คมเดชขับรถจากรีสอร์ตของตนมาส่งแพรพลอยที่กรุงเทพ ตลอดเส้นทางเป็นระยะเวลาเกือบสองชั่วโมงต่างฝ่ายก็ต่างนั่งเงียบกันมาในรถตลอดทางจนรถแล่นมาใกล้จะเข้าเขตกรุงเทพฯ แพรพลอยจึงพูดบอกคมเดชขึ้นว่า
"ถึงกรุงเทพฯ แล้ว คุณจอดรถหน้าห้างให้ฉันนะฉันจะลงแล้วเรียกรถแท็กซี่เข้าบ้านเอง"
"ผมจะไปส่งให้ถึงบ้าน"
"แต่ฉันจะแวะซื้อของก่อน"
"ซื้ออะไร ยาคุมฉุกเฉินเหรอ"
"ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันได้ไหม ฉันบอกให้จอดก็จอดเถอะ"
"ไม่ ผมจะไปส่งให้ถึงบ้าน เรื่องยาคุมไม่ต้องซื้อหรอกเพราะถ้ามันอยู่ในช่วงที่คุณไข่ตกเจ้าลูกอ๊อดของผมมันคงเจาะไข่แดงคุณเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ถึงกินก็คุมไม่ทันหรอกมันเลยเวลามาแล้ว ทำไมคุณไม่รู้ไม่เคยเรียนมาเหรอ"
"เออ คุมไม่ได้แล้วก็ไม่ต้องคุม ฉันคงไม่ซวยซ้ำซวยซ้อนท้องกับคุณหรอก" แพรพลอยพูดขึ้นทำให้คมเดชที่ได้ฟังก็ถึงกับหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ
"ทำไมท้องกับผมเนี่ยมันถือเป็นความซวยของคุณขนาดนั้นเลยเหรอวะ"
"ใช่ ซวยตั้งแต่ต้องมาเสียตัวให้คุณแล้วแหละ จอดรถด้วยฉันจะเรียกแท็กซี่เข้าบ้านเอง"
"ไม่จอด ผมจะเข้าไปส่งคุณที่บ้านจะได้ไปแนะนำตัวกับว่าที่พ่อตาแม่ยาย อย่าลืมสิว่าผมเป็นว่าที่พ่อของหลานพวกท่านเชี่ยวนะ"
"ไอ้คนบ้า คุณยังไม่รู้จักพ่อฉันดีถ้าไม่อยากตายเร็วอยากมีชีวิตสำเริงสำราญทำเรื่องชั่วๆ ไปอีกนานๆ ล่ะก็ฉันแนะนำคุณเลยนะอยู่ให้ห่างพ่อฉันไว้ แล้วฉันกับคุณก็ตกลงกันแล้วนะว่าเราจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดและไปใช้ชีวิตของตัวเอง คุณลืมแล้วเหรอ"
"ไม่ลืม แต่คุณก็ยังมีโอกาสท้องลูกของผมอยู่"
"เออ แต่ตอนนี้ยังไม่ท้องเว้ย จอดรถสิฉันจะลง"
"ผมจะไปส่ง"
"ไปไม่ได้ ฉันไม่อยากให้พ่อฉันเห็นคุณ คุณอย่าทำให้เรื่องที่มันยุ่งยากกับฉันอยู่แล้วให้มันยิ่งยุ่งยากเข้าไปอีกได้ไหม คุณอยากให้พ่อฉันเอาปืนมายิงหัวคุณทิ้งนักหรือไง"
"ผมก็แค่จะไปส่งคุณที่บ้านเองนะ"
"ฉันไม่เคยพาผู้ชายเข้าบ้าน พ่อฉันไม่ชอบเข้าใจไหม"
"คุณเป็นห่วงผมเหรอ พ่อคุณท่าทางจะหวงลูกสาวมากเลยนะ ก็อย่างว่าแหละเมียผมออกจะสวยเสียขนาดนี้" คมเดชยิ้มออกมาและพูดชมเมียของตัวเอง
"ฉันไม่ใช่เมียคุณ" แพรพลอยพูดสวนกลับไปทันที
"เออ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ เอากันจนน้ำแทบจะท่วมเตียงแต่ไม่ใช่เมีย หรือผมให้เกียรติคุณมากไปต้องเรียกคุณว่าคู่นอนหรือเปล่า" คมเดชพูดถามออกไปด้วยความโกรธขึ้นมาเป็นริ้วๆ
"แล้วปกติคุณเรียกผู้หญิงที่นอนด้วยทุกคนว่าเมียคุณหรือเปล่าล่ะ" แพรพลอยถามออกไปด้วยความโมโหด้วยเช่นกัน
"ก็เปล่า ปกติผมซื้อกินแต่สำหรับคุณผมได้ฟรีเลยคิดว่าจะให้เกียรติเรียกว่าเมีย"
"ไอ้ทุเรศ จอดรถเดี๋ยวนี้นะ" แพรพลอยยกมือขึ้นตีคมเดชและโวยวายให้คมเดชจอดรถ
"หยุดโวยวายนะพลอย เดี๋ยวรถได้พลิกคว่ำตายหรอก" คมเดชพูดเตือนสติ แพรพลอยจึงหยุดทุบตีเพราะคิดได้ว่าตนเองไม่ควรต้องมาตายกับคมเดช ยังมีแม่และคุณป๋าที่รอแพรพลอยกลับบ้านไปหาอยู่
"แล้วทำไมคุณถึงเลี้ยวมาทางนี้ ฉันบอกให้คุณส่งฉันที่หน้าห้างแถวปิ่นเกล้าไง" แพรพลอยถามออกไปเมื่อเห็นว่าคมเดชเลี้ยวรถเข้าเส้นราชพฤกษ์แทนที่จะไปส่งตนเองแถวปิ่นเกล้า
"ก็มาส่งคุณที่บ้านไงเล่า"
"คุณรู้ได้ไงว่าบ้านฉันอยู่ไหน"
"ผมรู้ยันบ้านเลขที่ก็แล้วกัน คุณเป็นเมียผมนะ"
"ไอ้... จอดเลยจอดหน้าฟู้ดวิลล่าก็ได้ฉันจะเรียกแท็กซี่เข้าบ้าน วันนี้วันอาทิตย์คุณป๋าฉันอยู่บ้าน" แพรพลอยบอกคมเดช
"ก็ได้ ว่าแต่พ่อคุณอยู่บ้านแล้วทำไม คุณกลัวพ่อคุณจะเอาปืนมายิงหัวผมตายข้อหาเจาะไข่แดงคุณงั้นเหรอ แหมผมดีใจจังที่คุณเป็นห่วงผัวอย่างผมด้วย" คมเดชค่อยๆ ชะลอรถและพูดไปปากก็ยกยิ้มอย่างพึงพอใจที่ได้พูดยั่วหาเรื่องแพรพลอยได้
"เปล่า ฉันไม่ได้กลัวคุณตาย คุณตายๆ ไปได้น่ะดีแล้ว แต่ที่ฉันกลัว ฉันกลัวคุณป๋าจะรู้เรื่องของฉันแล้วท่านจะเสียใจผิดหวังในตัวฉันต่างหากเล่า" แพรพลอยพูดบอกและขยับตัวจะลงจากรถแต่คมเดชกลับดึงแขนเรียวเอาไว้
"ผมกลับไปทำงานก่อนนะ แต่เรื่องของเราผมไม่ยอมให้จบลงแบบนี้หรอก ไว้คุยกันนะผมจะทักมาหาคุยด้วยบ่อยๆ ถ้าคุณมีอะไรก็โทรหาผมนะพลอย" คมเดชบอกแพรพลอยแต่แพรพลอยกลับไม่พูดว่าอะไรในใจก็คิดว่า
"ลาขาดฉันไม่มีวันมาเจอคุณอีก ไอ้คนฉวยโอกาส"
"อือ เปิดท้ายรถด้วยกระเป๋าฉันอยู่ท้ายรถคุณ" แพรพลอยรับคำให้มันพ้นๆ ไป คมเดชจึงกดปุ่มเปิดท้ายรถแต่ก่อนที่แพรพลอยจะลงไปจากรถคมเดชก็ดึงแพรพลอยมากอดไว้พร้อมกับพูดขึ้นว่า
"อย่าลืมนะโทรหาผมด้วยนะพลอย" คมเดชพูดขึ้นน้ำเสียงดูอาลัยรักส่วนแพรพลอยก็ถึงกับนั่งตัวแข็งแต่ก็ยอมพยักหน้ารับ หวังแค่ว่าทำยังไงก็ได้ขอให้คมเดชได้ปล่อยตัวเองกลับบ้านก่อน
"อือ" แพรพลอยรับคำส่งๆ ไป
เมื่อแพรพลอยกลับมาถึงบ้านก็ทำตัวปกติเหมือนเพิ่งกลับจากไปเที่ยว ทักทายพ่อแม่แล้วก็ขออนุญาตขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบน
ส่วนคมเดชเองก็โทรหาคนงานที่รีสอร์ตให้ปิดบ้านพักของเขาไว้โดยห้ามไม่ให้ใครเข้าไปวุ่นวาย ไม่ให้เข้าไปเก็บกวาดทำความสะอาดอะไรทั้งนั้น เขาต้องการเก็บบรรยากาศในห้องไว้ให้เป็นเช่นเดิม หลังจากโทรสั่งคนงานเสร็จคมเดชเองไม่ได้เข้าไปรีสอร์ตอีกเลยเพราะเขาไปพักอยู่บ้านพักนายตำรวจ หลังจากไปทำงานอยู่หลายอาทิตย์คมเดชก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากแพรพลอยเลยจนวันนี้เขาได้เข้ากลับไปที่บ้านพักของเขาที่รีสอร์ตอีกครั้ง
"นายไม่เข้ามาที่รีสอร์ตหลายอาทิตย์เลยนะครับ" อองโจลูกน้องคนงานชาวพม่าซึ่งเป็นคนสนิทที่ช่วยดูแลรีสอร์ตให้คมเดชอยู่พูดขึ้นเมื่อผู้เป็นนายกลับมาถึง
"เออ ว่าแต่มีใครเข้ามายุ่งที่บ้านพักฉันหรือเปล่า" คมเดชถามอองโจ
"ไม่มีครับนาย ผมแค่ให้แม่บ้านเข้าไปเก็บจานชามมาล้าง ส่วนที่นอนและในห้องน้ำไม่ได้ให้เข้าไปวุ่นวายตามคำสั่งของนายเลยครับ"
"อือ นายจะไปทำงานก็ไปเถอะฉันจะไปนอนพักหน่อยเมื่อคืนอยู่เวรทั้งคืนยังไม่ได้นอนเลย" คมเดชบอกลูกน้องแล้วเดินเข้าบ้านพักไปหยุดนั่งลงบนเตียงนอนใหญ่
"พลอย ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ตอบไม่ติดต่อกลับหาผมเลย แล้วอยู่ดีๆ ก็มาปิด Facebook หนีผมไปเสียอย่างนั้น" คมเดชพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเสร็จแล้วก็เดินกลับมาใส่เสื้อกล้ามไปล้มตัวลงนอนบนที่นอนอีกครั้ง
"พลอยผมคิดถึงคุณ" คมเดชพูดขึ้นอีกมือก็ไล้ไปบนที่นอนที่ยังคงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายสวยของแพรพลอยที่ยังหอมติดที่นอนอยู่ คมเดชกวาดสายตามองพื้นที่นอนที่ยังมีร่องรอยของเลือดสาวพรหมจรรย์ผสมกับคราบน้ำรักที่เปื้อนติดผ้าปูที่นอนอยู่ จึงยกยิ้มน้อยๆ อย่างรู้สึกภูมิใจและคิดถึงแพรพลอยมากเหลือเกิน คมเดชกวาดมือสัมผัสที่นอนไปเรื่อยๆ มือก็ไปโดนชิ้นผ้าผืนน้อยเข้าจึงดึงมันขึ้นมาดู
"พลอย รู้หรือเปล่าว่าพี่คิดถึงพลอยมากขนาดไหนยังจะทิ้งของชิ้นนี้ไว้ให้พี่คลั่งอีกหรือ" คมเดชพูดขึ้นในมือก็กำอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วของแพรพลอยไว้ ภาพจำในคืนนั้นตอนที่ตนเองกำลังแทรกกายนำพาตัวตนเข้าไปสำรวจภายในกลีบเนื้อนางหลังจากที่เขาเป็นคนดึงอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วนี้ออกได้หลั่งไหลเข้ามาในมโนสำนึกของคมเดชเป็นฉากๆ
"พลอย โอ๊ยกูไม่ไหวแล้วเว้ย" คมเดชพูดและลุกขึ้นยืนในมือก็กำอันเดอร์แวร์ตัวสวยนั้นไว้แล้วเดินเร็วๆ เข้าไปจัดการกับความต้องการของตัวเองในห้องน้ำ
ฝั่งของแพรพลอยนั้นช่วงนี้อยู่ในช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดเทอม แพรพลอยอยู่ว่างๆ จึงไปช่วยงานแม่ที่ร้านเพชรร้านทอง โดยไปช่วยแม่ขายของและดูแลลูกค้าที่ร้าน
"พลอยลูก เหนื่อยหรือเปล่ามาช่วยแม่ที่ร้านทุกวันเลย ตอนกลางคืนยังนั่งออกแบบเครื่องประดับอีก ยายวิวบอกแม่ว่าคุณหนูพลอยของนางนอนดึกทุกวันเพราะนั่งออกแบบเครื่องประดับจนดึกดื่นเที่ยงคืนก็ไม่หลับไม่นอน แม่ว่าพลอยดูผอมลงไปนะลูก" คุณโนรีแม่ของแพรพลอยถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
"พลอยไม่เหนื่อยหรอกค่ะ มาอยู่ร้านกับแม่ก็ดีนะคะพลอยจะได้มีอะไรทำ ไม่ต้องคิดมากฟุ้งซ่านแม่อย่าไปฟังพี่วิวเขาเยอะเลยรายนั้นเขาเด็กอนามัยนอนเร็วตื่นเช้า" แพรพลอยยิ้มบอกแม่ของตนเอง และแอบว่าพี่เลี้ยงของตนเองด้วยโทษฐานที่เอาเรื่องนอนดึกมาฟ้องแม่
"แล้วพลอยจะคิดมากฟุ้งซ่านเรื่องอะไรล่ะลูก ไหนมีอะไรจะเล่าให้แม่ฟังหรือเปล่า" คุณโนรีถามลูกสาวเสียงตื่นด้วยความเป็นห่วงลูกในทันที
"เอ่อ คือว่าพลอย พลอยไม่มีอะไรจะเล่าแม่หรอกค่ะ พลอยก็พูดไปอย่างนั้นแหละ พลอยหมายถึงปิดเทอมแล้วมันว่างเลยฟุ้งซ่านอยากหาอะไรทำก็แค่นั้นค่ะแม่" แพรพลอยรีบตอบแม่ไปน้ำเสียงอึกอักกลัวแม่จะจับได้ว่าตนเองมีเรื่องที่ปิดบังแม่ไว้ จะให้แม่พลอยเล่าแม่ได้ยังไงว่า ตนเองเครียดคิดมากกลัวจะท้องกับคนที่เพิ่งเจอหน้ากันแค่วันแรกแล้วไปมีอะไรกับเขา ทุกคืนก็นอนไม่หลับเพราะคิดถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้นไม่เคยลืมทั้งๆ ที่แพรพลอยอยากลืมมันมากที่สุด
หลังจากกลับจากกาญจนบุรีคราวนั้นแพรพลอยก็เก็บเนื้อเก็บตัว ออกจากบ้านก็มาร้านเพชรกับแม่เท่านั้น ไม่ได้ออกไปเจอเพื่อนๆ เลย และเป็นเพราะปิดเทอมด้วยเพื่อนๆ ในกลุ่มก็เลยพากันกลับบ้านต่างจังหวัดจะมีก็แต่นิ้วนางที่โทรมาชวนออกไปเดินห้างบ่อยๆ แต่แพรพลอยก็ไม่ได้ออกไปอ้างกับเพื่อนว่าต้องอยู่ช่วยแม่ที่ร้าน แต่เหตุผลจริงๆ ที่ไม่ยอมออกไปแพรพลอยกลัวนิ้วนางจะถามถึงเรื่องที่แพรพลอยกลับบ้านก่อนในคืนนั้น อยากให้เพื่อนทุกคนเข้าใจว่าที่บ้านส่งรถไปรับเพราะตนเองป่วย เมื่อเพื่อนๆ ทุกคนเข้าใจไปตามนั้นแล้วก็ไม่อยากให้ใครพูดถึงหรือถามถึงเรื่องนี้อีก แพรพลอยอยากลืมมัน ให้มันเป็นแค่ฝันร้ายของแพรพลอยเท่านั้น