วิวาห์รู้สึกเสียใจที่ไอเดน พูดกับเธอแบบนั้น ทั้งๆที่เธอหวังดีกับไอเดนเสมอมา ไม่เคยคิดอิจฉาด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าไอเดนคิดแบบนั้นได้ยังไงกัน
"วิวาห์อย่าไปสนใจมันเลยลูก ปากแบบนี้แหละ สาวถึงทิ้งใช่ไหม"
รัศมีพยายามที่จะชวนหลานสาวคุย เธอดูก็รู้ว่าคำพูดเมื่อกี้ของไอเดนมันทำร้ายจิตใจ วิวาห์ขนาดไหน ในวัยเด็กกับวัยผู้ใหญ่มันแตกต่างกัน ตอนเด็กแกล้งกัน โกรธกันเพียงครึ่งวันก็ดีแล้ว แต่วัยผู้ใหญ่นี่สิ ถ้าได้โกรธแล้ว กว่าจะดีเหมือนเดิมต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ดีไม่ดี ความสัมพันธ์เหล่านั้นหายไปด้วยอีกต่างหาก รัศมีเอื้อมมือไปจับมือหลานสาวที่ยืนนิ่งอยู่กับที่
"เอ่อ วันนี้น้ามีแป้ง เรามาทำขนมกันดีกว่า เสร็จแล้วก็แบ่งไปให้แม่เรากิน เดี๋ยวเย็นๆ น้าจะให้คนรถไปส่ง ดีไหม"
เธอพยายามจะเบี่ยงประเด็นไม่ให้ วิวาห์ได้คิดมาก เพราะรู้ว่าจิตใจผู้หญิงมันอ่อนไหวขนาดไหน เมื่อนึกมาแล้วก็อยากจะตบปากลูกชายเสียจริงที่ ปากหมา พูดไม่คิด
วันวิวาห์เดินตามรัศมีมาในครัว โดยที่เธอไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวดูเงียบเป็นพิเศษ ปกติแล้วเธอจะเป็นคนอัธยาศัยดีชอบพูดชอบคุย แต่เพราะประโยคของไอเดนที่ทำให้เธอเงียบได้ขนาดนี้
ไอเดนที่หนีขึ้นไปที่ห้อง เขากลับคิดเรื่องที่ วิวาห์พูด ไม่รู้ว่าจะจริงแท้แค่ไหน แต่พักนี้ กอบัว ก็เปลี่ยนไปจริงๆ และสิ่งที่วิวาห์พูดนั้น ใช่ว่าจะมีหลักฐานมายืนยัน แทนที่จะคิดถึงความรู้สึกของเพื่อน กับคิดแต่เรื่อง กอบัวทั้งนั้น ร่างสูงนั่งพิงที่โซฟาขนาดเล็กในห้อง ไม่รู้จะทำยังไงดี จนรู้สึกเบื่อเลยหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกมฆ่าเวลา แต่มันก็ช่วยได้เยอะ ไอเดนลืมเรื่องกอบัว ไปได้สักพัก ไม่รู้ว่าเวลาผ่านพ้นไปนานแค่ไหน ที่เขาสิงอยู่ในห้อง จนกระทั่งเสียงท้องร้องจึงนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ทานข้าวเช้า
จ๊อกกก
"โอ้ย แม่งลืมไปเลยว่ายังไม่ทานข้าวเที่ยงแล้วเหรอเนี่ย"
เขาบ่นขึ้นกับตัวเอง เมื่อเห็นเวลาที่หน้าจอมือถือ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากที่ พร้อมกับบิดขี้เกียจอยู่สองรอบ ก่อนที่จะเดินมาเปิดประตูห้องตัวเอง แล้วเดินลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน
"แม่ มีอะไรกินไหม ผมหิวแล้ว"
ลงมาแล้วก็ใช้เสียงเรียกแม่ รัศมีที่เตรียมอาหารอยู่ในครัวกับวิวาห์ ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองกัน ก่อนที่คนเป็นแม่จะขานรับ
"ใกล้เสร็จแล้ว นั่งรอก่อนนะคุณชาย"
รัศมีเดินนำวิวาห์มาที่โต๊ะอาหาร ที่พวกเธอทั้งสองช่วยกันจัดเตรียมมื้อเที่ยงที่เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของภาคอีสาน แต่ที่ไหนๆเขาก็กินกันนั้นคือส้มตำ
"ตำไทย ฝีมือวิวาห์"
รัศมีวางเมนูลงพร้อมเอ่ยถึงแม่ครัวร่างเล็กที่วันนี้ทั้งวันไม่มีรอยยิ้มให้เห็นเหมือนเมื่อก่อน
"นึกว่ากลับไปแล้ว"
ประโยคที่หลุดออกจากปากไอเดน ทำเอารัศมีต้องยกมือขึ้นมาฟาดที่ต้นแขนของลูกชาย พร้อมประโยคตำหนิ
