ตอนที่ 2... เรื่องวันวาน (1/3)

1936 คำ
“สวัสดีครับคุณอลิชา คุณทรายให้ผมมารับครับ” “สวัสดีค่ะ พี่สนใช่ไหมคะ” อลิชาทักทายชายวัยกลางคน ผู้เป็นเจ้าของผิวสีน้ำตาลเข้มตามแบบฉบับคนที่อยู่ใกล้ทะเลมานาน ในฐานะคนขับรถของโรงแรม เขาได้รับคำสั่งจากธัญญาให้มารับเธอที่สนามบินภูเก็ต “ใช่ครับ ผมชื่อจริงว่าสนธินะครับ อีกหน่อยคงได้ขับรถบริการบ่อย ๆ” “ถ้าอย่างนั้นรบกวนพี่สนล่วงหน้าด้วยนะคะ พี่สนเรียกหนูว่าช่าหรือลิชาก็ได้ค่ะ” “ครับ ผมขอเรียกตามคุณทรายว่าช่าแล้วกันนะครับ” “ยินดีค่ะ รถจอดอยู่ตรงไหนเหรอคะ” เธอบอกพร้อมรอยยิ้ม ชะเง้อมองหารถตู้ที่มีสัญลักษณ์ของโรงแรม “คันนี้ครับ พอดีรถตู้ของโรงแรมใช้รับส่งแขกทุกคันเลยครับ” สนธิชี้ไปยังรถกระบะสีดำคันใหญ่ มันถูกตกแต่งและดัดแปลงให้พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ เช่น น้ำท่วม บุกป่าฝ่าดง และคงขับขึ้นเขาได้สบาย “อ๋อ โอเคค่ะ” “มีกระเป๋าอีกไหมครับ เดี๋ยวผมช่วยยก” “มีอีกสองใบตรงนั้นค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอน้อมรับน้ำใจ กระเป๋าเดินทางใบใหญ่เท่าบ้าน มีคนกำยำช่วยยกขึ้นรถก็ดีไม่น้อย ทว่าพอขึ้นรถ คาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จสรรพ คนขับกลับรถจับโทรศัพท์แทนจับพวงมาลัย “คุณช่าครับ ขอโทษนะครับ ผมลืมบอกว่าต้องไปรับคนอีกคนหนึ่งครับ” “ใครเหรอคะ” “คุณดีแลนครับ” “ดีแลน?” เธอถามซ้ำ พยายามนึกชื่อว่ารู้จักหรือไม่ พี่ทรายเคยพูดถึงหรือเปล่า แต่นึกไปก็เท่านั้น เพราะไม่รู้จักอยู่ดี “ครับ แวะรับที่โรงพยาบาล ทางผ่านพอดีครับ” “โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวช่าค่อยย้ายไปนั่งเบาะหลังนะคะ” “ครับ ขอโทษด้วยนะครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ สบายมาก” อลิชาตอบอย่างจริงใจ ทางเดียวกัน ประหยัดน้ำมัน รอเขาคุยโทรศัพท์กับดีแลนว่ากำลังออกจากสนามบิน แล้วก็ถามให้หายสงสัยว่าคนที่จะนั่งรถไปด้วยกัน ปลายทางของเขาคือที่ใด “พี่สนคะ” “ครับ?” “คุณดีแลนนี่เขาจะไปโรงแรมเหมือนกันใช่ไหมคะ” “อ๋อ ใช่ครับ คุณดีแลนเป็นเจ้าของโรงแรมครับ” “โอ้...” คนฟังถึงกับอึ้ง เริ่มกังวล ทำตัวไม่ค่อยถูก เพราะได้งานนี้จากคำเชิญชวนของธัญญา ไม่ได้ผ่านการสัมภาษณ์ แม้แต่ใบสมัครงานก็ยังไม่ได้กรอก แต่พี่ทรายบอกว่าคุยเรื่องนี้กับเจ้าของโรงแรมแล้ว เพราะฉะนั้นคงไม่เป็นไร “คุณดีแลนใจดีครับ เป็นกันเองกับลูกน้อง สบายใจได้ครับ” “ค่ะ” อลิชายิ้มรับคำปลอบใจ ขอให้เป็นอย่างที่ว่าแล้วกัน และเจ้าของโรงแรมคงไม่พ้นชายต่างชาติหุ่นท้วม ที่กำลังชะเง้อคอรอรถอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลเป็นแน่ แต่... เธอคิดผิด เพราะคนที่ตรงมาที่รถ ระหว่างที่เธอกำลังจะย้ายไปนั่งด้านหลังนั้นส่งยิ้มมาให้จากไกล ๆ กลับเป็นคนที่เพิ่งเดินออกมาจากโรงพยาบาล และเป็นคนที่เธอเอาขวดเบียร์ฟาดหัวเมื่อเดือนก่อน ไม่ผิดตัวแน่... เธอจำเขาได้แม่น แม้ตอนนั้นแสงไฟ ณ จุดเกิดเหตุจะไม่สว่างไสว แต่ความใกล้ชิด ชนิดที่เรียกว่าขนตาแทบจะกะพริบชนกัน ทำให้ดวงตาสีฟ้าเข้มแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ “เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ” ดีแลนทักทายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะโน้มตัวมาหอมแก้มเธอเบา ๆ เพื่อทักทายคนรู้จักในแบบที่ตัวเองเคยชิน อลิชาทำอะไรไม่ถูก ตอนที่เขาขยับเข้ามาใกล้ เธอก็เอาแต่ยืนนิ่ง พอถูกปากสัมผัสลงบนแก้ม ตัวก็เซไปด้านหลัง แต่ก่อนที่หลังจะชนตัวรถ เขาก็วาดแขน โอบเอวรองรับตัวเธอไว้ได้ทัน “ปล่อยค่ะ” เธอผละตัวเองออกจากดีแลน รีบแจ้นไปนั่งที่เบาะหลังพร้อมใจที่เต้นระรัว “หมอว่ายังไงบ้างครับคุณดีน” สนธิเอ่ยถามเจ้านายเมื่อเขาขึ้นมาบนรถ “ตัดไหมแล้วพี่สน แต่อาจจะเป็นแผลเป็น” “ค่อยยังชั่วครับ วันหลังก็อย่าโดนใครเอาขวดตีหัวอีกนะครับ ผมเป็นห่วง” “ครับ” สนธิบอกสบาย ๆ ส่วนดีแลนหันมามองอลิชาอย่างมีเลศนัย “คุณชื่ออะไรนะครับ” “ฉันชื่อ... อลิชาค่ะ” “ผมดีแลนนะครับ เรียกดีนเฉย ๆ ก็ได้ ยินที่ได้ร่วมงานและยินดีมาก ๆ ที่ได้รู้จักครับ” เขายื่นมือไปอย่างผูกมิตร หากเธอจะปฏิเสธคงใจดำน่าดู ทว่าหญิงสาวก็อัธยาศัยดีกว่าที่คิดไว้ “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” มือที่สั่นเล็กน้อยยื่นไปจับตอบ ตั้งใจว่าจะจับไม่นาน แค่ต้องการให้สนธิเห็นว่าตัวเองเป็นคนมีมารยาท แต่ดีแลนไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ แถมยังใช้นิ้วโป้งลูบไล้หลังมือ พร้อมส่งสายตาหวาน ๆ ไปให้ ทำเอาอลิชาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะมันลอยไปหาเหตุการณ์ตอนเจอดีแลนครั้งแรกอยู่ร่ำไป หนึ่งเดือนก่อน “ฉันยินดีด้วยมาก ๆ มากที่สุดในโลกเลยเว้ย ในที่สุดแกก็ได้ผัวตามที่ขอกับเทวดานางฟ้าสักที” อลิชาโผกอดเพื่อนรัก (ที่ไม่หักเหลี่ยมโหด) อย่างกวินนา เพราะอีกไม่นานเธอจะแต่งงานกับมหาเศรษฐีชาวแคนาดาที่มาลงทุนทำบ้านจัดสรรสุดหรูเลิศอลังการขายที่ภูเก็ต