“อ๊ากกกกกกกกก...” เสียงร้องห้าวใหญ่ดังออกมาลั่นห้อง เมื่อเธอยกศีรษะขึ้นสูง ใช้ไรฟันกัดลงตรงบ่าของเขาเต็มรัก กัดแช่อยู่อย่างนั้นจนเขาต้องคลายมือที่พันธนาการข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ เพื่อนำมือข้างนั้นมาบีบ
แก้มทั้งสองข้างของเธอวินาทีนี้เองที่รวิษารอคอย เธอผลักร่างของอัคราที่ไม่ทันได้ตั้งตัวสุดแรง จนร่างของเขาหงายท้องบนที่นอน จากนั้นก็รีบเด้งตัวลงจากเตียง จุดมุ่งหมายต่อไปของรวิษาคือ ประตูห้องนอนที่ห่างไม่กี่เมตร แต่เวลานี้มันดูยาวไกลเหลือเกิน
รวิษาไม่รู้ว่าตนเองวิ่งไปได้กี่ก้าว ไม่รู้ว่าร่างของเธอนั้นห่างจากประตูมากเท่าไหร่ รู้เพียงว่าเวลานี้ร่างของตนนั้นเหมือนจะลอยอยู่ในอากาศ ก่อนที่แผ่นหลังจะกระแทกกับความหนานุ่มของที่นอน
“อย่าให้ฉันออกแรงมากนะ ไม่งั้นเธอเจ็บตัวแน่”
อัคราคำรามขู่กระต่ายน้อยที่ตนเองหมายจะขย้ำ ใช้ลำตัวทาบทับร่างเล็ก ตรึงข้อมือทั้งซ้ายและขวาของเธอด้วยมือของเขา
“ปล่อยมิ้นเถอะคะ อย่าทำมิ้น มีผู้หญิงอีกตั้งหลายคนที่พร้อมจะขึ้นเตียงกับคุณโอม อย่าทำอะไรมิ้นเลยนะคะ มิ้นกลัวมิ้นขอร้อง ฮือ”
ใบหน้าสาวนองไปด้วยน้ำตา ดวงตาของเธอคล้ายกับคนสิ้นหวัง แต่ก็ยังพยายามร้องขอความเห็นใจจากชายที่เวลานี้เปรียบดั่งอสูร
“แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากนอนกับผู้หญิงคนไหนนี่ ฉันอยากจะนอนกับเธอคนเดียว เธอรู้มั้ยว่าฉันไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนเท่าเธอมาก่อน” เขาหยุดพูด ก้มหน้ามองรวิษาดวงตาไม่ลดความปรารถนาลงเลยแม้แต่นิดเดียว “แล้วฉันต้องได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการด้วย”
ในความรู้สึกของอัคราเวลานี้ เขาไม่เคยปรารถนาสตรีคนไหนเท่ารวิษามาก่อนเลย นับตั้งแต่วันนั้น วันที่เขาขโมยจูบสาวซึ่งๆ หน้า อัคราครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่ตลอดเวลา รสชาติของจุมพิตสาวที่เขาลิ้มลองยังหอมหวานติดอยู่ในปากและความรู้สึก ช่างต่างกับความรู้สึกยามที่ได้ลิ้มรสสัมผัสจากหญิงอื่นที่เขาไม่เคยปรารถนาเป็นครั้งที่สอง แล้วสองวันมานี้อัคราเห็นเธอครั้งใดเขาก็อยากจะกระชากเธอมาจูบทุกครั้ง แต่ทว่ายังยั้งใจเอาไว้เพราะมีแผนเด็ดจะพิชิตสาวในใจ
ประโยคนี้เองที่ทำให้รวิษากลัวจับใจ หวาดหวั่นถึงขีดสุด เธอรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มี ดิ้นและส่ายตัวไปมา นอนกระเถิบร่างหวังจะได้หลุดพ้นจากอสูรร้าย
“ฮือ...คุณโอมปล่อยมิ้นนะคะ มิ้นไม่เต็มใจ อย่าหักหาญน้ำใจกันเลย อย่าทำมิ้น ฮือ”
เธอใช้คำพูดอ้อนวอนชายตรงหน้า น้ำตาสาวไหลบ่าไม่ขาดสาย สะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร
“ฉันจะทำให้เธอเต็มใจเอง ไม่ต้องห่วง”
น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความปรารถนาในตัวเธอเต็มล้น ดวงตาคมเข้มพราวระยับไปด้วยไฟเสน่หา
“อย่าทำมิ้นมิ้นไม่เต็มใจ อย่าทำมิ้นนะคะคุณโอม”
เป็นอีกครั้งที่เธอทั้งดิ้นและร้องขอความเมตตา รวิษาไม่เคยคิดว่าตนเองจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลย เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอัคราไม่เคยแสดงให้รวิษาได้เห็นเลยว่า เขาจะสนใจเธอ ตรงกันข้ามไม่สายตาแลเธอด้วยซ้ำ แล้วทำไมนะ ทำไม ทำไมเขาจึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เปลี่ยนไปเหมือนกับเป็นคนที่เธอไม่รู้จัก
อีกฝ่ายกระตุกยิ้มก่อนจะพูด “เธอก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนที่คุณพ่อคุณแม่ของฉันเลี้ยงดูเธอมาสิ เธออย่าลืมนะมิ้น อย่าลืมว่าที่เธอได้ดี อยู่สุขสบายอย่างนี้เพราะใคร อย่าทำตัวเป็นคนอกตัญญูไม่รู้บุญคุณคนไปหน่อยเลย นอนกับฉันก็เหมือนทดแทนบุญคุณคุณพ่อคุณแม่เหมือนกัน”
วาจาที่ไหลผ่านปากของชายหนุ่มตรงหน้า เรียกความตกใจและเสียใจต่อรวิษาเป็นอย่างมาก เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะได้ยินประโยคนี้ มันทั้งเจ็บและจุกไปหมด พูดอะไรไม่ออก สมองที่เคยคิดต่อต้านหยุดนิ่งกลางคัน ร่างกายเหมือนถูกสาปให้แข็งประดุจหิน ปากสั่น ดวงตาระริกไหวมีน้ำตาหยดไหลไม่ขาดสาย
หรือว่า...เวลานี้เธออยู่ในความฝัน ใช่...ฝันไปแน่ๆ เธอกำลังอยู่ในความฝัน ทุกคำพูดและการกระทำของอัครามันเป็นเพียงฝันร้าย ไม่ได้เกิดขึ้นจริง รวิษาต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น แท้จริงแล้วมันกลับไม่ใช่ ลมหายใจอุ่นร้อนจากโพรงจมูกของเขาที่กระทบกับแก้มของตน แล้วยังจะเสียงหัวใจของเธอที่เต้นระส่ำ ย้ำเตือนให้เธอรู้ว่าทุกสิ่งอย่างมันเป็นเรื่องจริง
บุญคุณและความกตัญญูเป็นเรื่องที่รวิษาตระหนักอยู่ทุกลมหายใจ ไม่มีวินาทีไหนเลยที่เธอจะไม่คิดตอบแทนบุญคุณครอบครัวที่ส่งเสียอุปการะเลี้ยงดูเธอ รวิษาเจียมตัวเจียมตน ดูแลบ้าน ดูแลอรรคเดชและทุกคนในตระกูลเนติรัตน์พิบูลเสมอมา เพราะคิดว่าเป็นการทดแทนบุญคุณทางหนึ่ง
แต่สิ่งที่อัคราพูดมันไม่ใช่ วิธีการตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนไม่ใช่แบบนี้ มันเป็นการบังคับกันมากกว่า ความเสียใจวิ่งเข้าวิ่งออกในหัวใจของรวิษา เธอกำลังเสียใจกับคำพูดและการกระทำของอัครา ชายหนุ่มที่ตนเองแอบหลงรักและเชิดชูมาหลายปี ความผิดหวังแทรกซ้อนเข้ามาในจิตใจ ส่งผลให้ความเสียใจทบทวีคูณมากขึ้น
“ทำไม...ทำไมคุณโอมถึงทำอย่างนี้ ฮือ” เธอถามเขาเสียงสะอึกสะอื้น
“ก็ฉันอยากทำมีอะไรมั้ย อีกอย่างคุณพ่อคุณแม่ก็เสียเงินเลี้ยงดูเธอมาตั้งหลายปี ถ้าปล่อยเธอไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ได้แค่สินสอดทองหมั้นนิดๆ หน่อยๆ เพราะคนอย่างเธอคงหาผู้ชายรวยๆ มาเป็นผัวไม่ได้หรอก คนรวยๆ เขาไม่มองผู้หญิงอย่างเธอแน่นอน หาได้แต่ตาสีตาสาที่มองคนระดับเดียวกัน ครอบครัวของฉันก็ขาดทุนน่ะสิ” เขาหยุดพูด แสยะยิ้มขณะมองหน้ารวิษา
“สู้ฉันคิดค่าบุญคุณกับเธอก่อนมันก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอ อีกอย่างนะฉันเป็นคนเบื่อผู้หญิงง่ายจะตายไป นอนแค่ครั้งสองครั้งก็ทางใครทางมัน รับรองว่าเธอไม่บุบสลายเครื่องยังไม่พังแน่นอน”
วินาทีนี้รวิษาอยากจะหยุดหายใจ วาจาของเขาช่างเจ็บแสบเหลือคณา หัวใจดวงน้อยๆ ที่กำลังเต้นแทบแหลกสลาย นี่หรือคือคำพูดของคนที่เธอรัก คือความรู้สึกของอัคราจริงๆ อย่างนั้นหรือ สิ่งที่เขากระทำลงไปทั้งหมดเพื่อเรียกต้นทุนที่ส่งเสียเลี้ยงดูเด็กกำพร้าคนนี้ใช่หรือไม่
ถ้าเป็นตามที่เธอคิดจริงๆ มันจะเป็นความเจ็บปวดที่ติดตัว ติดหัวใจไปตราบนานเท่านาน
“ฮือ...ฮือ” รวิษาไม่อาจเรียงร้อยคำพูดใดได้ เธอพูดไม่ออก ในความรู้สึกมีเพียงความระทมทุกข์เท่านั้น แล้วน้ำตาก็สื่อถึงทุกความรู้สึกที่รวิษามี
“เธอไม่ต้องร้องไห้หรอก เพราะฉันไม่มีวันปล่อยเธอ”
อัคราก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นกลายเป็นคนบ้าตัณหามากขนาดนี้ได้อย่างไร รู้ว่ารวิษาไม่เต็มใจ เห็นว่าเธอร้องไห้สะอึกสะอื้น ได้ยินเสียงเว้าวอนร้องขอความเมตตา รับรู้ว่าเธอดิ้นรนต่อสู้ แต่เขาก็ไม่คิดจะหยุดความตั้งใจ ยังคิดจะเดินหน้าต่อไป