EP.8 ละอาย

1660 คำ
@AA SuperCLUB 07 : 30 PM พรึ่บ ! "จะบอกได้ยัง" พีทเอ่ยถามขึ้นเมื่อทั้งสามนั้งลงที่โซฟากลางห้อง "กูแค่อยากรู้อะไรบางอย่าง มั้นใจแล้วจะบอก" "เหมื่อนมึงจะสนใจน้องพริ้นซ์ของกูจังเลยนะ" ติณย์เอ่ยแซวและคิดสงสัยเพราะปกติแล้วก็ไม่เห็นมันจะสนใจใครแบบนี้ "หรือว่า...น้องเขาเป็น18มงกุฏขโมยของมึง มึงถึงตามมาดูกล้องวงจรปิดแบบนี้?" "คิดเยอะไปแล้วมึง" เพื่อนชายอีกคนเอ่ยเตือนดูเหมื่อนติณย์จะคิดเกินเหตุไป "กูก็ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่มันจะต้องถ่อมานี้เพื่อจะดูกล้อง ร้อยวันพันปีมันมาที่ไหน หรือว่ามึงสนใจในตัวน้องเขาจริงๆแล้วอ่ะ?" ประโยคแรกเขาหันไปบอกเหตุผลกับคนข้างๆ ถัดมาเป็นประโยคคำถามให้กับเขา "น้อง? มึงสองคนพูดว่าน้องนี้มึงรู้อะไรมา" เซนไม่สนใจในสิ่งที่เพื่อนเขาถาม แต่นึกสงสัยในคำว่าน้องที่ทั้งสองพูดออกมาเหมื่อนรู้อย่างนั้นแหละว่าเธอมีอายุที่น้อยกว่าพวกเขา และรู้ได้ยังไง ทำไมเขาไม่ยักกะรู้ "ไม่มีอะไร" ติณย์ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ "พวกมึงปิดบังอะไรกู?" ชายหนุ่มจ้องตาเขม็ง "คำถามพวกกูยังไม่เคลียร์" ว่าพลางยกแก้วน้ำขึ้นจิบ "เออ! บอกก็ได้! หลังจากไปต่อกันที่คอนโด ตื่นขึ้นมาก็ไม่พบเธอแล้ว...แต่ทิ้งโน๊ตนี้ไว้" แป๊ะ ! เซนวางโน๊ตไว้บนโต๊ะกระจกแบบไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ ตั้งแต่เห็นมันเขาก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก และมีแต่คำถามมากมายที่อยู่ในหัวของเขา "เหี้ย! เขาใจโลกสัสๆ" "ก็ดีแล้วหนิ! " "แต่ที่น่าสงสัยคือคอนโดกูระบบรักษาความปลอดภัยสูงมากต้องมีคีย์การ์ดเท่านั้นถึงจะใช้ลิฟและเข้าออกที่นี้ได้" เซนเผยสิ่งที่สงสัยอย่างแรกให้เพื่อนๆเขาฟัง "มึงกำลังคิดว่าเธอก็อาจจะพักอยู่ที่นั้น" เป็นพีทที่รู้ทันความคิด "แล้วไงว่ะ! มึงจะเสือกเรื่องน้องเขาไปทำไม ไม่สนใจไม่ใช่รึไง?" ติณย์นึกสงสัย "เออ! ไม่ได้สนเว้ย! มึงคิดดูปกติแทบจะทุกคนที่ผ่านมาก็ติดใจกูทั้งนั้น อยากจะเข้าหากู ทักทาย อยากไปต่อกับกูอีกทุกราย แต่เธอแม้งทำกูไปไม่เป็นเลยว่ะ" นั้นคือสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดสำหรับเขา "การที่มึงห่างหายไปนานจากเรื่องนี้ทำให้มึงไม่เด็ดเหมื่อนแต่ก่อนก็ได้นะเว้ย ฮ่า ฮ่า ๆ " ติณย์หัวเราะให้เพื่อนตรงหน้าเขาดูจะเสียเซลฟ์เอามากๆ "กูมั่นใจในประสิทธิภาพของกู ว่าดีพอแน่นอน" คิ้วขมวดเป็นปม สายตาจ้องมองแก้วน้ำสีอำพันในมือแกร่งมันเบาๆ ก่อนจะกระตกรวดเดียวให้หมดแก้ว "หรือไม่ เขาก็อาจเคยเจอคนที่เด็ดกว่ามึงใครจะไปรู้" ติณย์ที่เห็นเพื่อนเครียดก็ยิ่งหาคำตอบมาให้เขาเสียเซลฟ์กว่าเดิม "มึงลองอ่าน 4 บรรทัดหลังดีๆ" พีทพูดพลางวางโน๊ตตรงหน้าเขา แป๊ะ !! เซนหยิบกระดาษขึ้นมาอ่านใหม่อีกรอบ ตามคำแนะนำของพีท 'ฉันทานยาคุมรายเดือนเป็นประจำอยู่แล้ว สุดท้ายถ้าหากเราบังเอิญเจอกันอีก ขออย่าทัก และฉันก็จะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด และหวังว่าคุณก็จะทำแบบนั้นเช่นกัน' "แต่เธอไม่เคย... กูเป็นคนแรก" เซนพอจะเข้าใจในสิ่งที่พีทจะสื่อแต่มันขัดแย้งกับสิ่งที่เขาเจอ "ไหนเอามาอ่านอีกทีดิ!" พรึบ! "เออว่ะ!! ไอ้พีทมึงคิดว่าเขามีแฟนแล้วใช่ป่ะ? แต่เดี่ยวนะ ไอ้หมอมึงว่าอะไรนะ? มึงบอกว่ามึงเป็นคนแรกของเธออ่อว่ะ..." ติณย์อ่านเสร็จก็พูดทวนข้อมูลอีกที "แล้วแบบนี้เขาจะไม่มีปัญหากับแฟนเขาหรอว่ะ" ติณย์หันมาถามเขาอีกครั้ง นั้นสิ? ถ้าเธอมีปัญหากับแฟนเขาควรจะต้องรับผิดชอบรึเปล่า? แต่เธอก็เขียนออกจะชัดเจนในเจตนาของเธอขนาดนั้น เขาควรต้องทำไง? และต้องจัดการกับความรู้สึกบ้าๆ นี้ยังไง @The ZZ Condo 04 : 30 PM "ฮัดชิ้ว!! " ที่จริงวันนี้เป็นวันเริ่มงานวันแรกของฉันแท้ๆ แต่ต้องมานอนป่วยอยู่แบบนี้ทั้งวัน อาการของฉันในตอนนี้คือคอนี้เจ็บไปหมดเลยกลืนน้ำลายแทบไม่ได้ แต่ไข้เริ่มลดลงบ้างแล้วดีนะที่พอมียาพาราติดไว้บ้าง ครั้นจะไปหาหมอก็ไม่แรงไป รู้สึกว่าบ้านหมุนตั้งแต่กลับมาจากไปเอารถ จากนั้นก็ตัวร้อนทันที ครืด ครืด ครืด ~ "อืออ~" เมื่อสัมผัสได้ถึงความสั่นฉันควานหาโทรศัพท์ทั้งที่ตายังปิดอยู่มันถูกวางอยู่บนที่นอนข้างตัวฉันนี้แหละ ติ๊ด! (เป็นไงบ้างแก!) "เค้กหรอ? ก็ดีขึ้นแล้ว~" ฉันตอบกลับไปด้วยเสียงที่แหบพล่าและมันก็เจ็บคอสุดๆ (ดีอะไรละ! ฟังเสียงก็รู้แล้ว แล้วนี้ไปหาหมอหรือยัง?) "ยังเลยอ่ะ~" ฉันตอบกลับไปพร้อมลุกขึ้นหลังพิงที่หัวเตียง เมื่อลืมตาขึ้นมามองตรงไปข้างหน้าภาพที่ฉายเป็นปกติแล้วสงสัยอาการเวียนหัวบ้านหมุนคงหายแล้ว (ถ้าฉันพักอยู่ใกล้ๆแกนะ! ฉันจะลากแกไปหาหมอตั้งแต่เช้าละ!) "รู้! แกทำจริง!" ตอนนี้ฉันกับเค้กเราทำงานอยู่คนละจังหวัดซึ่งไกลกันมาก รู้แหละว่านางเป็นห่วงซึ่งฉันก็อยากไปหาหมอนะแต่มันมีสาเหตุ (แล้วนี้จะไปกี่โมง? กลัวเจอเขาแต่ไม่กลัวว่าตัวเองจะตาย...!) "ก็..." นางรู้เรื่องทั้งหมดแล้วที่ฉันไปมี one night stand กับผู้ชายคนนั้นแล้วดั้นมาอยู่คอนโดเดียวกันอีก (ไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ถ้าแกยังไม่ไป ฉันลางานไปหาแกแน่!!) "โอเค...ไปๆ เดี่ยวนี้แหละ บาย..." ติ๊ด "ไปดึกๆละกัน" ฉันจำได้ว่าเขาเป็นหมอ ถ้าไปต้องเจอเขาแน่ๆ ซึ่งฉันยังไม่พร้อมจะเจอเขามันเร็วเกินไป ไม่ใช่อะไรหรอก แค่ไม่รู้จะต้องทำหน้าแบบไหน ทำตัวต่อหน้าเขายังไงมากกว่า ถึงแม้จะเป็นคนบอกเขาให้ลืมเองก็ตามเถอะ แต่ทำไมกับตัวเองลืมไม่ได้สักทีนะ @DD Hotpital 00 : 30 AM แผนกฉุกเฉิน "ฉันคิดผิดรึเปล่าที่มาเวลานี้" ฉันพึมพำกับตัวเอง เมื่อมาเวลานี้ก็มีแต่ห้องฉุกเฉินเท่านั้นที่เปิดรับ ฉันคิดว่าจะเหมื่อนตอนกลางวันซ้ะอีก ฉันไม่รู้มาก่อนเลยเพราะไม่เคยมาโรงพยาบาลตอนดึกแบบนี้ "ขอบัตรประชาชนค่ะ เป็นอะไรมาคะ" Reception ประจำเคาร์เตอร์ถามขึ้นเมื่อฉันเดินมาถึง "เอออ~...ปวดศรีษะ เจ็บคอค่ะ~" ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่แหบพล่า ที่ฟังดูแล้วแทบไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเลย "เดินตรงไป แล้วนั้งรอในห้องนั้นนะคะ" "ขอบบคุณค่ะ~" รับบัตรคืนเรียบร้อยฉันก็เดินตรงไปตามทางจากคำแนะนำของพนักงานหญิงเมื่อสักครู่ ฟืดดดด! เมื่อเดินผ่านประตูอัตโนมัติเข้ามาทางด้านซ้ายจะเป็นทางเชื่อมกับประตูออกไปด้านนอก ส่วนทางด้านขวาน่าจะเป็นห้องที่ไว้สำหรับตรวจและรักษาคนไข้เพราะมองผ่านประตูกระจกนั้นเข้าไปก็จะพบกับเตียงผู้ป่วย บางเตียงก็มีผ้าม่านกั้น เดาได้ว่าข้างในอาจจะมีผู้ป่วยนอนรักษาอยู่ มองตรงไปด้านหน้าก็เป็นเคาเตอร์จุดคัดกรอง ฉันจึงเลือกเดินมานั้งรอฝั่งตรงข้ามที่มีเก้าอีวางเรียงกันอยู่ รอไม่นานนักก็มีเจ้าหน้าที่เดินออกมาจากภายในห้องนั้งลงที่โต๊ะไว้สำหรับคัดกรองผู้ป่วย "คุณกวีริตาค่ะ" พรึ่บ!! "ขออนุญาตวัดความดันนะคะ ป่วยเป็นอะไรมาค่ะ" "ปวดศรีษะ และเจ็บคอมากเลยค่ะ~" ฉันเพิ่มคำว่ามากให้กับอาการที่เป็นอยู่จู่ๆก็รู้สึกระอายขึ้นมายังไงไม่รู้ แกร๊กก~ "ตามคิวนะคะ เชิญนั้งรอก่อนค่ะ" หลังจากที่ตรวจวัดความดันเสร็จพยาบาลคนนั้นก็เดินเข้าไปภายในห้องฉุกเฉิน ฉันจึงเดินมานั้งลงที่เดิม ฉันนั้งอยู่ระหว่างกลางของทางเชื่อมประตูฉุกเฉินและห้องฉุกเฉิน เวลาผ่านไปไม่นานนักก็เห็นเจ้าหน้าที่เข็นเตียงผู้ป่วยเข้ามา ชายคนที่นอนอยู่บนนั้นเขาน่าจะเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้ไม่สามารเดินเองได้ เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้าก็เกิดรู้สึกละอายแก่ใจขึ้นมา ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่ผู้ป่วยฉุกเฉิน ไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลย แต่ก็เลือกที่จะมาเวลานี้ 01 : 15 AM "คุณกวีริตาค่ะ" เวลาผ่านไปนานพอสมควร ก็มีพยาบาลเดินออกมาเรียก "นั้งรอก่อนนะคะ" เมื่อฉันเดินเข้ามาภายในห้องพยาบาลคนเมื่อสักครู่ก็บอกให้ฉันนั้งลงอยู่ตรงหน้าโต๊ะที่มีคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งตั้งอยู่ ทางด้านซ้ายจะมีพยาบาลนั้งอยู่สามคน ส่วนทางด้านหลัง ก็เจอผู้ชายคนนั้นนอนอยู่บนเตียงแรก และถัดไปมีเตียงว่าง 2 เตียง และมีเตียงที่มีผ้าม่านกั้น 3 เตียงถัดจากขวามาซ้าย ด้านในน่าจะมีคนป่วยนอนอยู่แหละ พรึบ !! "เป็นอะไรมาครับ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม