วันต่อมา...
ขนมผิงเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยเพราะมีนัดกับเพื่อนทำงานตอนเก้าโมง โดยมีลุงรงค์คนขับรถของไร่ที่ถูกพ่อเลี้ยงสั่งให้มาเป็นคนขับรถประจำตัวของหญิงสาว มาส่งเธอแต่เช้า
"ขอบคุณนะคะลุงรงค์ที่มาส่ง เดี๋ยวผิงเสร็จแล้วจะโทรศัพท์ไปบอกนะคะ"
"ลุงไปรอที่บ้านนะ อย่าแอบไปเกเรไหนล่ะเดี๋ยวพ่อเลี้ยงไปตามอีก"
"จ้า ผิงรู้แล้ว"
ลุงรงค์เอ่ยแซวเด็กสาว ขนมผิงยิ้มแห้งก่อนจะลงจากรถไปแล้วเดินไปหาเพื่อนที่รออยู่ก่อนแล้ว
"คุณนายผิงมาแล้ว"
แฟนเอ่ยแซวเพื่อสนิท ตั้งแต่คบกันมานอกจากในรั้วมหาวิทยาลัยแทบจะไม่ได้ไปไหนกับเพื่อนเลยซักครั้งถึงออกไปก็ไม่นานเพราะพ่อเลี้ยงจะมาตามกลับบ้านทันที
"คุณนายอะไรแฟน!พูดไปเรื่อย"
"ไปเรื่อยอะไรล่ะ หรือว่ามันไม่จริง ทุกวันนี้แกต่างจากคุณนายตรงไหน ผัวรักผัวหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ยังจะบอกว่าเขาไม่รักอีก"
แฟนเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ ทุกครั้งที่เธอพูดแบบนี้ขนมผิงก็จะบอกว่าพ่อเลี้ยงไม่ได้รักเธอ เขาแค่เลี้ยงดูเธอเท่านั้นเมื่อถึงเวลาที่เขาจะมีครอบครัวเธอก็ต้องออกไปจากชีวิตของเขา ซึ่งดูจากที่เขาทำในทุกวันนี้คงยากที่จะปล่อยเพื่อนเธอไป
"เคยบอกไปแล้วไงว่ามันไม่ใช่แบบนั้น"
"เออๆช่างมันเถอะ แล้วนี่แกจะยังไงเรื่องฝึกงาน ฉันได้รายชื่อบริษัทมาแล้ว มีที่แกอยากทำงานด้วยนะเปิดรับนักศึกษาฝึกงานด้วย ถ้าทำงานดีเขาจะรับเข้าทำงานทันทีน่าสนเนาะ"
ขนมผิงเปิดดูกระดาษในมือของเพื่อนก่อนจะนึกถึงคำพูดของพ่อเลี้ยงคาวี เขาบอกว่าให้ฝึกงานที่ไร่ เธอเรียนการตลาดมาสามารถฝึกงานที่นั้นได้เลย และเขายืนยันว่าไม่ให้เธอไปฝึกที่อื่นซึ่งคงเลือกไม่ได้แล้ว
"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นอ่ะ อย่าบอกนะว่าพ่อเลี้ยงไม่ให้ไปฝึกงานที่อื่น"
"อือ ต้องฝึกที่ไร่ขอโทษนะแกไปด้วยไม่ได้แล้ว"
ขนมผิงเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด เธอบอกเพื่อนว่าจะไปฝึกงานด้วยตั้งแต่ปีสามแต่พอไปคุยกับพ่อเลี้ยงเมื่อไม่นานมานี้เขาบอกว่าไม่ให้ไปที่อื่น เธอไม่อยากขัดใจเขาก็เลยยอมไป
"เห้อ! ฉันจะบอกให้นะไอ้ผิง ชาตินี้แกไม่มีทางไปไหนจากพ่อเลี้ยงได้ เขารักเขาหลงแกมากขนาดนี้ไม่มีทางที่จะยอมปล่อยแกหาคนอื่นเด็ดขาด อ่อ ไม่ต้องมาแก้ตัวว่าเขาไม่รักฉันดูออก จบ! แยกย้าย"
แฟนเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงเพื่อนให้ตามไปที่ห้องอาจารย์เพื่อนทำหนังสือไปยื่นขอฝึกงานตามที่พวกเธอเลือก
"แกก็ไปอยู่ที่ไร่นั้นแหละ ฉันจะไปบริษัทฟิลลิ่งกรุ๊ปโอเคตามนั้นนะ"
"อื้ม โอเค"
ทางด้านของพ่อเลี้ยงคาวี เขามาตรวจงานที่รีสอร์ท มีแพลนว่าจะทำสวนน้ำและเปิดให้คนนอกเข้ามาเล่นได้มีทั้งระบบสมาชิกแบบรายเดือน รายปี และรายวัน อันนี้เป็นความคิดของขนมผิงที่เอ่ยออกมาเมื่อเดือนก่อน และเขาลองเอามาเข้าที่ประชุมระดับหัวหน้าทั้งหลายก็เห็นด้วยกับสิ่งนี้ มันดึงดูดให้คนอยากมาเที่ยวไม่ใช่เพียงแค่ต้องการเข้าพักผ่อนเท่านั้น
"ผมไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงอยากทำสวนน้ำด้วย ดูจากการชอบความสงบแบบพ่อเลี้ยงไม่น่าอยากทำอะไรวุ่นวายแบบนั้น"
ดินเอ่ยอย่างคาดไม่ถึงตอนที่เขาขอความเห็นในที่ประชุม ต้องมีแรงจูงใจให้เขาอยากทำสิ
"ขนมผิงพูดไว้ก่อนหน้านี้นะ ฉันเห็นว่าเรามีทุกอย่างแต่ไม่มีอะไรดึงดูดกลุ่มลูกค้าในวัยเด็กเลย สวนน้ำเป็นทางเลือกที่ดีมากนะ ได้ค่าบัตรเด็กเล่นแล้วก็ขายอาหารบุฟเฟ่ต์ด้วย และจะเพิ่มโซนแอดแวนเจอร์เข้าไปอีกดึงดูดกลุ่มลูกค้าวันรุ่นขึ้นไป รีสอร์ทในช่วงหน้าไฮซีซั่นคนมาพักเพื่ออากาศหนาวเย็นอยู่แล้ว แต่ช่วงหน้าโลซีซั่นอากาศมันร้อน ถ้าทำสวนน้ำคนมาเยอะแน่นอน พนักงานจะได้เงินเพิ่มด้วย"
ดินพยักหน้าอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง และแน่นอนคนที่แนะนำก็ไม่พ้นหญิงสาวข้างกายของพ่อเลี้ยงคาวี ขนมผิงเป็นเด็กฉลาดและเป็นคนที่สามารถแนะนำพ่อเลี้ยงในเรื่องงานได้เป็นอย่างดี ถึงแม้เธอจะเด็กกว่ามากและใครคนอื่นมองว่าเธอเป็นแค่เด็กเลี้ยงที่เขาหลงในรูปกายภายนอก แต่จริงๆแล้วพ่อเลี้ยงมองลึกไปกว่านั้นเขาชอบทัศนคติ ความฉลาดและนิสัยของผู้หญิงคนนี้มากกว่ารูปกายภายนอก
"ขนมผิงจะฝึกงานแล้วนี่ครับ พ่อเลี้ยงให้เธอรับหน้าที่ทำไปเลยสิครับ"
"อืม ฉันจะให้ผิงจัดการเรื่องนี้ นายช่วยร่างคร่าวๆให้ฉันและประเมินราคาหน่อย ว่ามันพอสมเหตุสมผลมั้ย ถ้าเปิดแล้วต้องคิดค่าบัตรเข้าเท่าไหร่ถึงจะทำกำไรได้ และต้องเปิดนานเท่าไหร่ถึงจะได้ทุนคืนมา"
"ได้ครับ ผมให้ทีมประเมินให้"
พ่อเลี้ยงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปทันที วันนี้เขาจะไปรับขนมผิงด้วยตัวเองที่มหาวิทยาลัย เมื่อกี้ลุงรงค์โทรศัพท์มาบอกว่าหญิงสาวโทรมาให้ไปรับแล้ว
"ฉันจะไปรับขนมผิง นายกลับไร่ไปก่อน"
"ได้ครับพ่อเลี้ยง"
"อย่าลืมไปจัดการเรื่องค่าเทอมให้ผิงด้วย ไม่เกินสิ้นเดือนนี้นะ"
"รับทราบครับ"
เขาขึ้นรถหรูก่อนจะขับออกไปทันที ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงมหาวิทยาลัยของหญิงสาว พ่อเลี้ยงคาวีจอดที่ประจำเป็นปกติ ขนมผิงกำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ตรงม้านั่ง เขาเปิดประตูลงรถก่อนจะเดินตรงไปหาเธอ
"ไอ้ผิง! ผัวมารับ"
แฟนสะกิดเพื่อนให้เงยหน้าขึ้นดู ขนมผิงหันไปมองตามที่เพื่อนชี้ก่อนจะตาโตเล็กน้อย
"พ่อเลี้ยง... มาเองเหรอคะ"
แฟนยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่ก่อนจะยิ้มออกมา
"สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยงคาวี"
"สวัสดีหนูแฟน"
"จำชื่อแฟนได้ด้วย แหะๆ"
แฟนยิ้มแห้งออกมาก่อนจะดันตัวเพื่อนให้รีบลุกขึ้นกลับไปกับพ่อเลี้ยง ขนมผิงลุกขึ้นหยิบกระเป๋าหนังสือไว้ในมือก่อนจะเดินไปตรงหน้าชายหนุ่ม
"กลับยังไงให้ไปส่งมั้ย"
"ไม่เป็นอะไรค่ะพ่อเลี้ยง แฟนรอพี่ชายมารับค่ะต้องไปธุระต่อ"
"โอเค ยังไงฉันพาผิงกลับก่อนนะ"
"ตามสบายเลยค่ะ สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยง"
แฟนยกมือไหว้ผู้ใหญ่ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายเพื่อนสนิท ขนมผิงโบกมือให้เพื่อนเช่นกันก่อนจะเดินเคียงข้างไปกับชายหนุ่ม เขาเปิดประตูให้หญิงสาวเข้าไปก่อนจะเดินอ้อมแล้วขึ้นรถขับออกไปทันที
"ทำไมวันนี้ว่างมารับคะ"
ขนมผิงเอ่ยถามชวนคุยมากกว่า พ่อเลี้ยงคาวีหันมามองหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
"ก็อยากมารับเมียบ้าง นี่ก็เป็นเดือนแล้วที่ไม่ได้มาเดี๋ยวคนอื่นจะไม่รู้ว่าผิงมีเจ้าของแล้ว"
"ผิงไม่ใช่หมาซะหน่อย"
เธอยิ้มอย่างเขินอายก่อนจะกดเปิดเพลงในรถฟังแก้เขินชายตรงหน้า
"หมาที่ไหนน่ารักขนาดนี้ วันนี้จะพาไปซื้อชุดใหม่เอาแบบลุยๆเลยนะจะไปเที่ยวดอยกัน"
"ว่าแต่ไปทำเหรอคะ"
"ไปดูไม้สักนะ เห็นว่าพร้อมตัดแล้วจะไปเช็คของก่อนจะเอาไปทำบ้านที่รีสอร์ทเพิ่มนะ แล้วเหลือจะตกแต่งที่บ้านเพิ่ม ผิงอยากได้ห้องอะไรเพิ่มในบ้านมั้ย"
ขนมผิงทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้า ทำไปก็เท่านั้นที่นั่นไม่ใช่บ้านของเธอ อีกอย่างจะได้ออกไปจากที่นั่นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่ยุ่งจะดีกว่า
"ไม่อยากได้อะไรหรอกค่ะ อีกหน่อยพ่อเลี้ยงแต่งงานมีครอบครัวผิงก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว"
เธอเอ่ยออกมาเสียงเบาก่อนจะฝืนยิ้มออกมา พ่อเลี้ยงคาวีมองเด็กสาวก่อนจะยื่นมือไปลูบผมเธอด้วยความอ่อนโยน
"แล้วผิงอยากอยู่กับฉันไปตลอดมั้ย"
"ผิงทำได้ด้วยเหรอคะ"
เธอเอ่ยถามชายหนุ่มตาแป๋ว เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา
"ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ"
เขาอมยิ้มก่อนจะหันไปขับรถต่อ หญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างสงสัยในคำพูดแต่ก็ไม่ถามเซ้าซี้อะไรอีก
'แล้วเธอต้องทำยังไงถึงจะอยู่กับเขาไปตลอดล่ะ...'