“นับพี่มาแล้ว” เสียงของแพรววาที่ตะโกนอยู่หน้าบ้านทำเอานับดาวที่กำลังกินมื้อเย็นก่อนไปทำงานรีบตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากแล้วหยิบกระเป๋าสะพายข้างใบเก่า ๆ ขึ้นสะพายทันที
“นับดาวไปก่อนนะจ๊ะแม่จ๋า เลิกงานแล้วลูกสาวคนนี้จะรีบกลับบ้านทันทีเลยจ้ะ”
นับดาวบอกปรานีที่ยิ้มให้ลูกสาวด้วยความเอ็นดูก่อนที่ร่างบางจะวิ่งดุกดิกออกไปหาพี่สาวข้างบ้านคนสวยที่เปิดประตูรถรอเธออยู่ที่หน้าบ้าน แพรววาเรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกับที่นับดาวได้ทุนเรียนต่อ แต่ค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงทำให้แพรววาเลือกที่จะทำงานพาร์ตไทม์ที่ผับของขุนพลช่วงปิดเทอมเพื่อหาเงินไว้ช่วยแบ่งเบาภาระของบิดามารดา
แพรววาขับรถยนต์มือสองคันเล็ก ๆ ที่เธอเก็บหอมรอบริบจนสามารถที่จะซื้อด้วยตัวเองได้มารับนับดาวทุกวัน สองสาวไปทำงานพร้อมกันและกลับด้วยกันทุกวัน เพราะแพรววารับปากแม่ปรานีเอาไว้แล้วว่าจะดูแลนับดาวให้ดีที่สุด
“อาทิตย์หน้าก็เปิดเทอมแล้วนะตื่นเต้นไหมเรา” แพรววาถามนับดาวที่ดวงตาทอเป็นประกายสุกใสเมื่อพูดถึงเรื่องเปิดเทอม นับดาวเลือกที่จะเรียนคณะบัญชี เพราะเป็นคณะที่เป็นที่ต้องการของตลาด เมื่อเรียนจบไปแล้วเธอก็อยากจะมีงานทำไว ๆ จะได้มีเงินส่งอ้อมใจกับเอื้ออารีน้อง ๆ ทั้งสองคนให้ได้เรียนสูง ๆ
“ตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะพี่แพรวจากเด็กมัธยมก้าวสู่นักศึกษามหาวิทยาลัยคิดทีไรก็อดตื่นเต้นไม่ได้ทุกที”
นับดาวบอกแพรววาถึงความรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อคิดว่าเธอกำลังจะได้เข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วยรอยยิ้ม ทำเอาแพรววาอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามออกมาอย่างนึกเอ็นดูนับดาวเด็กสาวที่เธอรู้จักมาตั้งแต่เด็กไม่ได้ สาวน้อยช่างสดใสบริสุทธิ์เสียจนเธอหวังว่าโลกใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลากหลายประเภทจะไม่มีใครทำให้เด็กสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่องคนนี้ต้องแปดเปื้อน
“อาทิตย์หน้ารู้กัน ปะไปทำงานกัน” พูดจบแพรววาก็ออกรถทันทีก่อนที่จะขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อเดินทางไปทำงาน นับดาวนั่งยิ้มพร้อมกับฮัมเพลงคลอกับเสียงวิทยุบนรถอย่างมีความสุข
ถึงเธอจะเกิดมาเป็นเด็กกำพร้าไร้พ่อขาดแม่ แต่ชีวิตความเป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีมากแล้วสำหรับเธอ
Dark devil Pub
ร่างสูงของใครบางคนที่เดินควงกุญแจรถเข้ามาในผับเรียกสายตาสาว ๆ ที่มาหาความเบิกบานสำราญใจในค่ำคืนนี้ได้เป็นอย่างดี ใบหน้าหล่อร้ายที่ติดจะเย็นชาปรายตามองสาว ๆ ที่พากันเมียงมองมายังเขาอย่างเชิญชวนราวกับอากาศธาตุ ถึงเขาจะกินเงียบ กินดุก็จริง แต่ผู้หญิงทุกคนต้องจบความสัมพันธ์กับเขาแค่เพียงคืนเดียวเท่านั้น เพราะคนอย่างเขาไม่ชอบกินซ้ำและยังไม่พร้อมที่จะมีพันธนาการรักกับใครทั้งนั้น
“เดินเข้าผับมาทีสาว ๆ มองเต็มเลยว่ะ” ดาร์คอดที่จะแซวเก้าทัพไม่ได้เมื่อสายตาเชิญชวนจากทั่วทุกสารทิศต่างพุ่งเป้ามาที่เพื่อนรักที่หน้าตาดีราวกับเทพบุตรอย่างเพื่อนเขา ที่กำลังนั่งลงบนโซฟาพร้อมทั้งเบือนหน้าหนีสาว ๆ ที่ยกแก้วเหล้าอย่างเชิญชวนทำเอาสาว ๆ เหล่านั้นถึงกับส่งยิ้มเก้อ
“ขนาดหน้าตาดูไม่ค่อยเอนจอยแต่สาว ๆ ก็พร้อมจะเข้ามาจอยกับมันเพียบนับถือ ๆ จริง ๆ” พอร์ชก็เข้าร่วมวงแซวเก้าทัพอีกคนก่อนที่เก้าทัพจะยกเหล้าขึ้นมาเทใส่แก้วเพียว ๆ แล้วกระดกเหล้าขึ้นดื่มอย่างไม่รู้สึกรู้สากับรสชาติขมบาดคอของเหล้าเลยสักนิด
“เพียวแต่วันเชียวนะคุณชายเก้า” ดาร์คแซวเพื่อนยิ้ม ๆ อีกครั้งแต่เก้าทัพก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ได้ตอบโต้เพื่อนแต่อย่างใด
เขาชอบที่จะนั่งดื่มเงียบ ๆ เสียมากกว่า สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบ ๆ ก็เจอสาวสวยมากมายที่พากันทิ้งสายตาเพื่อชวนเชิญเขาให้ไปต่อในค่ำคืนนี้ มุมปากหนายกยิ้มเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะดึงสายตากลับมาหาเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“มองอะไรกันหนักหนาวะ” เก้าทัพว่าให้เพื่อนทั้งสองที่จ้องหน้าเขาไม่หยุดก่อนที่ทั้งสองคนจะยักไหล่น้อย ๆ พร้อมกันอย่างกวน ๆ
“มองคนหล่อไง” พอร์ชเป็นเจ้าของคำตอบนั้นก่อนที่เก้าทัพจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเพื่อนทั้งสองคน เขานั่งดื่มโดยที่ไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนาแต่อย่างใดก่อนที่มือจะคว้าโดนเพียงน้ำเย็นไร้ซึ่งน้ำแข็ง เขายกถังที่มีเพียงน้ำเปล่าบอกเพื่อนเพียงแค่นั้นพอร์ชก็เข้าใจในทันที
“นับจ๊ะเอาน้ำแข็งไปเสิร์ฟโต๊ะ VIP 5 ที”
คิวยื่นถังน้ำแข็งให้นับดาวที่รับมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะเดินไปโซนที่มีเสียงเพลงเปิดคลอเบา ๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบบรรยากาศของความวุ่นวาย เดินไปจนถึงโต๊ะก็รีบตรงดิ่งเข้าไปวางถังน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ผู้ชายรูปร่างดีที่หันหน้าออกไปอีกทางก่อนที่พยายามจะยื่นมือหยิบถังน้ำแข็งเปล่าที่อยู่ข้าง ๆ ผู้ชายคนนั้นที่พี่ ๆ ในโต๊ะไม่ยอมหยิบมายื่นให้เธอเพื่อนำกลับไปด้วย
อยู่ ๆ ดาร์คก็นึกสนุกขึ้นมาแกล้งขัดขานับดาวเบา ๆ ทำเอานับดาวถึงกับเสียหลักล้มลงไปข้างหน้าเก้าทัพที่หันมาพอดี เขารีบรับร่างบางเอาไว้ด้วยความตกใจเมื่อใครบางคนโดนเพื่อนเขาแกล้งจนล้มลงมาใส่เขาที่รีบคว้าเอวบางมานั่งบนตักทันที กลิ่นแป้งเด็กที่แสนคุ้นเคยโชยมาเข้าจมูกทำเอาเก้าทัพถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
“อะ เอ่อ ขะ ขอโทษค่ะขอโทษ นับดาวไม่ได้ตั้งใจ”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนขอโทษผู้ชายที่เธอกำลังนั่งอยู่บนตักอย่างรู้สึกผิดก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมอง ภายใต้ความมืดที่มีเพียงแสงสว่างจากไฟประดับดวงน้อย ๆ ดวงตากลมโตของนับดาวเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเมื่อผู้ชายที่เธอล้มลงมานั่งบนตักคือพี่เก้าทัพพี่ชายใจดี
เก้าทัพเองก็ดูจะตกใจไม่น้อยที่ผู้หญิงในอ้อมกอดของตัวเองคือนับดาว ทั้งสองคนต่างจ้องมองกันและกัน หนึ่งคนสายตาเต็มไปด้วยความคิดถึงคนึงหาอีกคนเต็มไปด้วยความแปลกใจ ดาร์คที่เห็นแบบนั้นถึงกับยิ้มออกมาน้อย ๆ กับจังหวะนัยน์ตาสื่อรักของหนุ่มสาวทั้งคู่
“อืม บางทีรับบทเป็นผีผลักนี่ก็ดีเหมือนกันนะ” ดาร์คพูดขึ้นมาลอย ๆ แต่มันกลับทำให้หนุ่มสาวทั้งคู่ได้สติเก้าทัพกระแอมไอออกมาอย่างเก้อ ๆ ในขณะที่นับดาวก้มหน้างุดด้วยความเขินอายก่อนที่จะค่อย ๆ ขยับตัวลงจากตักนุ่มที่เธอรู้สึกเสียดายความอบอุ่นนั้นไม่น้อย
“นับดาวขอโทษนะคะพี่เก้าทัพ เอ่อ นับดาวไม่ได้ตั้งใจอยู่ ๆ ก็สะดุดล้มลงไปก็เลย เอ่อ แหะ แหะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยบอกเก้าทัพที่แอบอมยิ้มเล็กน้อยส่วนดาร์คกับพอร์ชถึงกับมองหน้ากันอย่าง-งง ๆ ที่เก้าทัพรู้จักกับเด็กสาวหน้าตาน่ารักมากคนนี้
“ไม่เป็นไรครับ เพื่อนพี่มันแกล้งเราน่ะ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษเรา”
น้ำเสียงนุ่มละมุนตอบกลับนับดาวก่อนที่จะหันไปมองหน้าดาร์ค อย่างคาดโทษ แต่ดาร์คกลับไม่ได้สนใจเพื่อนเลยสักนิด เพราะตอนนี้เขารู้สึกตกใจเก้าทัพในโหมดที่กำลังตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เป็นผู้หญิง น้ำเสียงหวานละมุนที่ตอบสาวน้อยหน้าหวานคนนี้ก็ฟังดูจั๊กจี้หูชอบกลดาร์คไม่ชินเลยกับโหมดเสียงหวานรื่นหูของเพื่อน
“นับดาวทำงานที่นี่เหรอคะ” ประโยคคำถามที่แสนน่ารักแลดูสุภาพเรียบร้อยทำเอาพอร์ชที่กำลังกระดกเหล้ามองหนุ่มสาวทั้งคู่เงียบ ๆ ถึงกับเหล้าแทบพุ่งด้วยความระคายหู เมื่อเก้าทัพลงท้ายประโยคอย่างน่ารักกับน้องสาวคนสวยที่กำลังยืนยิ้มหวานให้เพื่อนของเขาอยู่
“ใช่ค่ะนับดาวมาทำงานพาร์ตไทม์ระหว่างที่รอเปิดเทอม” น้ำเสียงสดใสร่าเริงตอบเก้าทัพดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเธออย่างมีความสุข หลังจากวันนั้นเธอก็รอคอยที่จะพบเจอเขาเสมอมาและสุดท้ายแล้ววันนี้เขาก็มา แต่ยังไม่ทันที่จะได้คุยกันต่อแพรววาที่มาเสิร์ฟเหล้าโต๊ะข้าง ๆ ก็เดินมาตามนับดาวที่กำลังยืนคุยกับเก้าทัพให้กลับไปทำงาน
“ถ้าอย่างนั้นนับดาวขอตัวก่อนนะคะ อ้อ ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะคะพี่เก้าทัพ” สาวน้อยจำใจบอกลาผู้ชายที่แอบซ่อนเอาไว้ลึกสุดของหัวใจด้วยความเสียดายก่อนที่เก้าทัพจะพยักหน้ารับช้า ๆ นับดาวยกมือโบกลาเก้าทัพพร้อมรอยยิ้มหวานก่อนที่จะเดินควงแขนแพรววาออกไปทันที
“ใครอะ รู้จักกันเหรอ” หลังจากที่นับดาวจากไปแล้วพอร์ชก็ขยับเข้ามาถามเพื่อนรักที่ยังคงยิ้มกว้างมองตามแผ่นหลังบอบบางของนับดาวด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่เก้าทัพจะยิ้มกว้างมากกว่าเดิมและหันมาพ่นคำหยาบใส่หน้าพอร์ชจนหน้าสั่น
“เสือก” คำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ ที่คนฟังถึงกับเบะปากด้วยความเซ็งแต่ถึงอย่างนั้นพอร์ชก็ไม่เซ้าซี้ เพราะถ้าหากเก้าทัพอยากเล่าพวกเขาไม่ต้องรบเร้าให้เสียเวลา เมื่อถึงเวลาเก้าทัพจะเปิดปากออกมาเองโดยที่ไม่ปิดบังพวกเขาเลยสักนิดและครั้งนี้ก็เช่นกันพวกเขาคงได้แต่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
เก้าทัพนั่งดื่มเงียบ ๆ อย่างอารมณ์ดี ใบหน้าหล่อประดับไปด้วยรอยยิ้มที่ดูจะเป็นภาพที่หายากมากสำหรับสาว ๆ ที่พากันมองผู้ชายใบหน้าหล่อเหลายิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์
เด็กสาวคนนั้นทำงานที่นี่แบบนี้เขาคงต้องมาเที่ยวที่นี่ทุกวันเสียแล้วสิ หึหึ