และวันนี้คือปาร์ตี้สละโสดของว่าที่เจ้าสาว งานจัดขึ้นในร้านอาหารติดทะเล บรรยากาศดี เพลงเพราะจนเพลิดเพลินกับการพูดคุยกับแกงค์เพื่อน จากที่หัวค่ำนั่งทานข้าว สี่ทุ่มก็ย้ายมาโซนนั่งดื่มและแดนซ์ของร้าน ยิ่งดึกก็ยิ่งสนุกครึกครื้น และแม้จะไม่ได้ดื่มเยอะ แต่อลิชาก็ทำตัวเมาเพื่อความคึกคักได้เป็นอย่างดี “ขอบใจเว้ยช่า แต่ฉันจะมีเรื่องจะบอกว่ะ” “อะไรนา” อลิชาตอบรับกวินนาด้วยการเอียงหูเข้าไปฟังใกล้ ๆ และ ‘ช่า’ คือชื่อเล่นอีกชื่อ ที่เพื่อนซี้กับคนสนิทมักจะเรียกสั้น ๆ “มีผู้ชายมองแกว่ะ” “ก็ไม่แปลกนิ” เธอตอบอย่างมั่นใจ ด้วยความที่ไม่ได้เกิดมามีผิวขาวจั๊วแบบพริตตี้เงินล้าน แต่ผิวสีน้ำผึ้งมาแต่ไหนแต่ไร แถมยังตาคมสวยรับกับจมูกที่หมอทำให้เข้ากับรูปหน้า หากอยู่ที่กรุงเทพกับกลุ่มเพื่อน แน่นอนว่าผู้ชายไม่ค่อยสนใจ แต่หากอยู่ภาคใต้แล้วล่ะก็ อลิชาครองแชมป์การถูกมองจากหนุ่มตะวันตกมากที่สุด เพราะเธอคือสาวสาย ฝ. นั่นเอง “ไม่สนใจเหรอ หล่อดีนะ” อลิชามองตามเพื่อนเพื่อพิจารณา ตัวสูง หุ่นดี ผมสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาไม่ได้ดูฝรั่งจ๋า ถ้าไม่ได้ตาฝาดและเดาผิด เขาน่าจะมีความเป็นเอเชียผสมอยู่ในโครงหน้าส่วนใดสักส่วน แต่ยกเว้นที่จมูก เพราะมันโด่งเกินมาตรฐานชาวตะวันออก รอยยิ้มที่ส่งมาทักทาย ก็จัดได้ว่าสวยใช้ได้เลยทีเดียว “ก็หล่อนะ แต่ฉันมีแฟนแล้ว” “เออ ลืมไป” กวินนาตอบเซ็ง ๆ เพราะถึงเพื่อนจะมีแฟน และคบหาดูใจกันมาหลายปี แต่ช่วงนี้ไอ้แฟนที่เพื่อนว่า รู้สึกจะสร้างปัญหาให้เพื่อนอยู่บ่อยครั้ง หนักหน่อยก็ตกงาน และไม่ได้ตกธรรมดา เพราะตกมาแล้วหนึ่งปี อยู่บ้านที่พ่อกับแม่ของอลิชาทิ้งไว้ให้เป็นมรดก หลังจากประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อสามปีก่อน นี่ถ้าพ่อกับแม่เพื่อนยังมีชีวิตอยู่ แทนคุณน่าจะโดนไล่ตะเพิดข้อหาเกาะลูกสาวกินไปนานแล้ว “นา ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่” “แกรู้เหรอว่าฉันกำลังด่าแทนในใจว่ามันไม่เอาไหน งานการไม่รู้จักทำ วัน ๆ เอาแต่เล่นเกม” “รู้สิ แต่ฉันขอพูดอีกครั้งนะ แทนอยู่บ้านก็จริง แต่เค้าไม่ได้ใช้เงินฉันนะเว้ย” “แล้วมันไปเอาเงินมาจากไหนวะ คนบ้าอะไรอยู่ว่าง ๆ ไม่ทำอะไร แฟนแกมีเงินเก็บเป็นสิบล้านเหรอ บ้านก็ไม่ได้รวย พ่อแม่ไม่ได้เป็นเศรษฐี ฉันกลัวว่าสักวันแทนจะทำให้แกเดือดร้อน” กวินนาพูดตามที่คิด วิเคราะห์ตามที่สงสัย ที่อยากจะพูดมากที่สุดคือเรื่องที่เคยเห็นแทนคุณเดินอิงแอบแนบชิดกับพินารี