กลางดึกคืนนั้น...
เสียงกุกกักดังมาจากในครัวศิลาที่เดินออกมายืนฟังห้องของหลานชายก็รีบเดินลงมาดูจึงได้เห็นว่าหลานชายกำลังช่วยหลานสาวนอกสายเลือดทำอาหารดึกป่านนี้มันใช่เวลากินหรือไงกัน ศิลาเดินเข้ามาเงียบๆทำให้เจ้าขาหันมามองด้วยความตกใจ
“ว้ายย คุณอา!” หัวใจแทบจะหล่นไปที่ตาตุ่มมาไม่ให้สุ่มให้เสียงเลย
“ทำอะไรกัน!” ผมเดินมาดูใกล้ๆในหม้อนึ่งใบเล็กมีไข่ตุ๋นที่กำลังฟูกลิ่นหอมๆของไข่ที่ใส่เครื่องปรุงทำให้ท้องของผมมันโครกครากเหมือนกัน
“คุณนทีอยากทานไข่ตุ๋นค่ะ หนูเลยมาทำให้คุณอาทานด้วยกันไหมคะหนูจะได้ตักข้าวเผื่อ” ศิลาพยักหน้าจากนั้นก็เดินมานั่งหัวโต๊ะแต่ตัดมาที่นทีตอนนี้หน้าเป็นตูดไปเลย อาการเหมือนเด็กโดนแย่งขนมอุตส่าห์หาเรื่องให้เจ้าขาออกมาจากห้องแท้ๆดันมีก้างขวางคอชิ้นใหญ่นั่งอยู่หัวโต๊ะอีก
“อร่อยดี เธอนี่ทำอาหารเก่งจังเลยนะเจ้าขา” นทีเอ่ยชมต่อหน้าคุณอาที่ทานเงียบๆอยู่หัวโต๊ะส่วนเจ้าขาก็ทานเรียบร้อยจริงๆ
“ขอบคุณค่ะ”
“เจ้าขาเลือกได้หรือยังว่าจะเรียนคณะอะไร” ศิลาหันมาถามหลานสาวนอกสายเลือดเธอจึงเงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตากลมๆของเจ้าขาดูมีประกายวิบวับชวนหลงใหลทำให้ศิลาตกอยู่ในภวังค์ทุกครั้งที่ได้มอง
“คงเรียนบัญชีค่ะอยากทำงานเกี่ยวกับการเงิน” เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้มทำให้ศิลายิ้มรับอย่างลืมตัว
“ผมก็จะเรียนบัญชีเหมือนกัน อนาคตต้องมาดูแลผับให้พ่อไหนจะงานที่โกดังอีกเรียนหมออย่างอาก็คงไม่ไหวอาจจะลืมมีดไว้ในท้องคนไข้ก็ได้ฮ่าๆๆ” นทีพูดขบขันทำให้เจ้าขาต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อหัวเราะ ทุกการกระทำกิริยาของเจ้าขามันช่างถูกจริตของศิลาจริงๆ
วันต่อมา...
วันนี้ศิลามีเคสฉุกเฉินด่วนจึงไม่ได้อยู่ทานข้าวแต่ก็รีบยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มตามด้วยขนมปังที่เจ้าขาเตรียมเอาไว้ ก่อนจะไปก็เผลอวางมือไว้บนหัวของเจ้าขาแล้วโยกเบาๆ ใบหน้าที่ขาวใสกับมีเลือดฝาดขึ้นมาทันที
“อยู่บ้านอย่าดื้อนะรู้ไหมเดี๋ยวบ่ายๆจะรีบกลับมากินข้าว” เจ้าขาพยักหน้ารับจากนั้นศิลาก็รีบวิ่งออกไปขึ้นรถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว
เมื่อเจ้าขาหันกลับมาก็เจอคุณนทีเดินลงมาด้วยอาการงัวเงีย มาถึงก็เดินเข้าไปหาของกินในครัวเลย
“วันนี้มีโจ๊กใส่เห็ดหอมกับไข่ลวก คุณนทีจะรับอะไรเพิ่มไหมคะ” เจ้าขายิ้มให้นทีทำให้นทีเคลิ้มไปกับรอยยิ้มของเธอ จนอยากจะเก็บเธอไว้คนเดียวไม่ให้ใครได้มอง
“ไม่ล่ะ มีอะไรฉันก็กินได้ทั้งนั้นแหละ” นทีมองสาวน้อยที่กำลังตักโจ๊กใส่ถ้วยพร้อมกับไข่ลวกให้ตนก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ผู้หญิงที่เรียบร้อยแถมยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนแบบนี้ถ้าไม่รีบตะครุบไว้จะหาจากไหนได้อีก
“วันนี้ไปเที่ยวห้างเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมเจ้าขา ฉันจะไปหาซื้อหนังสือเธอก็ควรจะหาอ่านบ้างนะ มหาลัยที่เราสองคนจะได้ไปเรียนมีแต่คนเก่งๆทั้งนั้น”
เจ้าขาพยักหน้ารับเพราะเธอก็อยากไปหาซื้อหนังสือเหมือนกันเมื่อเช้าพึ่งจะได้เงินค่าแรงที่ไปทำมาสองวัน วันละ350 สองวันก็เป็น700 น่าจะพอซื้อหนังสือสักเล่มนึง
ห้าง P J
นทีพาเจ้าขาเดินมาชั้นสองเพื่อเข้ามาดูหนังสือแต่เจ้าขาดันลืมบอกคุณศิลาเอาไว้อีกทั้งยังไม่ได้พกโทรศัพท์มาอีก บัตรกดเงินถูกถอนออกมา500฿ จากนั้นเจ้าขาก็เดินเข้าไปดูหนังสือพร้อมนที ทั้งสองช่วยกันเลือกหนังสือตามที่นทีได้หาข้อมูลมาบ้าง
เมื่อได้หนังสือแล้วนทีก็ดึงออกจากมือของเจ้าขาเพื่อไปจ่ายเงินให้เจ้าขาจึงปฏิเสธแต่นทีไม่ยอม บัตรเครดิตสีทองของศิลาถูกหลานชายฉกมาเมื่อคืนวันนี้นทีเลยรูดมันอย่างลืมตัว ทั้งของกิน ของใช้ อีกทั้งยังพาเจ้าขาเข้าโรงหนังครั้งแรกในชีวิตของเธอ สาวน้อยดูตื่นเต้นมากๆที่ได้เข้ามาเห็นของจริง
อีกด้าน...
