จะใจอ่อนบ้างมั้ย

1305 คำ
-ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง- หมอธันวาในชุดกางเกงขากระบอกเล็กสีพื้นเสื้อยืดสีขาว ทรงผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนถูกปล่อยลงมาปรกหน้า ร่างสูงโปร่งมายืนกอดอกเด่นสง่าอยู่ต่อหน้าวาทยาหญิงสาวมองเขาตาค้าง "ว้าว!โอปป้ามาก.." วาทยาเผลอหลุดปากพูดออกมาและยังคงมองหมอธันวาตาค้างไปอีก เพราะไม่เคยเห็นเขาในมุมสบายๆหล่อๆแบบนี้ "แฮ่มๆ" "อ่ะ..คะ" "จะไปกันได้ยัง?" หมอธันวาต้องจำใจออกไปกับเจ้าหล่อนเพราะดูท่าถึงอย่างไรวาทยาก็ไม่ยอมกลับแน่ๆ และอีกอย่างถ้าอยู่ในห้องกันสองต่อสองไม่รู้จะหลุดอะไรออกมาอีก "ตกลงไปเหรอคะ?" "อืม..." "พี่หมอคะ เมื่อกี้วาไม่ได้เห็นอะไรเลยนะคะ จริงๆ" "จะพูดเพื่อ" หมอธันวาหน้าแดงก่ำเมื่อโดนย้ำถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ แต่เขายังคงตีหน้านิ่งแม้ว่าตรงใบหูนั้นจะแดงไปหมดแล้วก็ตาม "จะไปไหน?" "ไปเดินสยามกันมั้ยคะ?" "คนเยอะ" "ไปเถอะค่ะ...วาทยาคนนี้จะปกป้องพี่หมอเอง" หน้าขาวผ่องนั้นยิ้มจนตาหยีแก้มป่องน่ารักจนเขาอดที่จะใจสั่นไม่ได้ แถมคำที่วาทยาเอ่ยออกมาแต่ล่ะคำทำเอาเขารู้สึกดีถึงแม้จะรู้ว่าเธอจะพูดเล่นก็ตาม 11:00 น. "ไหนว่าไปสยาม" "ก็นี่ไงคะแถวสยาม" "ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างถนนนี่อ่ะนะ" วาทยาพาหมอธันวามานั่งกินก๋วยเตี๋ยวร้านธรรมดาๆริมถนน อากาศร้อนมากถึงจะมีพัดลมเปิดให้ก็เถอะ 'นี่หล่อนเป็นคุณหนูแบบไหนกัน' หมอธันวาแอบคิดบ่นหญิงสาวในใจ "ไปเดินในสยามก็ไม่สนุกสิคะ ถ้าเกิดเจอแฟนคลับพี่เข้า" "อืม! ลองออกมานั่งดูแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พี่ไม่เคยมานั่งแบบนี้เลยกลัวไม่สะอาด" "ไม่จริงค่ะ สะอาดและก็อร่อยมากด้วยลองชิมสิคะ?" หมอธันวาลองตักก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าขึ้นมาชิมอย่างกล้าๆกลัว แต่พอได้ลิ้มรสชาดแค่นั้นแหละ เขารีบยัดคำต่อไปตามเข้ามาอีก เพราะว่าอร่อยกว่าที่เขาคิดไว้มาก วาทยามองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกว่าหมอธันวาน่ารักและก็หล่อดูดีมาก และรู้สึกว่าภายใต้สีหน้าที่เย็นชานั้นกลับซ่อนแรงดึงดูดและความอบอุ่นแปลกๆไว้ข้างใน เธอไม่ชอบเหล่าผู้ชายชีกอที่ตามมาจีบเธอเป็นแถวในมหาวิทยาลัยเพราะมีแต่คบไม่ได้ทั้งนั้นยกเว้นผู้ชายตรงหน้า แบบนี้แหละที่ตนตามหามานานแสนนานเขาคือคนในอุดมคติของเธอ เพราะฉะนั้นเธอถึงได้ยอมทุ่มสุดตัวเพื่อตื้อเขา "อร่อยใช่มั้ยคะ?" "ก็อร่อยดี" หมอธันวาพูดออกมาขณะที่หยิบแก้วน้ำมาดูด อร่อยมันก็อร่อยอยู่หรอกแต่ทว่าตอนนี้เขาร้อนมากๆจนเหงื่อเริ่มแตกพลั่ก 30 นาทีผ่านไป ทั้งคู่เดินเคียงคู่กันออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวริมถนนเพื่อจะไปต่อกันที่อื่น ทว่าทันใดนั้น! สายตาของวาทยาเหลือบไปเห็นเด็กน้อยคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่บนถนนที่รถกำลังจะมา "ตาหนูระวัง!" วาทยารีบวิ่งเข้าไปชาร์จตัวเด็กน้อยไว้ทันทีอย่างไม่คิดชีวิตเพราะรถกำลังวิ่งมาอย่างไว ตุ๊บ! ร่างของหญิงสาวล้มลงกลิ้งลงบนฟุตบาทบนทางเท้าแต่เด็กน้อยปลอดภัยดีอยู่ในอ้อมกอดของวาทยาที่ปกป้องเอาไว้ "น้องวา!" หมอธันวารีบวิ่งตามมา เพราะเมื่อสักครู่วาทยาวิ่งผละมาอย่างไว พ่อแม่ของเด็กวิ่งตามมาอุ้มเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้จ้าอยู่ในตอนนี้ "ขอบคุณมากๆเลยค่ะคุณ ขอบคุณค่ะ และขอโทษด้วยที่ทำให้เจ็บตัวค่ะ พอดีลูกของน้าวิ่งมากะทันหัน" "ไม่เป็นไรค่ะ ฝากดูแลน้องดีๆนะคะ วากลัวครั้งหลังจะไม่โชคดีแบบนี้" "ค่ะๆขอโทษอีกครั้งนะคะ" วาทยาอดที่จะตำหนิพ่อแม่ของเด็กไม่ได้ที่ปล่อยให้เด็กน้อยคลาดสายตามาอยู่บนถนนแบบนี้มันอันตรายมากๆ "เป็นยังไงบ้าง?" เสียงทุ้มต่ำของหมอธันวาถามขึ้นพร้อมๆกับช่วยพยุงวาทยาลุกขึ้น "ไหนพี่ดูหน่อย" หมอธันวาสำรวจไปทั่วเรือนร่างของวาทยาเพื่อหาร่องรอยการบาดเจ็บ "โอ้ย! เจ็บตรงข้อศอกค่ะ" "ไหนดูสิ อ่า! เลือดไหลออกมาน่ะ สงสัยจะถลอกไปโรงพยาบาลกันเถอะ" "ไม่ไปค่ะ นิดหน่อยเอง" "งั้นกลับห้องไปทำแผลกัน เจ็บมากมั้ย ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะพี่...." หมอธันวาจะเอ่ยคำว่าเป็นห่วงออกมาแต่ว่าหยุดไป วาทยาที่รอฟังอยู่ถึงกับผิดหวังเพราะกำลังรอฟังว่าหมอธันวาจะเอ่ยอะไรออกมา "ไปกันเถอะ ขาละเจ็บมั้ย?" "อื้อ!ไม่ค่ะ" วาทยาส่ายศีรษะไปมา ในขณะที่กำลังสำรวจขาของตัวเอง หมอธันวามองหญิงสาวด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้ตัว เขาคาดไม่ถึงว่าวาทยาจะเป็นคนที่ดีมากๆแบบนี้ เธอไม่ใช่สวยแค่หน้าตาแต่จิตใจของเธอก็สวยมากๆทำให้ความรู้สึกประหลาดบางอย่างเกิดขึ้นมาในใจของเขาทันทีอย่างเผลอไป "สรุปวันนี้ก็พอแค่นี้นะ ค่อยมาใหม่วันหลัง" น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูอ่อนโยนจนวาทยานึกแปลกใจ "วันหลังอีกเหรอคะ พี่หมอจะมากับวาอีกใช่มั้ย?" "ถ้าทำตัวดีๆก็จะพามา" หมอธันวาไม่ได้บอกว่าภายในสองสามวันนี้ได้เวลาที่เขากำลังจะไปออกค่ายแพทย์อาสาที่เชียงใหม่ 'จะใจอ่อนบ้างมั้ยนะ?' นึกถามเขาในใจแต่ก็ไม่วายอมยิ้มออกมาในขณะที่หมอธันวาช่วยพยุงเธอเดินไปที่รถอย่างอ่อนโยน ความรู้สึกอบอุ่นมันบังเกิดขึ้นมากลางใจของเธอและแผ่ซ่านไปทั่วทั้งกายใจ -คอนโดหมอธันวา- "โอ้ย! เบาๆค่ะมันเจ็บ" "พี่ไม่ได้มือหนักซะหน่อย ไม่เห็นจะเก่งเหมือนตอนวิ่งเอาตัวเองไปรับอันตรายเลย" เขายังคงบ่นเธออย่างต่อเนื่องในขณะที่มือกำลังคีบสำลีทายาให้เธออยู่ "ถ้าวาไม่วิ่งไปช่วย น้องคงจะโดนรถชนวาคงจะไม่สบายใจมากๆถ้าเป็นแบบนั้น" "อืม คราวต่อไปก็เสี่ยงให้มันน้อยหน่อย" "เป็นห่วงวาเหรอคะ?" หมอธันวาเงียบไปไม่พูดอะไรตอบเธออีก ในขณะที่กำลังเก็บของเข้ากล่องใส่ยาเหมือนเดิม "เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้าน" "วากลับเองก็ได้ค่ะ" "พี่ไปส่ง!" หมอธันวาไม่ฟังยังคงยืนกรานไปส่งเธอ สายตาคมกล้าคู่นั้นจ้องวาทยานิ่งดั่งกับว่านี่คือคำสั่งอย่าขัดเขา แต่ทว่าเมื่อสายตาประสานสายตาหัวใจข้างในของทั้งคู่กลับเต้นแรง เพราะดวงตาล้ำลึกสีนิลนั้นเปล่งประกายความอ่อนโยนออกมาอย่างที่วาทยาไม่เคยเห็นมาก่อน หญิงสาวเบนสายตาหลบหนีเขา เพราะไม่อาจสู้สายตาคู่นั้นได้อีกแล้ว แก้มร้อนผ่าวกลับเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อง หมอธันวามองออกว่าเธอกำลังเขินอายเขาอยู่ เขาได้แต่แอบยิ้มอยู่ภายในใจต่อหน้าของเธอเขายังคงตีหน้านิ่งสนิทไม่แสดงอะไรออกมามาก 'เป็นอะไรไปวะเรา ทำไมมองยัยตัวแสบสวยขึ้น?'
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม