เสียงหัวเราะขบขัน และเสียงเชียร์จากคนในห้องรับรองดังกังวานขึ้น สร้อยมาลาอยากจะร้องไห้ น้ำตาไหลซึมออกมา และก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามความต้องการของลูกค้า
ร่างอวบอัดกำลังจะลุกขึ้นยืนจากโซฟา แต่แขนของหล่อนถูกอนลคว้าเอาไว้เสียก่อน
“ผมคงต้องขอโทษคุณจอนด้วยนะครับ ที่สร้อยมาลาคงเต้นตามที่คุณจอนกับเพื่อนๆ ต้องการไม่ได้”
หล่อนช้อนตาขึ้นมองอนล ก็เห็นเพียงเสี้ยวหน้าคมสันเพียงเท่านั้น
“ทำไมล่ะครับ หรือว่าเลขาฯ ของพี่ชายคุณเต้นไม่เป็น”
อนลระบายยิ้มน้อยๆ และหันมาจ้องตากับหล่อน
“ใครว่าล่ะครับ คุณสร้อยเธอเต้นแซ่บมากต่างหากครับ”
จอนกับพวกหันมองหน้ากัน และก็พูดออกมาอย่างไม่เชื่อ
“ถ้าเต้นแซ่บจริงๆ แล้วทำไมถึงไม่เต้นให้พวกเราดูล่ะครับ ผมว่าราคาคุยมากกว่ามั้ง”
มือของอนลเลื่อนจากแขนเรียวขึ้นมาโอบรอบเอวของสร้อยมาลาเอาไว้ ซึ่งชายหนุ่มก็อดแปลกใจกับความเล็กคอดของมันไม่ได้
“แฟนคุณสร้อยหวงเธอมากน่ะครับ”
“เชยๆ แบบนี้มีแฟนด้วยเหรอครับ”
จอนเป็นคนถามออกมาเองด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ครับ และที่คุณสร้อยต้องแต่งตัวมิดชิดแบบนี้ ก็เพราะเป็นความต้องการของแฟนเธอนั่นแหละครับ”
“ผมไม่เชื่อหรอก”
“ใช่ๆ ผมก็ไม่เชื่อว่าผู้หญิงอย่างคุณสร้อยมาลาจะมีผู้ชายคนไหนมอง นอกจากพวกนิยมของแปลก”
ทั้งจอนและเพื่อนต่างพากันหัวเราะขบขัน จนสร้อยมาลาถึงกับตัวสั่นเทาเพราะความอดสู
อนลรับรู้ได้ถึงเนื้อตัวที่สั่นเทาของสร้อยมาลาผ่านอุ้งมือของตัวเอง ก็อดสงสารไม่ได้
“เชื่อเถอะครับ”
อนลย้ำเสียงดังกังวาน ก่อนจะจรดปลายจมูกลงบนแก้มนุ่มของสร้อยมาลา ท่ามกลางความตื่นตกใจของเจ้าของแก้ม
“เพราะผมคือผู้ชายคนนั้น”
ทั้งจอนทั้งเพื่อนและสาวสวยที่มาเอ็นเตอร์เทน ถึงกับมีสีหน้าประหลาดใจ
“นี่คุณสร้อยมาลาเป็นแฟนของคุณอนลเองเหรอครับ”
สร้อยมาลาส่ายหน้าไปมา และมองอนลอย่างตื่นตกใจกับสิ่งที่เขาทำ แต่อนลกลับยังยืนยันคำเดิมออกไป
“ครับ ผมกับคุณสร้อยมาลาเรากำลังคบหากันอยู่ และผมอยากจะบอกว่า ผมหลงเธอจนหัวปักหัวปำเลยล่ะครับ”
แล้วอนลก็ฝังปลายจมูกลงบนแก้มข้างเดิมของหล่อนอีกครั้ง ไอร้อนจากจมูกโด่งเป็นสันสวยงามของเขาแล่นพล่านไปทั้งกายสาว
ลมหายใจของสร้อยมาลาหอบกระชั้นจนแทบจะเป็นลม
“จริงไหมที่รัก”
“...”
“ผมรู้ว่าคุณอาย แต่คุณก็ควรจะบอกทุกคนบ้างว่าคุณน่ะมีแฟนแล้ว และแฟนของคุณก็คือผม สร้อยมาลา”
เขาทำลงไปเพราะช่วยหล่อนสินะ...
ในที่สุดสร้อยมาลาก็สามารถหาเหตุผลให้กับการกระทำของอนลได้สำเร็จ
“ค่ะ...”
หล่อนทำได้แค่ตอบรับตะกุกตะกักออกไปแค่นั้น และก็ยังนั่งตัวแข็งทื่อ เมื่อฝ่ามืออบอุ่นของอนลยังไม่ละไปจากเอวคอด
“งั้นพวกผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยครับ หวังว่าคุณอนลกับคุณสร้อยมาลาจะรักกันไปนานๆ นะครับ”
จอนยกแก้วเหล้าขึ้นชนกับอนล และก็ยื่นไปหาสร้อยมาลา
“ดื่มครับ”
สร้อยมาลาคว้าแก้วน้ำส้มขึ้นมาชน แต่จอนส่ายหน้าไปมา
“เปลี่ยนจากน้ำส้ม เป็นแอลกอฮอล์สักแก้วสองแก้วได้ไหมครับคุณสร้อยมาลา ถือว่าให้เกียรติผมและเพื่อนๆ ของผม”
สร้อยมาลาไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์มาก่อน แต่ก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของงานอีกแล้ว
“ด้วยความยินดีค่ะคุณจอน”
อนลเอามือออกจากเอวของหล่อน แต่ก็ยังเอียงหน้าเข้ามากระซิบถาม
“ผมไม่เคยเห็นคุณดื่มแอลกอฮอล์มาก่อนเลยนะคุณสร้อย”
“สร้อยดื่มได้ค่ะคุณอนล”
หญิงสาวตอบกลับเขาเสียงเบา ก่อนจะยื่นมือไปรับแก้วเหล้าที่น้องสาวสวยคนหนึ่งยื่นมาให้
หล่อนมองแก้วเหล้าอยู่ชั่วอึดใจ ก็ยกมือขึ้นเทหายเข้าไปในลำคอทั้งแก้วเลย
ผลที่ได้ก็คือหล่อนสำลักกับรสชาติขมฝาดของมัน และไอแค่กๆ
“ผมว่าคุณอย่าดื่มเลยดีกว่า สร้อยมาลา” อนลเอียงหน้ามากระซิบบอก เพราะอดเป็นห่วงหญิงสาวไม่ได้
“สร้อยไหวค่ะ”
สร้อยมาตอบ และหันไปฉีกยิ้มให้กับจอน ก่อนจะรับแก้วเหล้ามาไว้ในมืออีกครั้ง
หล่อนไม่รู้หรอกว่าจะต้องดื่มอีกกี่แก้ว สิ่งที่รู้ตอนนี้ก็คือ หล่อนจะต้องตามใจลูกค้าให้ถึงที่สุด เพราะไม่ต้องการทำให้งานเลี้ยงนี้พัง
“ดื่มอีกคุณสร้อยมาลา อีกแก้วครับ”
จอนกับพวกคะยั้นคะยอให้หล่อนดื่มเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่า จนตอนนี้ร่างกายของหล่อนร้อนผ่าวไปหมดแล้ว หน้าก็ร้อนเช่นกัน
“สร้อย... เริ่มมึนๆ แล้วล่ะค่ะ...”
“แย่จัง แค่สามสี่แก้วคุณสร้อยมาลาก็ไม่ไหวเสียแล้ว”
คำพูดของจอน ทำให้สร้อยมาลายอมรับแก้วเหล้าที่ยื่นมาตรงหน้า ขึ้นมาดื่มอย่างไม่มีทางเลือก
“สร้อยมาลา คุณหยุดดื่มได้แล้ว หน้าคุณแดงไปหมดแล้วเนี่ย” อนลอดเป็นห่วงไม่ได้
“สร้อยไหวค่ะ... ดื่มไปดื่มมา... มันก็อร่อยดีเหมือนกันนะคะ...”
หญิงสาวฉีกยิ้มหวานให้กับอนล แววตาหวานเยิ้มถูกทอประกายอยู่ใต้เลนส์แว่นหนา หากเป็นในยามปกติ สร้อยมาลาไม่กล้ามองเขาด้วยสายตาแบบนี้เป็นแน่แท้
“ขอเหล้าเพิ่มอีกแก้วสิคะ... สร้อยยังไม่เมาเลย...”