Lesson of love ❤️ทวงรัก<8>เมื่อความอดทนสิ้นสุดลง

1947 คำ
นับดาวมองชายหญิงสองคนที่นั่งชิดติดกันด้วยสายตาหม่นเศร้าอยู่ในมุมหนึ่งดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอแอบรักกับหญิงสาวที่สวยมากราวกับเจ้าหญิงด้วยความเศร้าใจ ถึงพี่เก้าทัพจะเต็มไปด้วยความเย็นชาแต่กลับปล่อยให้เธอคนนั้นอิงแอบแนบชิดโดยที่ไม่ถอยหนีเลยสักนิด “เป็นปกติของผู้ชายหล่อ ๆ ที่มักจะมีผู้หญิงแวะเวียนมาแจกขนมจีบอยู่เรื่อย อย่าคิดมากเลยนะพี่ไม่ชอบเวลาที่เราเศร้าเลย” แพรววาเดินมาแตะไหล่บอบบางของนับดาวอย่างต้องการปลอบใจเด็กสาวที่กำลังมองไปข้างหน้าด้วยแววตาเศร้าหมองซึ่งเธอสัมผัสได้ว่านับดาวกำลังเสียใจ ก่อนที่นับดาวจะหันมายิ้มให้แพรววาเพื่อบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่ดวงตาที่ไร้ประกายสดใสก็บอกแพรววาว่านับดาวกำลังกลบเกลื่อนความเศร้าของตัวเองอยู่ “ทำงานต่อเถอะวันนี้วันสุดท้ายแล้วเต็มที่กัน” แพรววาตบบ่านับดาวเบา ๆ ก่อนที่จะเดินไปรับออเดอร์จากพี่คิว ส่วนนับดาวก็ทำงานอย่างไม่มีสมาธิดวงตากลมโตจับจ้องไปที่เก้าทัพตลอดเวลา เธออยากจะมองเขาเป็นภาพจำครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกแล้ว หลังจากที่ส้มหวานจากไปแล้วเก้าทัพก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวอย่างไม่รู้สาเหตุ อารมณ์ความใคร่ที่วันนี้แทบจะไร้ความรู้สึกกลับตีตื้นขึ้นมาจนเขารู้สึกแปลกใจ “เหี้ยเอ๊ย!! เวรแล้วไหมล่ะ” สบถคำหยาบคายออกมาด้วยความเจ็บใจ เหงื่อค่อย ๆ ผุดขึ้นตามกรอบหน้าทั้ง ๆ ที่อากาศภายในผับค่อนข้างเย็นจนค่อนไปทางหนาวด้วยซ้ำ เก้าทัพสะบัดหน้าไปมาสองสามครั้งเพื่อเรียกสติตัวเองก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะมากดต่อสายหาใครบางคน “เฮีย...” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าเล็กน้อยเมื่อพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ใคร่ที่กำลังปะทุขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เพราะเขาชะล่าใจไม่คิดว่าจะมีใครกล้าวางยา เขาถึงรับเหล้ามาดื่มอย่างง่ายดายโดยไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วเขาจะพลาดท่าเข้าให้ หึ นังงูพิษรอก่อนเถอะทำอะไรไว้กับเขาไว้ เขาไม่ลืมที่จะเอาคืนอย่างแน่นอน (ว่าไงเจ้าเก้า) น้ำเสียงทุ้มดังมาตามสายถามน้องชายสนิทที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ก่อนที่เก้าทัพจะบอกถึงธุระที่ตัวเองโทรมารบกวนขุนพลในเวลานี้ “ผมขอเปิดห้องชั้นสามหน่อยเฮียไม่ไหวว่ะโดนยา ขืนเดินออกไปมีหวังทนไม่ไหวได้เสียเอกราชแน่ ๆ” เก้าทัพบอกขุนพลอย่างติดตลกทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ซึมเต็มใบหน้าหล่อเหลา เพราะเขากำลังสะกดกลั้นอารมณ์ความใคร่เอาไว้อย่างสุดความสามารถ (หึ ไม่ดีหรือไงจะได้มีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที อาหมอกฤษฎิ์จะได้ดีใจที่ลูกชายมีคนมาปราบพยศ) ขุนพลพูดมาตามสายทีเล่นทีจริงอย่างอารมณ์ดีในขณะที่เก้าทัพพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้อย่างเต็มที่ ที่จะไม่พ่นคำหยาบใส่รุ่นพี่มันใช่เรื่องตลกไหมตอนนี้ “พยศเหี้ยไรล่ะเฮีย มันใช่เวลามาพูดเล่นแกล้งน้องไหมเฮีย อ๊าา” เมื่ออดทนไม่ไหวเสียงครางน่าเกลียดก็หลุดออกมาด้วยความไม่ตั้งใจก่อนที่ขุนพลจะหัวเราะออกมาอย่างขำ ๆ ปกติไม่เห็นเคยมีใครกล้าลองดีกับเก้าทัพแม้กระทั่งตัวเขาเองก็ตาม เพราะเขารู้อยู่แก่ใจดีว่าภายใต้ใบหน้าที่นิ่งและเย็นชาเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา มือที่ลั่นกระสุนโดยไม่ลังเลก็คือเด็กคนนี้่ที่เขากำลังคุยอยู่ด้วย เก้าทัพ กันต์ดนัย พิสิฐกุลวัตรดิลก (หึ โอเค ดูแลตัวเองให้ดีที่สำคัญห้ามคว้าเด็กในผับฉันทำเมียเด็ดขาดจำไว้ ส่วนห้องเดี๋ยวจะโทรไปบอกให้เด็กไปเปิดให้ตอนนี้) พูดจบขุนพลก็ตัดสายทิ้งไปทันที เก้าทัพค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นก่อนที่จะตั้งสติและพยายามเดินอย่างมั่นคงไม่ให้มีพิรุธ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเซอยู่ดี นับดาวที่มองเก้าทัพอยู่ตลอดเวลาถึงกับขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจหรือว่าพี่เก้าทัพจะเมากันนะ “นับพี่ฝากไปเปิดห้อง 309 ชั้นสามทีดิพอดีพี่ปวดหนักอะทนไม่ไหวแล้ว” ป๋องรุ่นพี่ในร้านยัดกุญแจใส่มือนับดาวที่เลิ่กลั่กด้วยความตกใจก่อนที่ป๋องจะวิ่งไปทางห้องน้ำที่อยู่หลังร้านทันที เด็กสาวมองกุญแจอย่างชั่งใจก่อนที่จะรีบเดินขึ้นบันไดไปชั้นสามของผับทันที ชั้นนี้ห้ามใครขึ้นมา เพราะเป็นโซนห้องพักของเฮียขุนพล แม้กระทั่งเธอก็เพิ่งจะเคยขึ้นมาครั้งแรก นับดาวเดินตามหาห้อง 309 ตามที่ป๋องบอก เมื่อเจอห้องสาวน้อยก็รีบเสียบกุญแจเปิดประตูห้องทันที ก่อนที่จะตกใจจนตัวแข็งทื่อเมื่อมือใหญ่ของใครบางคนค้ำประตูห้องเอาไว้ทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ได้เปิดประตูออก ปัง!! นับดาวตั้งสติพยายามบอกตัวเองให้นิ่งเข้าไว้ก่อนที่ใบหน้าสวยหวานจะค่อย ๆ หันกลับไป ก็เจอกับเก้าทัพที่ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยเหงื่อเต็มกรอบหน้า “พะ พี่เก้า พี่เก้าเป็นอะไรคะ” นับดาวถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะยื่นมือไปเพื่อหวังจะเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาให้ แต่กลับถูกเก้าทัพจับมือเอาไว้ สาวน้อยถึงกับชะงักไปที่เก้าทัพไม่ยอมให้เธอเช็ดเหงื่อให้เขา “ออกไป” น้ำเสียงทุ้มต่ำบอกนับดาวอย่างพยายามข่มอารมณ์ความอยากที่กำลังเล่นงานเขาเมื่อกลิ่นตัวหอม ๆ ลอยมาเข้าจมูก ยิ่งได้กลิ่นหอมความใหญ่โตที่พยายามข่มเอาไว้ก็ยิ่งพองตัวขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนรู้สึกเจ็บปวดไปหมดทั้งลำ “ตะ แต่ว่าพี่เก้า” นับดาวแย้งเก้าทัพอย่างไร้เดียงสา ในใจนึกห่วงเก้าทัพจนไม่สามารถก้าวขาออกไปจากหน้าห้องที่ยังคงมีกุญแจเสียบคาลูกบิดเอาไว้ได้ เก้าทัพที่เห็นแบบนั้นถึงกับตวาดออกมาเสียงดังลั่นเพื่อไล่เด็กสาวออกไปให้ไกลที่สุดก่อนที่เขาจะหมดความอดทน “พี่บอกให้นับออกไปไม่ได้ยินหรืออย่างไร ออกไป” น้ำเสียงเย็นชาที่ตวาดใส่หน้าเธอทำเอานับดาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความเสียใจ เธอเป็นห่วงเขา แต่เขากลับปฏิเสธความห่วงใยของเธออย่างไม่ไยดีแล้วเธอจะทนให้เขาใจร้ายใส่เธออีกต่อไปทำไม น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินออกไปจากหน้าห้องทันที เก้าทัพหลับตาลงอย่างรู้สึกผิดที่พูดจาทำร้ายจิตใจนับดาวด้วยถ้อยคำที่รุนแรงแบบนั้น แต่จะให้เขาทำอย่างไรได้ ถ้าเขาไม่พูดแบบนั้นนับดาวคงไม่ยอมจากไปและสุดท้ายแล้วเขาอาจจะทนไม่ไหวลากเธอเขาห้องเพื่อสนองความใคร่ของตัวเองอย่างแน่นอน ปัง เก้าทัพปิดประตูห้องเสียงดังลั่นก่อนที่จะตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วเปิดฝักบัวราดหัวตัวเองทันทีเพื่อขับไล่ความร้อนรุ่มที่เขากำลังเผชิญอยู่ค่อย ๆ คลายลง แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งโดนน้ำมากเท่าไรความต้องการในอารมณ์ใคร่ก็ยิ่งลุกฮือมากขึ้นเท่านั้น “แม่งเอ๊ย!!” เก้าทัพทุบกำปั้นลงบนผนังห้องน้ำเสียงดังด้วยความเจ็บใจก่อนที่จะยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความทรมานปวดร้าวจนแทบคลั่ง แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยืนนิ่ง ๆ ปล่อยให้สายน้ำที่ไหลลงมาชโลมกายเขาให้เย็นลงบ้าง แกรก นับดาวที่ตอนแรกตัดใจเดินจากไปด้วยความน้อยใจที่เก้าทัพตวาดไล่เธอ แต่สุดท้ายสาวน้อยก็ทนเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ไหวที่สั่งให้เธอกลับมาดูเก้าทัพอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง “พี่เก้าคะ” นับดาวร้องเรียกเก้าทัพเสียงเบาด้วยความเป็นห่วงเมื่อไม่เห็นเขาอยู่ในห้องแต่เสียงน้ำที่ไหลกระทบพื้นทำให้เธอรู้ว่าเขาอยู่ในห้องน้ำ แต่ทำไมเขาถึงไม่ขานตอบรับเธอล่ะ ร่างบางรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำที่ประตูเปิดทิ้งเอาไว้และเมื่อเธอเห็นเก้าทัพในสภาพที่เปียกโชกไปทั้งตัวแบบนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปดึงเก้าทัพให้ออกมาจากใต้ฝักบัวทันที “พี่เก้าทำอะไรคะ ทำไมเปียกไปทั้งตัวแบบนี้” นับดาวลูบไปตามเนื้อตัวที่เปียกโชกของเก้าทัพด้วยความเป็นห่วงอย่างไร้เดียงสา แต่ร่างกายแข็งกร้าวและร้อนผ่าวที่ถูกมือนุ่ม ๆ สัมผัสยิ่งทำให้ความปรารถนาที่ไม่สามารถสะกดกลั้นเอาไว้ได้ลุกฮือขึ้นมาจนเกินต้านทาน พลั่ก เสียงแผ่นหลังบอบบางกระทบกับผนังห้องน้ำเสียงดังก่อนที่สองหนุ่มสาวจะสบตากันภายใต้สายน้ำที่ไหลรินรดทั้งคู่จนเปียกโชกไปหมดทั้งตัว ชุดทำงานของนับดาวเปียกจนเสื้อแนบไปกับร่างกายทำให้หน้าอกอวบใหญ่ภายใต้เสื้อยืดปรากฏแก่สายตาของเก้าทัพ “พี่บอกว่าให้เราออกไปแล้วทำไมถึงยังกลับมาอีก” น้ำเสียงแหบพร่าถามนับดาวที่ตัวสั่นสะท้านด้วยความเหน็บหนาวภายใต้สายน้ำที่ยังคงไหลลงมากระทบร่างของเธอไม่ขาดสาย “นับ นับเป็นห่วงพี่ทัพ” เด็กสาวสารภาพออกมาจากความรู้สึกที่อยู่ก้นบึ้งของหัวใจดวงตากลมโตที่สบประสานกับเก้าทัพบอกว่าเธอเป็นห่วงเขาอย่างจริงใจก่อนที่เก้าทัพจะหลับตาลงช้า ๆ เพื่อตัดสินใจว่าเขาจะผลักไสเด็กสาวคนนี้ออกไปนอกห้องหรือรั้งเธอไว้เพื่อปลดปล่อยความใคร่ที่ใกล้จะระเบิดออกมาเต็มทน “แล้วรู้ไหมว่าถ้ากลับเข้ามาแล้วจะไม่ได้กลับออกไปอีก” ในวินาทีสุดท้ายเก้าทัพก็ตัดสินใจ ไฟราคะกำลังลามเลียไปทั่วร่างกายของเขาจนความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหลงเลือนหายไปจากใจจนหมดสิ้น “มะ หมายความว่าอย่างไรคะ” เด็กสาวถามเก้าทัพที่จ้องหน้าเธออย่างไม่เข้าใจในความหมายของเก้าทัพก่อนที่เก้าทัพจะแสยะยิ้มร้ายออกมา รอยยิ้มนั้นทำเอานับดาวถึงกับนิ่งไป เพราะเธอไม่เคยเห็นเก้าทัพยิ้มแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้งตั้งแต่ที่รู้จักกันมา “หึ หมายความว่าอย่างนี้ไงสาวน้อย” พูดจบก็ฉกวูบลงบนกลีบปากนุ่มสีชมพูพีชด้วยความกระหายอยากในความใคร่ที่เขาอดกลั้นต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ดวงตากลมโตของนับดาวเบิกกว้างด้วยความตกใจอย่างคาดไม่ถึงว่าพี่เก้าทัพจะจูบเธอ ก่อนที่เธอจะหลับตาปี๋กับจูบแรกที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวและเขา... พี่เก้าทัพของนับดาวคือคนที่ได้มันไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม