่ออออออ นี่มันคืออะไร มีแต่เส้นลาก ๆ หยึกหยักไปหมด อี๋ เด็ก 6 ขวบ ยังทำสวยกว่าเลย
ฉันหยิบสมุดสเก็ตของฉันที่อยู่ที่พื้นขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะฉันห้ามหลานเอามาเล่นแล้ว แต่พอเปิดดูไม่มีอะไรเสียหาย เลยยกผลประโยชน์ให้จำเลยไป แต่นายจะอยู่กับฉันอีกนานแค่ไหนยีน นายรู้ไหมวันนี้ฉันสะบัดบ๊อบใส่พี่สองด้วยนะ ที่ผ่านมาฉันแค่พาลที่แพ้ แต่นายพูดถูก มันแค่นิสัยของคนขี้แพ้ ฉันหยิบดินสอขึ้นมาจากพื้น แล้วสเก็ตภาพของยีนกับคอตตอนที่นอนกอดกันกลมเลย ขนตายาวจังเลย อย่างน้อยถ้านายจากไป ฉันจะยังจำนายได้ แต่หน้านายมันมีหนวดขึ้นแล้วเหมือนตาแป๊ะเลย
“จ้องขนาดนั้นระวังหลงรักนะ แอบวาดรูปฉัน ฉันคิดเงิน” คนที่นอนอยู่จับให้คอตตอนนอนดี ๆ ก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นมานั่ง
“ใครจะไปรักตาแป๊ะแบบนายกัน ว่าแต่ทำไมบ้านเงียบ ๆ”
“ฟองยังไม่กลับมาเลย ฉันพาต้อนออกไปตามหาก็ไม่เจอ ช่วยกันหน่อยสิพาหลานไปนอนดี ๆ” คนที่พูดอุ้มคอตตอนขึ้นมาจากพื้น แล้วพาขึ้นไปนอนที่ห้องตัวเอง โดยมีฉันคอยอำนวยความสะดวกให้
“ปกติฟองไม่ใช่คนเหลวไหล อาจจะทำงานยังไม่เสร็จ เดี๋ยวฉันจะโทรไปบ้านแก้ว”
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟองกลับบ้านผิดเวลา ทุกวันหลังเลิกเรียนจะหายไปวัน 2-3 ชั่วโมง แต่ทุกทีจะเอาต้อนไปด้วย แต่วันนี้ไม่ ต้อนบอกพี่สาวของตัวเองมีแฟน”
“ใคร!!!! ฉันจะไปเอาเรื่องมันเดี๋ยวนี้!!!”
“จะบ้าเหรอ!!!! เราเป็นผู้ปกครองครัว ควรเข้าใจหลานเธอมากว่าใครนะ ฉันรับปากต้อนไว้ว่าจะไม่บอกใคร แต่ฉันบอกเธอ ถ้าเธอโวยวายหลานจะไม่บอกอะไรฉันอีก แล้วฉันก็จะไม่บอกอะไรเธออีกด้วย” เสียงที่ค้านฉันเบา ๆ มันทำให้ฉันคิดหนัก เด็กอายุ 15 ขวบเนี่ย กำลังหัวเลี้ยวหัวต่อเลย จะยอมฟังฉันไหม ปกติก็ไม่ค่อยจะฟัง แล้วหลานฉันก็เป็นผู้หญิง มีแต่เสียหาย
“เอาไงดีอะ” ฉันช้อนตามองคนที่ตัวสูงกว่า เอาจริง ๆ ฉันเองไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไงดี
“ใจเย็น ๆ ก่อนนะ ไม่รู้ว่าหลานอยู่ไหน ถ้าเธอดุไปหลานไม่อยากจะคุยด้วยนะ ค่อย ๆ หลอกถามละกัน ปฏิเสธไม่ได้หรอก ที่ผ่านมาเธอละเลยหลานทำแต่งาน จำคำฉันไว้ คนขยันไม่มีทางรวย เพราะขยันไม่ถูกที่” คนที่ทำเป็นเข้มเดินเข้าไปในห้องนอนเก่าของฉัน โดยมีฉันที่เดินตาม
“นี่นายใช่ยีนที่ฉันรู้จักไหมเนี่ยเข้มเกิ๊น ว่าแต่แล้วนี่ชีฟองจะกลับมาเมื่อไหร่ เป็นห่วงจังเลย”
“มันก็ต้องใช่สิ หลวมตัวเข้ามาในห้องแบบนี้ ไม่กลัวฉันปล้ำเหรอ”
“หลวมตัวอะไรนี่บ้านฉัน ฉันจ่ายค่าเช่า นายอ่าแค่คนอาศัย ต่อไปฉันจะนอนในห้องนี้ ฉันทวงห้องคืน เพราะฉันจ่ายตัง!!!!” กล้ามาก จะยึดบ้านฉันเหรอ แกแค่คนอาศัยยะ ฉันพยายามเถียงคนที่ยึดห้องฉันมาเป็นเดือน
“ตอนแรกไม่กล้าเล่นเยอะ กลัวตัวเองมีเมียอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ค่อนข้างจะมั่นใจว่าตัวเองโสด” แล้วคนบ้า ๆ บอ ๆ จู่ ๆ ก็เกิดอาการผีเข้า เป็นอะไรก็ไม่รู้ มาดันฉันเข้ากับกำแพงไม้ จนมันสะเทือน
“โสดแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน นายเองก็มีผู้หญิงในหัวตั้งหลายคน แล้วนี่นายเป็นอะไรของนายเนี่ย แปลก ๆ นะนายเนี่ย” ฉันหลบสายตาคนที่เอาหน้ามาใกล้ฉันเหลือเกิน
“ที่จริง ฉันอาจจะเป็นคนแบบนี้ก็ได้นะ” ใบหน้าที่ขยับเข้ามาใกล้ทำให้ฉันหลับตาลงทันที หัวใจที่นิ่งสงบมันก็เต้นรัวด้วยความตกใจ ในการเปลี่ยนแปลงไปของคนตรงหน้า กลิ่มลมหายใจเขาอยู่แค่ตรงนี้เอง ใกล้เข้ามาแล้ว หนีไม่ทันแล้วลินิน จูบ จูบแน่ ๆ ฉันเม้มปากแน่น ฉันไม่ง่ายหรอกนะ
“หลบตาทำไม ฉันเอาผ้าเช็ดตัว จะอาบน้ำ” ประโยคของยีน ทำให้ฉันลืมตาขึ้นมาด้วยความอายที่ตัวเองเข้าใจผิด
“เอ่อออ ก็อาบน้ำไปสิ” ฉันพยายามจะผลักเขาออก แต่มันดันไม่ขยับ อีบ้าแกล้งฉันหัวใจจะวาย ถ้าฉันหัวใจวายไปจะทำยังไง ใจเต้นตึก ๆ เลย
“หลับตาทำไม คิดว่าฉันทำอะไร คิดว่าจะจูบเหรอ เธอเคยบอกว่าจูบต้องหัวใจเต้นไง ถึงจูบได้ แล้วเมื่อกี้เต้นรึเปล่า” แล้วคนที่ฉันผลักตั้งนานไม่ออก ก็ผละตัวออกออกไปจากฉันเอง โดยที่ไม่ต้องไล่เลย
“ไม่เต้น ไม่ได้ใจเต้นโว้ยยยย” ฉันคว้าของใกล้มือที่สุดขว้างใส่เขาอย่างต่อเนื่อง
“หัวใจไม่เต้นระวังตายนะ ไปอาบน้ำดีกว่า”
สาธุขอให้เจอตุ๊กแกกัดจู๋ ชิ แต่เขาออกจากห้องไปไม่นาน เสียงกรีดร้องจากชายฉกรรจ์ก็ดังขึ้น พี่เบิ้มไม่เคยทำให้ผิดหวังจริง ๆ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงกรี๊ดดัง ๆ ของคนข้างล่างทำให้ฉันต้องวิ่งลงไปดู ก็เจอชายหนุ่มที่ยืนขาแข็งไม่กล้าเข้าห้องน้ำ เพราะพี่เบิ้มตุ๊กแกผู้อาศัยไม่เคยจ่ายค่าเช่าอีกคน ก็อยากจะจ่ายค่าเช่าขึ้นมาด้วยการช่วยฉัน
“อะไรอะ กรี๊ดเป็นตุ๊ดเลย” ฉันผลักคนที่ยืนตัวแข็งเข้าไปในห้องน้ำ
“ไม่เอาาาาาา นินคร้าบบบบบบ ไล่มันให้เค้าหน่อย นินนนนนนนนนนนน”
“อยู่กับมาเป็นเดือนแล้ว กลัวอะไร มันเป็นรุ่นพี่นายเลยนะ เข้าไปซี้!!!” ฉันผลักคนที่กลัวตุ๊กแก เข้าไปเผชิญความกลัว เมื่อกี้แกล้งฉันเหรอออออออออออ
“นินนนนน ฉันโกรธนะ ไม่เอาาาาาาา นินนนนนนนนน กรี๊ดดดดดด”
“โกรธอารายยยยยยยยยยย โกรธทำไมมมมม” คนที่กลัวตุ๊กแกเบี่ยงตัวหลบฉันที่พยายามผลัก มันทำให้ฉันเสียหลักพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำแต่โชคดีที่ยีนรับไว้
แต่!!! มือที่มันคว้าตัวฉัน มันดันคว้าหมับเข้าที่หน้าอกของฉันไง
“ไอ้ยีนนนนน ตายซะเถอะแก!!!!!”
“ตายอะไร ฉันช่วยเธอจากตุ๊กแกนะ!!!!!!!”
ชายผู้จำอะไรได้บ้างแล้ว Say ::
02:37 น.
ชีฟองยังไม่กลับมา อาของเธอเครียดมาก ไม่เป็นอันกิน ไม่เป็นอันนอน นั่งเฝ้าแต่ประตูบ้าน มันทำให้ผมอยู่เฝ้าเป็นเพื่อนลินินที่โซฟาตัวเก่า เธอพยายามที่จะไปแจ้งตำรวจ แต่จะแจ้งยังไงนี่ยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลย ไหนจะคอตตอนที่หลับอยู่
“ยีนหรือฉันจะเป็นอาที่แย่ หลานถึงหนีออกจากบ้าน” เธอเริ่มมีอาการสติแตก
“ไม่แย่หรอก คำว่าทำดีที่สุดของแต่ละคนไม่เท่ากันนะนิน หลานไม่คิดแบบนั้นหรอก ที่ผ่านมาในสายตาฉันฟองเป็นเด็กดี เธอไปนอนเถอะ ฉันดูต่อให้ดีไหม” เธอทำงานทั้งวัน แต่ผมได้หลับไปบ้างแล้ว ผมอยู่ได้สบาย
“จะนอนยังไงหลานยังไม่กลับมา ไปที่ไหนก็ไม่รู้ สังคมที่นี่มันน่ากลัวมาเลยนะยีน ชุมชนนี้มีทั้งขายยา บ่อน ขายตัวก็มี ฉันกลัว ยีน ฉันกลัว ฉันกลัวดูแลหลานไม่ดีแล้วหลานคิดว่าฉันไม่รัก” ผมว่าลินินกำลังคิดมากเกินไปแล้ว เธออาจจะฟุ้งซ่านจากอาการไม่ได้นอน
“อยากไปจากที่นี่ไหม”
“อยากสิ ฉันจะตั้งใจทำงาน ฉันจบออกแบบมานะ”
“ออกแบบเสื้อผ้าเหรอ ฉันเห็นเธอวาดรูป ฉันชอบนะ”
“ใช่ แต่ฉันไม่ใช่นักเรียนดีเด่น หนทางซ้อมมือก็ไม่มี ฉันเลยต้องทำงานที่ร้าน เพื่อให้คุณศศิสอนงาน เธอเก่งมากเลยนะ ร้านของเราดังมาก ดารามาสั่งตัดชุดเยอะมาก ฉันอยากเป็นเหมือนคุณศศิบ้าง ฉันอยากเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนใส่ชุดของฉัน ฟังดูเวอร์ไหม เวอร์สินะ คนอย่างฉันจะทำอะไรได้ แค่ตอนนี้หลานไปไหนยังไม่รู้เลย” สติแตกไปใหญ่แล้ว ปรับอารมณ์ไม่ทันเลยวุ้ย
ผมต้องกุมมือนินเอาไว้แน่น เพราะตอนนี้เธอเริ่มฟุ้งซ่าน ให้เธออุ่นใจขึ้นมาบ้าง ผมไม่ได้อยากจะแต๊ะอั๋งเธอนะ มันเหมือนกับว่า ผมทำแบบนี้จนเป็นความเคยชิน แค่กำมือของเธอแน่น ๆ ให้ความเงียบมันทำให้เธอมีสติขึ้นมาบ้าง การกระทำของผมทำให้ดวงตากลมโตช้อนมองผมขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ มองทำไม มองแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว
“วันไหนฉันทำได้ ฉันจะไม่ลืมนายเลย ความฝันฉันสำเร็จเมื่อไหร่ ฉันจะตัดชุดให้นายใส่ เอ่อ คือ ให้ชีฟองกับคอตตอนด้วย”
“เอาเข็มขัดกับรองเท้าไปขายให้ฉันหน่อยสิ ฉันมีของที่อยากจะได้นิดหน่อย ฉันอยาก…..”
“จะไปแล้วเหรอ จะไปจากที่นี่เหรอ”
“เอ่อออ คือ ฉันมาอยู่กับเธอนานแล้วนะ ฉันก็ควรจะไปอยู่แล้ว ตอนนี้ความทรงจำมันเริ่มกลับมาบ้างนิดหน่อย ฉันยิ่งรู้สึกตัวเองเป็นคนร้ายกาจ”
“ไม่เห็นร้ายเลย แบบพี่สองต่างหาก” ดวงตากลมโตที่มองผม มันบอกว่าชีวิตเธอมันจะเก่งไปซะทุกอย่าง แต่ความจริงแล้วเธอมันโคตรไร้เดียงสาเลย ไม่ไหว ไม่ไหว ผมเนี่ยกดเธอทีเดียวไม่ได้เกิดเลยนะ
“ร้ายยังไง”
“ยังไม่เลิกกับปลานะ แต่มาตามจีบฉันไม่เลิก ซื้อชานมไข่มุกมาให้ฉันด้วย เพราะรู้ว่าว่าฉันชอบกินแต่ไม่มีตังซื้อ” คนที่พูด พูดออกมาอย่างอารมณ์ดี
“แล้วกินรึเปล่า!!!! ถามโง่ ๆ กินสินะ ยิ้มแป้นขนาดนี้” ไหนบอกไม่ชอบ ไหนบอกเกลียด สุดท้ายยังไงก็ยังชอบรึไง
“ก็ต้องกินดิ ของฟรีเลยนะ”
“เห็นแก่กิน เธอเป็นแฟนฉันนะ”
“เอ้ยยย แฟนหลอก ๆ ที่จ้างด้วยลูกชิ้นกุ้งต่างหาก พี่สองออกอาการหวงมาก ถึงขั้นกับบอกว่าจะเลิกกับยัยปลาเน่าเลยนะ” โหยยยย งี่เง่าโคตร จ้างคนด้วยลูกชิ้นกุ้งลูกเดียว ตลกรึไง
“อะไรทำให้เธอรักมันนักหนา!!!!”
“เสียงดังทำไม หลานนอน วุ้ว แต่พี่สองคือจูบแรกของฉันเลยนะ แต่ที่ทำให้ฉันรักเขา คงจะเป็น….อุ้มมมมม!!!!!” ผมไม่รอให้ลินินพูดจบ ดึงเธอเข้ามาประกบริมฝีปากที่พูดไม่หยุด ทำให้คนที่งี่เง่าหยุดพูดอะไรไม่รู้เรื่องได้รู้ ว่าจูบใครก็จูบได้ ไม่รักก็จูบได้
“ฉันก็จูบแล้ว หัวใจเต้นไหม”
“ไอ้บ้า ไอ้….” ผมดึงเธอเข้ามาจูบอีกครั้ง ด่าเก่งก็ต้องโดนทำให้หุบปากแบบนี้แหละ มือเล็ก ๆ ที่ทุบผมไม่หยุด ทำให้ผมต้องรวบมันเอาแนบอก
“รู้เอาไว้ซะ ชีวิตจริงไม่ใช่นิทาน ผู้ชายที่จูบผู้หญิง ไม่ใช่ต้องจบที่การแต่งงาน แต่มันคือที่เตียง” ผมมองหญิงสาวที่ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว
“แล้วนายก็หวังที่เตียงด้วยใช่ไหมล่ะ”
“ถ้าฉันจะทำอะไรเธอจริง ๆ มันเกิดขึ้นไปนานแล้ว เธอเมานอนแก้ผ้าทุกวัน แต่ที่ฉันไม่ทำ ก็เพราะ!!!” ผมชะงักไปเล็กน้อย เออ ทำไมผมไม่ทำ เพราะผมเป็นคนดีแน่ ๆ
“แล้วเพราะอะไร”
“เอ่อ อะ คือออ เพราะ เอ่อออเพราะ…….”