แม้จะเห็นจากไกล ๆ และเป็นเพื่อนของอลิชาคนละกลุ่มกับอีนั่น แต่เธอมั่นใจมากว่าทั้งคู่ทรยศอลิชา ทว่าไม่มีหลักฐานจะเอาผิด หากพูดไป เกรงจะทำให้เพื่อนคิดมากและผิดใจกับตัวเองเปล่า ๆ ที่ผ่านมาก็ได้แต่คอยบอก คอยเตือนให้เพื่อนระวังเท่านั้น “แกก็รู้ว่าช่วงนี้งานหายาก แทนเขาก็หาอยู่ แต่ยังไม่มีที่ไหนน่าสนใจมากให้ตกลงทำงาน” อลิชาปกป้องคนรัก และไม่กล้าบอกว่าสิ่งที่กวินนากลัวนั้นเริ่มเกิดขึ้นแล้ว สองสามเดือนที่ผ่านมา คนรักไม่ช่วยออกค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ของใช้ต่าง ๆ เธอออกเงินเองทั้งหมด แต่ก็ไม่อยากเอามาคิดมาก ในเมื่อยังรักกันอยู่และยังรักกันดี เธอจึงคิดว่าเป็นการแบ่งปัน “เฮ้อ... ไม่ได้จะว่านะ แต่ระวังตัวไว้ด้วย ฉันกลัวแกซวย ช่วงนี้แกก็ทำงานหนัก เวลาว่างไม่ค่อยมี ระวังแทนมันจะมีกิ๊กนะ” “หือ? ไม่มีหรอก” “ไม่มีก็ไม่มี แต่ยังไงก็มองหาผู้ชายแถวนี้เผื่อไว้บ้าง ร้านนี้น่ะ ลูกค้าที่เข้ามาการันตีได้เลยว่าถ้าเป็นคนไทยก็มีอันจะกิน ถ้าเป็นต่างชาติก็ไม่ใช่ยาจกจากเมืองนอก ยกตัวอย่างเช่นผู้ชายที่มองแกตาเป็นมันคนนั้น เขาส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้แกตลอด ฉันเดาว่าเขาอยู่เมืองไทยมาสักพักแล้ว แกดูที่สีผิวของเขานะ หน้ากับแขน และลึกลงไปที่คอเสื้อ ผิวเขาจะแดง ๆ ดูบ่มแดด แต่ที่ชายกางเกง แกจะเห็นว่าตรงที่เนื้อผ้าปิด ตรงที่โผล่ให้เห็นวับ ๆ แวม ๆ ผิวเขาขาวมาก ฝรั่งที่มีเวลาว่างมานอนอาบแดดและมีเงินอยู่เมืองไทยนาน ๆ แถมยังใช้จ่ายในร้านแบบนี้ ไม่ใช่คนจน เขาต้องมีเงินในบัญชีเยอะพอสมควร” “แต่คงไม่เยอะเท่าเงินว่าที่เจ้าบ่าวแกหรอกมั้ง มีกี่ร้อยล้านเหรอ” อลิชาได้โอกาสเปลี่ยนเรื่องก็ใช้อย่างเต็มที่ “หนึ่งร้ายล้านเท่านั้นแหละ แต่หน่วยเป็นดอลล่าร์สหรัฐนะ ไม่ใช่บาทไทย” “ก็ประมาณสามพันล้านบาท” “ก็ประมาณนั้น” กวินนายักไหล่ แกล้งทำให้เพื่อนหมั่นไส้ และมันก็ได้ผล เพราะอลิชายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แถมเบะปากเป็นสระอิ “ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะนา” “โอเค อย่าไปนั่งหลับในนั้นนะ คืนนี้ยังอีกยาวไกล” “เออ!” อลิชาตบปากรับคำ ที่อุตส่าห์ลางานมาไกลถึงภูเก็ต นอกจากจะฉลองให้เพื่อน ก็มาเพราะอยากพักเรื่องงานและสนุกให้สุดเหวี่ยง เพราะฉะนั้น จะรีบไป รีบกลับ ทว่าระหว่างทางกลับ ฉากน้ำเน่าเหมือนนิยายกลับเกิดขึ้นซะงั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม