"เดี๋ยว..วาเดี๋ยวก่อน"
หมับ!
วาทยาวางจินนี่ลงก่อนจะหันไปคุยกับเขา
"อย่ามาพูดอะไรต่อหน้าเด็ก"
วาทยาหันมาทำเสียงเข้มใส่หมอธันวา บุคลิคสีหน้าอารมณ์ของเธอตอนนี้ต่างกับห้าปีที่แล้วมาก เธอไม่ใช่เด็กใสๆคนนั้นอีกต่อไป
"ได้..งั้นพรุ่งนี้เรามาเจอกันหน่อยมั้ย?"
"วาไม่ว่างค่ะ และก็ไม่อยากเจอคุณด้วย"
วาทยาเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกชื่อเขาแทน
"ทำไมพาแฟนกลับมาด้วยเหรอ?"
"ขอตัวก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวก่อน...วาทยา"
"อย่าทำร้ายคุณแม่หนูนะคะคุณลุง"
จินนี่น้อยยืนขวางไว้ประหนึ่งว่าจะเป็นฮีโร่ปกป้องแม่ของตัวเอง วาทยาถึงกับตกใจที่จินนี่มีอาการอย่างนั้นถึงอย่างไรเธอก็ไม่อยากให้จินนี่เกลียดผู้เป็นบิดาแท้ๆของเธอ
"จินนี่คะ คุณลุงไม่ได้จะทำอะไรคุณแม่ค่ะ"
"ใช่ค่ะ..ลุงไม่ได้จะทำอะไรคุณแม่ ลุงแค่อยากคุยกับคุณแม่ของจินนี่แต่คุณแม่ของจินนี่ไม่ยอมคุยกับลุงดีๆ"
"คุณแม่คะ จริงๆหรือเปล่าคะ ที่คุณแม่ไม่ยอมคุยกับคุณลุงดีๆ"
เด็กน้อยเปลี่ยนข้างทันที วาทยาถึงกับถอนหายใจที่เขามาไม้นี้
"อืม แล้วไหนคุณพ่อหนูล่ะคะ"
หมอธันวาถามเด็กน้อยเสียงอ่อนหวาน วาทยาถึงกับชะงักมองเขาอย่างไม่พอใจทันทีที่เขาถามจินนี่ออกมาแบบนี้
"นี่คุณ!"
หมอธันวากำลังใช้แผนหลอกถามจินนี่ เขามองเธออย่างเอาเรื่องพอๆกัน
"คุณพ่อของหนูอยู่เมืองไทยนี่แหละค่ะ คุณแม่บอกว่าคุณพ่อทำงานไม่ว่างมาเจอหนู หนูไม่เคยเจอคุณพ่อ"
หมอธันวาได้ยินแบบนั้นถึงกับอึ้งไป เขาเริ่มแน่ใจว่าจินนี่คือลูกของเขาเพราะดูจากช่วงเวลาจนถึงตอนนี้ แถมหน้าตาเด็กน้อยอีกแกะเขามาอย่างกะคนคนเดียวกัน
"วาทยา จินนี่คือลูกของพี่ใช่มั้ย?"
หมอธันวาถามออกมาตรงๆ
"ก็แค่เด็กใจแตกคนหนึ่งที่ตั้งท้องไม่มีพ่อ แถมผู้ชายก็ไม่ได้รัก..ไปกันเถอะจินนี่"
"วาทยา!"
วาทยาไม่ฟังเขาอีกต่อไปเธออุ้มลูกขึ้นมาและเดินจากไปอย่างไว ตอนนี้หัวใจเธอกำลังเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องเก่าๆ หมอธันวามองตามร่างเพรียวที่อุ้มเด็กน้อยจากไป
"พี่ไม่ยอมหรอกนะวาทยา! "
เขาตะโกนตามหลังวาทยาไปด้วยความรู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียบางอย่าง นึกไม่ถึงว่าวาทยาจะมองเขาอย่างไร้เยื่อใย เรื่องลูกอีกเขามั่นใจว่าเด็กคนนั้นคือลูกของเขาอย่างแน่นอน เพราะตอนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน แต่ ตอนนี้เหมือนเขาเสียเธอไปแล้วจริงๆ ในหัวใจของเธอคงจะเกลียดเขาไปแล้ว
หมอธันวาได้แต่คิดสับสนในใจ ตอนวาทยาไล่ตามขอความรักจากเขา เขาก็ไล่เธอไปแต่พอตอนนี้เธอทำเหมือนว่าไม่ต้องการเขาอีกต่อไป แต่ ทำไมในหัวใจของเขาถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้
-ฝั่งวาทยา-
ระหว่างที่นั่งด้วยกันอยู่บนรถจินนี่ก็เอาแต่จ้องหน้าผู้มารดา
"สรุปก็คือจินนี่ไม่ได้กินไอศกรีม"
เด็กหญิงตัวน้อยบ่นขึ้นมาพร้อมกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างขัดใจเธอสุดๆ
"เอาเถอะที่บ้านในตู้เย็นมีทั้งเยอะ"
"เพราะคุณลุงคนนั้นคนเดียวเลย จินนี่เกลียดคุณลุง"
"จินนี่พูดอะไรแบบนั้นออกมาคะลูก"
วาทยาถึงกับตกใจที่ลูกสาวพูดออกมาแบบนั้น เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
"คุณลุงหมอคนนั้นคือพ่อของลูก เพราะฉะนั้นแล้วลูกไม่ควรพูดแบบนี้อีก"
"คุณพ่อเหรอคะ? คุณลุงคือพ่อของจินนี่จริงๆเหรอคะคุณแม่"
จินนี่เอ่ยออกมาด้วยความดีใจ เธอเป็นเด็กที่ฉลาดช่างพูดช่างจา และกล้าแสดงออกเพราะว่าเธอเติบโตมาจากเมืองนอก
"ใช่ค่ะ เพราะอย่างนั้นแล้วห้ามลูกเกลียดคุณพ่อ"
"งั้นเรากลับไปหาคุณพ่อกันเถอะนะคะ"
"เอาไว้วันหลังดีกว่า"
"คุณแม่งอนคุณพ่อใช่มั้ยคะ โอเคงั้นจินนี่จะรอให้คุณแม่หายงอนคุณพ่อก่อนค่ะ"
วาทยาถึงกับยิ้มออกมาที่ได้ยินลูกสาวพูดออกมาแบบนั้น แต่ มันไม่ใช่แค่งอนสิลูกเอ้ย แม่ไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้ให้ลูกเข้าใจได้อย่างไรดี
1 อาทิตย์ต่อมา
-โรงพยาบาล-
วันนี้วาทยามาตามหมอนัดติดตามอาการเนื่องจากวันก่อนที่เธอมาพบหมอไปแล้วรอบหนึ่ง
"เชิญค่ะ คุณวาทยา"
หลังจากที่นั่งรออยู่ไม่นานพยาบาลก็เดินมาเรียกเข้าพบคุณหมอ
"ค่ะ"
หญิงสาวเปิดประตูเข้าไปในห้อง และนั่งลงบนเก้าอี้
"สวัสดีครับคุณวาทยา"
เขาเปิดแมสออกวาทยาถึงกับตกใจเล็กน้อยที่เจอเขาอีกแล้ว
"คุณ!"
"ครับพี่เอง เลิกเรียกว่าคุณสักที แต่ก่อนเรียกอย่างไรก็แบบนั้นเถอะครับ"
"ทำไมมาอยู่โรงพยาบาลล่ะคะ?"
วาทยาถามออกมาอย่างแปลกใจ เพราะเธอจำได้ว่าเขาเป็นเจ้าของคลินิก
"ห้าปีผ่านไปอะไรๆมันก็เปลี่ยนไปบ้าง ก็เหมือนวาที่เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน"
"รีบตรวจเถอะค่ะ"
วาทยาตัดบทเพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาอีก ตอนนี้เธออยากจะไปให้พ้นหน้าเขาทันทีที่เจอกัน
"ตอนนี้ยังมีอาการเวียนหัวอยู่มั้ยครับ"
"ตอนนี้ไม่มีอาการอะไรแล้วค่ะ"
"อืม...น่าจะเกิดจากพักผ่อนน้อยและก็กินข้าวไม่ตรงเวลา เสร็จแล้วครับเดี๋ยวรับยาบำรุงก็กลับกัน ไปเถอะ"
หมอธันวาลุกขึ้นทันทีแถมยังคว้าข้อมือของเธอให้ลุกตามเขาไปด้วย
"ไปไหนคะพี่หมอ?"
วาทยาขัดขืนไม่ยอมไปด้วย
"พี่มีเรื่องจะคุยกับวา อยากจะให้เรื่องมันดังทั้งโรงพยาบาลเลยเหรอ พี่อุตส่าห์ลงมาตรวจวาด้วยตัวเองคิดว่าพี่ว่างมากถึงกับมานั่งประจำห้องตรวจในโรงพยาบาลของตัวเองหรือยังไง?"
พูดพรางจูงวาทยาออกไปจากห้องตรวจทันที พยาบาลที่ยืนอยู่ถึงกับทำหน้างง
"ผมจะออกไปข้างนอกนะครับ วันนี้ไม่เข้าแล้ว"
"แล้วคนไข้ล่ะคะคุณหมอ?"
"อ่อ คนนี้ภรรยาผมเองเดี๋ยวผมจัดการเองได้ครับ"
พยาบาลถึงกับพากันตื่นตะลึงมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะคุณหมอธันวารูปหล่อเจ้านายของพวกเธอไม่เคยประกาศบอกใครว่ามีภรรยาหรือว่าแฟนมาก่อน
"พี่หมอ ไปโกหกพยาบาลแบบนั้นได้ยังไงกันคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน"
"ไม่ได้มีอะไรกันแต่มีลูกออกมาคนนึงแล้ว พี่ไม่ใช่ปลากัดนะถึงได้จ้องตากันแล้ววาท้องได้เอง"
"พี่หมอ!"
"มากับพี่ดีๆไม่ต้องขัดขืนอะไรทั้งนั้น"
"ไปไหนคะ?"
"คอนโด"
"วาไม่ไป"
"จะไปดีๆหรือว่าจะให้อุ้มไป จะได้ประกาศให้โลกรู้กันไปเลยทีเดียว"
วาทยาหันไปมองรอบๆที่ตอนนี้เริ่มมีคนหันมามองกับการยื้อยุดฉุดกระชากแล้ว เธอเลยสงบนิ่งเดินตามเขาไปดีๆ เพราะไม่อยากเป็นเป็นข่าว เธอจำได้ว่าเขาฮอตขนาดไหนทั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ความฮอตของเค้าก็ยังเหมือนเดิม