ศิลาออกจากห้องผ่าตัดมาก็เจอสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับจากริต้าละหลานชายแต่ก็เลือกที่จะโทรกลับไปหาหลานชายก่อน สองสายก็ไม่ยอมรับจึงกดโทรหาหลานสาวนอกสายเลือดซึ่งก็ไม่มีการตอบกลับเหมือนกัน
“แปลก ๆ” ชายหนุ่มไลน์ไปหาทั้งสองจนลืมโทรกลับหาแฟนสาวที่โทรมาเลย เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็นรถซุปเปอร์คาร์ที่จอดเอาไว้อย่างทะนุถนอม คงไม่พ้นฝีมือหลานชายแน่ ๆ
“คุณศิลาเด็กๆออกไปกันตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ” ป้าผึ้งรีบเดินออกมาบอกข่าวด้วยรอยยิ้มแต่มันทำให้ศิลาหงุดหงิดจนต้องโทรหาทั้งสองใหม่
“ไปไหนทำไมไม่ยอมบอก พึ่งจะสอนไปหยก ๆ!!” ความหงุดหงิดของศิลาทำให้ป้าผึ้งต้องเดินออกมาดู แต่พอเห็นหน้าเจ้านายก็รีบถอยหลังกลับทันที ถ้าเกิดบอกไปว่าทั้งสองคุยกันกระหนุงกระหนิงคงโดนด่าจนจำทางเข้าบ้านไม่ถูกแน่
เวลาผ่านไปจนตะวันตกดิน รถซุปเปอร์คาร์ก็ขับมาจอดอยู่หน้าบ้านแต่มีเพียงสาวน้อยเดินลงมาตัวเปล่าแค่คนเดียว เพราะนทีมีนัดกับเพื่อนๆเหมือนทุกวัน ขนาดโดนคุณพ่อลงโทษก็หนีมาพึ่งคุณอาทั้งใช้รถและบัตรเครดิตเพียงแค่วันเดียวยอดวงเงินก็เด้งมาเป็นหมื่น
“ไปไหนมาเจ้าขา!!” เสียงของศิลาดังมาจากด้านหลัง เจ้าขาจึงหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งกอดอกอยู่ตรงมุมสวนหย่อม
“ไปซื้อหนังสือแล้วก็ไปดูหนังมาค่ะ คุณนทีบอกว่าโทรขออนุญาตคุณอาแล้วแต่หนูไม่คิดว่าจะได้กลับมาเย็นเลย” เจ้าขาก้มหน้าสำนึกผิดแต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่เชื่อ
“ไหนล่ะหนังสือ!!” แม้จะรู้ว่าเธอไม่ได้โกหกเพราะยอดจากบัตรเครดิตมันขึ้นบอกหมดว่าเธอซื้ออะไรไปบ้าง แต่ดูแล้วเธอคงซื้อแค่หนังสือราคา399฿เท่านั้น เพราะยอดอย่างอื่นมันของหลานชายตัวดีผมหมด ทั้งน้ำหอม เสื้อผ้า นาฬิกา
“หนูลืมหยิบมาค่ะ อยู่ในรถคุณอาโทรถามคุณนทีก็ได้นะคะหนูไม่ได้โกหกเลย” สายตาของเธอเหมือนลูกแมวที่กำลังสำนึกผิดแต่มันทำให้เสือที่อยู่ในร่างกายของศิลาอยากจะตะครุบเธอเหลือเกิน
"แล้วทำไมเธอถึงไม่โทรมาบอกฉันเอง รู้ไหมว่าเป็นห่วงเกิดเป็นอะไรขึ้นมาฉันจะทำยังไงเจ้าขา สอนก็แล้ว พูดก็แล้ว นี่สองครั้งแล้วนะหวังว่าจะไม่มีครั้งที่สามนะเจ้าขา!!”
“ค่ะ คุณอาจะอาบน้ำเลยไหมคะหนูจะได้ไปเตรียมน้ำให้” เจ้าขารีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวจะถูกดุไปมากกว่านี้
“อืม วันนี้เข้ามาถูสบู่ให้ฉันด้วยก็แล้วกัน”
0_0 ถูสบู่ให้คุณอางั้นเหรอฉันต้องถูยังไง ต้องถูตรงจู๊ดจู๋ด้วยไหม แต่ฉันทำเขาโกรธฉันก็ต้องทำตามคำสั่งสิ ไม่อยากให้คุณอาโกรธเวลาเห็นคุณอาเครียดแล้วฉันไม่สบายใจเลย