"นิสัยเสีย พูดแบบนั้นได้ยังไง วิวาห์อุตส่าห์ทำเมนูที่ลูกชอบกินนะ"
"แม่ ออกไปซื้อก็ได้ป่ะ"
แค่เรื่อง ของกอบัว ไม่คิดเลยว่า ไอเดนจะพูดทำร้ายน้ำใจวิวาห์ได้ขนาดนี้ วิวาห์พยายามจะฝืนยิ้มเพราะเกรงใจรัศมี
"ช่างเขาเถอะน้า หนูไม่ใส่ใจหรอก"
"ให้มันจริงเถอะ"
ไอเดนยังพยายามที่จะพูด แถมยังเงยหน้าขึ้นมาสบตากับวิวาห์เพียงชั่วครู่ก่อนที่จะงุดหน้าลง ส่วนมื้อเที่ยงก็ถูกแม่บ้านยกมาจนเต็มโต๊ะ ชายหนุ่มไม่รอช้าเนื่องจากความหิวที่ไม่ได้ทานมื้อเช้า ทำให้รีบตักอาหารใส่ปากไม่ยั้ง ไม่เพียงเท่านั้น ตำไทยฝีมือของเพื่อนสาว ถูกตักจนหมดเกลี้ยงทำให้รัศมีถึงกับยิ้มพร้อมกับคำแซว
"กินจนหมด ยังจะออกไปซื้ออยู่หรือเปล่า"
ไอเดนชะงักคิดขึ้นได้ว่าตำไทยจานนี้เป็นฝีมือวิวาห์คนที่ใส่ร้ายแฟนตัวเองว่าคบชู้ เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองแม่ แต่ก็สายเกินจะแก้ตัว ไม่รู้ว่าความหิวหรือว่าเพื่อนสาวร่างบางทำอร่อยกันแน่ มองดูอีกทีแทบหมดจานซะแล้ว
"ที่หมดเพราะผมเสียดายวัตถุดิบหรอกนะ ใช่ว่าจะอร่อยฝีมือก็งั้นๆ นี่..วิวาห์รู้จักพัฒนาหน่อยนะตำไทยเปรี้ยวหวานถึงจะอร่อย นี่เล่นหวานนำ ใครได้เธอเป็นเมีย มีหวังเป็นโรคเบาหวานตายห่าก่อนแก่ชราแน่นอน"
พอว่าเพื่อนได้ก็รีบลุกออกจากเก้าอี้ ปล่อยให้วิวาห์อดกลั่นจนสุดขีด ถ้าหากไม่เกรงใจรัศมีละก็มีหวังไอเดน ได้โดนด่าเช่นกัน
"ไอ้ลูกคนนี้นิ นิสัยเสียจริงๆ...วิวาห์อย่าไปสนใจเลยนะลูก"
"หนูชินแล้วค่ะ"
ประโยคที่พูดเหมือนจะถนอมน้ำใจน้ารัศมี แต่ภายในใจอยากจะบอกเหลือเกินว่า ปากลูกน้าหมาแบบนี้มาตั้งแต่เกิด
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็น วันวิวาห์ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน รัศมีให้คนขับรถที่บ้านมาส่ง เพราะไอเดนยังงอนอยู่ กินข้าวเสร็จก็ขึ้นห้องตามเดิม ส่วนวิวาห์เธอรู้ว่าเพื่อนโกรธเรื่องของกอบัว แน่นอนว่าเธอจะไม่ขอโทษหรือแก้ตัวอะไรกับไอเดนทั้งนั้น ในเมื่อเธอหวังดี อีกทั้งอยากให้ไอเดนตาสว่าง แต่ไอเดนกับมองไม่เห็นความดีทำไมเธอต้องสนใจ
"อ้าว!! ทำไมคนรถของบ้านนั้นถึงมาส่งละ ไอเดนไปไหนละลูก" ทันทีที่ก้าวขาเข้าบ้านเกศราก็ถามลูกสาว
"ตายแล้วมั้งคะ!"
เธอตอบเกศราแบบนั้น แล้วก็เดินขึ้นห้อง ส่วนขนมที่ทำกับรัศมีเธอก็เอาวางไว้ที่โต๊ะ ใบหน้าสวยของลูกสาวบูดบึ้งผิดสังเกต ทำเอาเกศราอดสงสัยไม่ได้ เพราะเมื่อเช้าลูกสาวและไอเดนก็ดูปกติดี ไม่มีทีท่าว่าจะทะเลาะกันด้วยซ้ำ เกศมองตามร่างลูกสาวจนลับตาไป เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็บ่นกับตัวเอง
"ยัยวาห์เอ่ย รักเขาแท้ๆ แต่ก็ปากแข็งอยู่ได้ พออะไรนิดหน่อยก็เก็บเงียบ ไม่พ้นนอนร้องไห้จนตาบวม"
ใช่ว่าเกศราจะไม่รู้ว่าลูกสาวรู้สึกกับ ไอเดนยังไงเพียงแต่อยากจะฟังจากปากลูกมากกว่า ถึงจะแบบนั้นวิวาห์ก็ไม่ยอมปริปากบอก ถามทีไรสถานะก็คือเพื่อนกันเท่านั้น เพื่อนที่ทำให้ตัวเองกลับมานอนร้องไห้บ่อยครั้ง ถึงภายนอกวิวาห์จะต่อปากต่อคำกับไอเดนแค่ไหน แต่จิตใจก็ยังอ่อนไหวอยู่ดี