บทนำ (2)

948 คำ
“ทำไมต้องซื้อห้องใหญ่โตขนาดนี้ด้วย” ปรานปราลินเอ่ยขึ้นเมื่อเดินทางมาถึงอพาร์ตเมนต์ที่พิมพิลาตกลงซื้อไว้ก่อนหน้าด้วยเงินที่ได้มาจากการขายบ้านหลังเก่า “ป้าน่าจะประหยัดเงินบ้างสิ” “นั่นมันเรื่องของฉัน นี่ฉันให้แกมาด้วยก็บุญแล้ว” “ไม่ต้องมาพูดให้ฉันสำนึกในบุญคุณหรอกเพราะเท่าที่รู้มาเงินที่ได้มาซื้อที่นี่ก็มาจากการขายบ้านของพ่อไม่ใช่รึไง” หญิงสาวสวนกลับจนคนสูงวัยกว่านิ่งเงียบไป ปลายฟ้าจึงเป็นฝ่ายออกโรงปกป้องมารดาเสียเอง “คุณลุงจดทะเบียนกับแม่ฉันก็เท่ากับว่าเป็นของแม่ฉันด้วยสิ” “แต่บ้านหลังนั้นมันได้มาก่อนที่พวกเธอจะเข้ามาในชีวิตพ่อด้วยซ้ำ” “งั้นก็ถือว่าเป็นค่าที่ฉันต้องเหนื่อยเลี้ยงดูปรสิตอย่างแกให้เติบโตมาเถียงฉันฉอด ๆ แบบนี้ก็แล้วกัน” พิมพิลาตัดบทก่อนจะจูงมือลูกสาวเข้าไปในห้องนอนซึ่งมีอยู่ห้องเดียวในอพาร์ตเมนต์ห้องนี้ ปรานปราลินที่ดูเหมือนจะกลายเป็นส่วนเกินจึงเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าสองแม่ลูกจงใจให้เธอหาพื้นที่ข้างนอกนี้เป็นที่หลับนอน “นี่ แล้วฉันล่ะ” “มันมีห้องนอนอยู่ห้องเดียว แกไปนอนในครัวเอาก็แล้วกัน” พิมพิลาปรายตามองอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อประตูห้องถูกปิดลงปรานปราลินจึงต้องหันไปเปิดกระเป๋าสัมภาระขึ้นมาจัดห้องของตัวเองในมุมห้องครัวเพราะรู้ดีว่าหากยังต่อปากต่อคำกับสองแม่ลูกต่อก็คงจะไม่มีประโยชน์ หญิงสาวใช้ผ้าม่านลายการ์ตูนที่หยิบติดมือมาจากบ้านหลังเก่าขึงพรืดเป็นมุมสี่เหลี่ยมเพื่อทำห้องเล็ก ๆ ของตัวเอง โดยยึดเอาประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังและระเบียงห้องไว้ ในเมื่อพิมพิลาไม่ให้เธอเข้าไปมีสิทธิ์ในห้องเธอก็จะยึดพื้นที่ระเบียงหลังเป็นของตัวเองเช่นกัน หลังจากใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ห้องนอนในฝันก็ถูกเนรมิตรขึ้น ปรานปราลินผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบเอาหนังสือเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกออกมาเปิดอ่าน เหลือเวลาแค่ไม่กี่เดือนเธอก็จะได้เรียนจบตามที่ฝันไว้แล้ว หากไม่มีพวกเจ้าหนี้มาคอยตามรังควานก็คงจะไม่ต้องลาออกจากโรงเรียนมากลางคันแบบนี้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นในเช้าของวันถัดมาหลังจากที่ใช้เวลาจัดห้องไปหนึ่งวันเต็ม พิมพิลาออกมาเปิดประตูห้องนอนด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักเพราะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาในขณะที่กำลังนอนหลับฝันดี “มีอะไร” หล่อนเอ่ยถามเมื่อเปิดประตูออกมาแล้วพบว่าปรานปราลินกำลังยืนอยู่หน้าห้องพร้อมด้วยเอกสารหนึ่งชุดในมือ “ฉันอยากเรียนต่อ ไปทำเรื่องให้หน่อย” หญิงสาวตอบกลับไปพลางยื่นเอกสารส่งให้พิมพิลาโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าคู่สนทนาด้วยซ้ำ เธอกำพร้าแม่มาตั้งแต่ยังเด็กและเพิ่งจะเสียพ่อไป คนเดียวที่เหลือและพอจะเป็นผู้ปกครองให้เธอได้ก็คงจะเหลือแค่แม่เลี้ยงตรงหน้านี้กระมัง “หึ ทำไมฉันต้องทำตามที่แกขอด้วย” “เพราะว่าครั้งหนึ่งพ่อฉันเคยมีบุญคุณกับป้าไง” “งั้นก็ฝันไปเถอะ เพราะฉันไม่มีวันให้แกได้เรียนแน่” พูดจบคนสูงวัยกว่าจึงตัดบทสนทนาด้วยการปิดประตูหนีทว่าปรานปราลินกลับรีบรั้งมันเอาไว้ได้เสียก่อน “ป้าต้องการอะไร ป้าถึงจะยอมเซ็นมันให้ฉัน” “เสียงดังโวยวายอะไรแต่เช้าคะแม่ ฟ้ากำลังนอนหลับสบายอยู่เลย” ปลายฟ้าลุกจากเตียงนอนเข้ามาสมทบ “ไม่เช้าแล้วมั้งนี่มันจะเที่ยงแล้ว ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนี้มันถึงไม่ลดลงเสียที” ปรานปราลินตอบเป็นนัยว่าสาเหตุที่แท้จริงคงจะมาจากความขี้เกียจสันหลังยาวของสองแม่ลูกนี้ “หุบปากของแกเดี๋ยวนี้นะนังแป้ง เพราะว่าแกปากเก่งแบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้แกเรียนหนังสือ” “แม่ ไปห้ามมันทำไมคะ” ปลายฟ้าอุทานหลังจากที่ฟังมารดาพูดจบ พิมพิลาหันไปมองหน้าลูกสาวด้วยความแปลกใจ ไม่นึกไม่ฝันว่าปลายฟ้าจะเข้าข้างปรานปราลิน “แล้วแกไปเข้าข้างมันทำไม” “หนูไม่ได้เข้าข้างมันซะหน่อย แม่ลองคิดดูสิถ้ามันมีวุฒิแค่ ม.สาม ไปสมัครงานก็คงจะได้เงินเดือนแค่นิดหน่อย ปล่อยให้มันไปเรียนต่อเผื่อมันสมัครงานแล้วได้เงินมา มันจะได้เอามาจุนเจือค่าใช้จ่ายบ้างไงแม่ หนูกับแม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย แล้วอีกอย่างมันแค่ขอลายเซ็นแม่ไม่ได้ขอเงินแม่นี่คะ” “อืม...ที่แกพูดมามันก็มีเหตุผล” พิมพิลาครุ่นคิด หล่อนเองก็ใช่ว่าอยากจะรับภาระเลี้ยงดูทั้งสองคนเดียวเสียเท่าไหร่นัก “งั้น...ฉันยอมให้แกเรียนก็ได้” ปรานปราลินเผลอยกยิ้มออกมาด้วยความดีใจแต่เมื่อได้ยินประโยคถัดมา รอยยิ้มนั้นก็ดูเหมือนจะจางลงแทบจะในทันที “กราบเท้าฉันก่อนสิ แล้วฉันจะยอมเซ็นให้” “นี่...” “เร็วสิ เดี๋ยวแม่ฉันก็เปลี่ยนใจหรอก” ปลายฟ้าเร่งรัด สายตาที่ส่งมาไม่เหลือความเป็นมิตรหลงเหลืออยู่เลยสักนิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม