บทที่2

1242 คำ
“แกจะเลือกเอง หรือจะให้ย่าเลือกให้ ย่ามีตัวเลือกให้แค่นี้” โดยปกติแล้วกานต์รับมือได้กับทุกอย่าง ยกเว้นก็แต่ผู้เป็นย่าเท่านั้น ที่เขาไม่เคยเอาชนะท่านได้เลยสักครั้ง ไม่ว่าจะใช้ความพยายามสักแค่ไหน โดยเฉพาะในครั้งนี้...ที่ท่านยื่นคำขาดให้เขามีลูก จะด้วยวิธีไหนก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น แต่แม่ของลูกจะต้องเหมาะสม ไม่ขัดต่อชื่อเสียง หรือหน้าตาทางสังคม ไม่ว่าจะเขา หรือย่าก็ตาม ย่าแค่บอกว่าอยากได้หลาน ซึ่งเขาก็ยินดีทำให้ แต่ก็ไม่คิดจะอุ้มชูอีกฝ่ายเป็นเมียออกนอกหน้า เพราะไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องทำอะไรแบบนั้นเลยสักนิด ประจวบกับที่คนสนิทนำบัญชีหนี้สินมาให้ดู ถึงได้พบว่ามีลูกหนี้คนหนึ่งในรายชื่อ ขาดส่งดอกเบี้ยมาเป็นเวลากว่าสามเดือน สืบไปสืบมาถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้ส่งคนไปเจรจากับภรรยาที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้คนสนิทถ่ายรูปลูกสาวของลูกหนี้มาให้ดู เผื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก “หม่อมเจ้าสิตาครับ ลูกสาวของนายปราบ เพิ่งเรียนจบมาจากต่างประเทศ ผมสืบมาแล้วว่าประวัติของเธอขาวสะอาด ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย หรือถ้ามี...ก็คงเกิดขึ้นที่ต่างประเทศเพราะถูกส่งไปเรียนต่อที่นั่นตั้งแต่อายุสิบเจ็ด นิสัยเรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่เหมือนแม่...” ประวัติของผู้หญิงคนนั้นถือว่าใช้ได้ทีเดียว เมื่อนำไปเทียบกับความต้องการของย่า ที่อยากได้หลานสะใภ้ที่เหมาะสมกับหน้าตาทางสังคมอันสูงส่งของท่าน อีกอย่างเขาเองก็นึกพอใจในหน้าตาของอีกฝ่ายไม่น้อย เด็กออกมาคงสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ถึงได้ตกลงเลือกหล่อนมารับหน้าที่นี้ ทีแรกคิดว่ามันจะง่าย แต่ไปๆ มาๆ กลับยากกว่าที่คิด!เพราะยิ่งปล่อยไว้นาน คนพวกนั้นก็เหมือนว่าจะยิ่งได้ใจ คงคิดว่าเขาไม่กล้าทำอะไรจริงๆ ถึงได้ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย อีกทั้งยังพากันใช้ชีวิตปกติ ออกงานสังคมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาตัดสินใจกระทำการอย่างเด็ดขาด จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างต่อลูกหนี้คนอื่นๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เอมมิกามองไปรอบๆ บ้านด้วยความตกใจ จนเมื่อพบคนที่กำลังมองหาอยู่ถึงได้รีบวิ่งเข้าไปหา ไม่คิดด้วยซ้ำว่าการที่เธอออกไปทำงานแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง บ้านทั้งหลังจะมีสภาพแบบนี้ได้ “คุณป้า นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ!” กระทั่งพบเข้ากับผู้เป็นป้าที่กลางห้องรับแขก ถึงได้เอ่ยถามพร้อมช่วยพยุงท่านให้ลุกขึ้น “จะอะไรเสียอีกล่ะ ก็พี่สาวแกน่ะสิ จนป่านนี้แล้วยังไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง มัวแต่ไปหมกอยู่กับไอ้ขี้เรื้อนนั่น!“ ทั้งๆ ที่ปัญหาของทางบ้านยังหาข้อยุติไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้ทำไมนังลูกตัวดีถึงได้ทำเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร ต่างจากนางที่เครียดจนปวดหัว! ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าจะพาครอบครัวก้าวผ่านปัญหาในครั้งนี้ไปให้ได้ด้วยวิธีไหน!เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็ไม่เห็นจะมีทางออกเลยสักทาง “ทางนั้นเขาส่งคนมาข่มขู่อีกแล้วเหรอคะ” ไม่ผิดไปจากนี้แน่ ไม่อย่างนั้นบ้านทั้งหลัง คงไม่กระจัดกระจายไปด้วยข้าวของมากมายแบบนี้ ลำพังแค่ป้าเธอทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้หรอก! “ไม่ใช่แค่นั้นนะ! ก่อนกลับพวกมันยังพากันยกแจกันจีนโบราณของฉันติดมือไปด้วย นี่ฉันจะทำยังไงดียัยเอม! แกพอจะมีเพื่อนฝูงให้หยิบยืมเงินมาสักหน่อยไหม” อย่างน้อยถ้าจ่ายดอกไปก่อน บางทีทางนั้นอาจให้เวลานางกับครอบครับเพิ่มขึ้นอีกสักนิด ก็ไหนว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีงามที่เคยมีร่วมกันมาไง! มาทำแบบนี้มันเท่ากับหยามศักดิ์ศรีกันชัดๆ แล้วนี่น่ะหรือ คือสิ่งที่นางผู้สืบสายเลือดหม่อมสมควรจะได้รับ! “ไม่มีหรอกค่ะคุณป้า เพื่อนเอมแต่ละคน ก็ลูกชาวบ้านหาเช้ากินค่ำกันทั้งนั้น” เอมมิกาตอบกลับผู้เป็นป้าอย่างจนใจ ใช่ว่าไม่อยากช่วย แต่เพื่อนของเธอแต่ละคนก็มีชีวิตลำบากไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ ครั้นจะให้แบกหน้าไปหยิบยืมมา ก็คงได้มากสุดแค่หลักพันเท่านั้น “แล้วนี่ฉันจะทำยังไงดี!” อีกฝ่ายยังคงคร่ำครวญถึงความโชคร้ายในชีวิต ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็เหมือนว่ามันจะมืดบอดไปหมด! อย่าว่าแต่หาเงินมาใช้หนี้เลย เงินในบัญชีที่มี ก็เริ่มจะหมดลงไปทุกวัน เพราะบริษัทขาดทุนมาเป็นเวลานาน อีกทั้งนางเองยังไม่มีหัวการค้า คนที่พอจะรู้เรื่องก็ดันมาด่วนชิงตายไปเสียก่อน ซ้ำยังไม่ตายไปเปล่า แต่ทิ้งหนี้สินไว้ให้ดูต่างหน้าด้วยอีก! “หรือฉันต้องตายตามลุงของแกไปอีกคน! แบบนั้นเรื่องทุกอย่างมันจะจบไหม ฉันอยากตาย ฉันอยากตายไปเสียให้พ้นๆ” อยู่ไปก็มีแต่จะอายคนเปล่าๆ ตายไปเลยเสียยังจะดีกว่าจะได้จบๆ ไป! และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย....ที่ความคิดเหล่านี้ว่ายวนเข้ามาในหัว หากไม่ติดว่าเป็นห่วงลูก กลัวว่าอีกฝ่ายอาจได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจโง่ๆ ของตัวเอง นางคงตัดสินใจทำไปนานแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องทนอยู่ให้อับอายชาวบ้านชาวช่องเขาแบบนี้! “คุณป้า! อย่าคิดแบบนั้นนะคะ เอมจะไปเจรจากับเขาเองค่ะ!” เธอทนเห็นป้าตกอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้อีกแล้ว ทนไม่ได้แล้วจริงๆ แม้จะสำนึกดีว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ทางนั้นต้องการตัวมาตั้งแต่แรก แต่ถึงจะรู้แบบนั้นก็ยังอยากลองพยายามดูสักครั้ง อย่างน้อยก็ขอให้เธอได้ลอง! “แกเนี่ยนะจะไปเจรจา น้ำหน้าอย่างแกจะไปทำอะไรได้!” ขนาดนางที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ทางนั้นมันยังตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า ประสาอะไรกับหลานสาวสามี มากสุดก็คงแค่ถูกไล่กลับมา! หากฝ่ายนั้นไม่ย้ำชัดว่าต้องการแค่เพียงลูกสาวของนางคนเดียวเท่านั้น บางทีนางอาจจะเกลี่ยกล่อมให้หลานสาวสามีไปแทน ซึ่งก็เชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าเอมมิกาจะไม่ปฏิเสธคำขอ! “เอมจะลองไปขอร้องเขาดูค่ะ เผื่อว่าเขาจะยอมให้เราผ่อนผัน คุณป้าให้เอมลองนะคะ เอมสัญญาค่ะ ว่าจะทำทุกอย่างให้เขายอมตกลงให้ได้” คำพูดนี้เองที่มันทำให้คนฟังชะงัก ซึ่งจะว่าไปแล้ว ลองดูก็ไม่ผิดนัก ในเมื่อตอนนี้นางไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ไม่มีแล้วจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม