บทนำ
เชียงราย ประเทศไทย
“น้าตรีขา หิวจังเลยค่ะ มีอะไรทานบ้างคะ” เสียงหวานที่ดังขึ้นบริเวณหน้าบ้านหลังน้อยท้ายฟาร์ม ส่งผลให้สองแม่ลูกซึ่งกำลังช่วยกันตั้งโต๊ะอาหารเย็นต้องพากันรีบออกมาดู ก่อนจะพบเข้ากับภาพคุณหนูของฟาร์มดวงมณี ฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้กำลังยืนส่งยิ้มหวาน แข่งกับตะวันที่ค่อยๆ ลาลับขอบฟ้าอยู่ไม่ไกล
“ทำไมไม่กินที่บ้านใหญ่” ก่อนจะกลายเป็นเสียงของคนหวงแม่ ที่เอ่ยขึ้นเบาๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังลอยไปถึงหูของอีกคนเข้าอยู่ดี
อินทุอร หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักกันดี ในฐานะลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคุณแรมเดือนกับคุณภานุวัฒน์ สองสามีภรรยาที่ตอนนี้หย่าร้างกันมานานกว่าสามปีกว่าแล้ว โดยที่อินทุอรนั้นอยู่กับพ่อ ส่วนเอกทัศน์ผู้เป็นพี่ชายนั้นอยู่กับแม่ ตามข้อตกลงที่มีไว้ก่อนหย่า
“ก็ฉันอยากกินที่นี่ ได้ใช่ไหมคะน้าตรีขา” เมื่อเห็นชัดแล้วว่าใครบางคน ที่มักจะชอบทำตัวเป็นปรปักษ์กับเธออยู่บ่อยๆ เริ่มทำตัวมีปัญหา
อินทุอร จึงหันไปเข้าทางผู้ใหญ่ ซึ่งก็คือคุณน้าจิตรี แม่ของเขาแทน ด้วยรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าเธอจะทำตัวแสบสันสักแค่ไหน ท่านก็พร้อมที่จะอ้าแขนปกป้องเธอแทบจะทุกครั้ง ซึ่งก็เป็นแบบนี้เสมอ นับตั้งแต่วันที่พ่อของเธอรับสองแม่ลูกเข้ามาทำงานในฟาร์ม
“เข้ามาก่อนสิคะคุณเรย์ นี่น้ากับตากล้ากำลังจัดโต๊ะเตรียมจะทานข้าวเย็นกันอยู่เลยค่ะ” เด็กสาวยิ้มรับต่อคำตอบ ก่อนเดินตามเจ้าของบ้านเข้าไปด้านในก็ไม่ลืมยักคิ้วให้ ‘คนหวงแม่’ หนึ่งที เป็นการเอาคืนที่เขาพูดไม่เข้าหู
“ตายแล้วคุณเรย์ นี่หน้าไปโดนอะไรมาคะ!” แต่แล้วเมื่อเดินตามคนทั้งสองเข้ามาด้านในบ้าน เสียงร้องตกอกตกใจของนางจิตรีก็ต้องดังขึ้นเข้าอีกหน และไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่สังเกตเห็นรอยแดงบนแก้มของอินทุอร กล้าตะวันเองก็เห็นสังเกตเห็นมันเหมือนกัน
และหากเดาไม่ผิด..นี่มันรอยฝ่ามือชัดๆ ที่รู้ก็เพราะเคยโดนอยู่บ่อยๆ และคนที่ทำก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนไกลนอกจากคนที่ได้แต่นิ่งเงียบไม่ยอมเปิดปากตอบคำถามที่แม่ของเขาเพิ่งจะถามออกไป
“เรย์ไม่อยากพูดถึงมันค่ะ” เมื่อคนถูกกระทำว่ามาแบบนั้น นางก็จำต้องเงียบเสียงลง แม้สุดท้ายแล้วจะรู้ดี ถึงต้นสายปลายเหตุของความหมางเมินระหว่างเด็กสาวกับผู้เป็นพ่อ ที่หมู่นี้มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ และเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยสถานะที่เป็นเพียงแค่ลูกจ้าง นางจึงไม่กล้าที่จะออกความคิดเห็นอะไรออกไปมากนัก เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่ว่านั้น
เรื่องมันเริ่มต้นที่คุณภานุวัฒน์ ผู้เป็นนายใหญ่ของที่นี่นึกอยากจะมีแม่เลี้ยงให้กับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ถึงได้พาวนิดา แม่ม้ายสาวที่มีลูกติดอยู่หนึ่งคน เข้ามาแนะนำให้ทุกคนได้ทำความรู้จัก ในฐานะผู้หญิงที่ท่านกำลังคบหาดูใจกันอยู่
แน่นอนว่าเรื่องในวันนั้นจบลงที่คุณหนูของนางเอาน้ำไล่สาดสองแม่ลูกจนต้องพากันกลับไปแทบไม่ทัน นางยังจำได้ดีถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผู้เป็นนายลงโทษลูกสาวต่อหน้าคนงานนับร้อยชีวิตด้วยการตี!
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นจบลง ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกจะแย่ลงเรื่อยๆ เพราะไม่ว่าใครจะพูดยังไง อินทุอรก็ยังยืนกรานเสียงแข็งเช่นเดิม ว่าเธอไม่ต้องการมีแม่เลี้ยงและผู้หญิงบ้านั่น. ก็ไม่เหมาะสมกับพ่อของเธอแม้แต่นิดเดียว
แต่ไม่ว่าเธอจะแข็งข้อยังไง สุดท้ายผู้เป็นบิดาก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าท่านต้องการให้สองแม่ลูกนั่นย้ายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่นี่ เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เด็กสาวจำต้องยอมรับสภาพอย่างคนไร้ซึ่งทางเลือก และนั่นดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ผิด เพราะไม่นานหลังจากนั้น ซึ่งก็คือวันนี้ ข่าวร้ายที่เธอไม่นึกอยากให้มันเกิดขึ้น ก็ดันเกิดขึ้นเข้าจนได้..
“น้าวันเขาท้อง เรย์กับแหวนกำลังจะได้เป็นพี่แล้วนะลูก ดีใจไหม” เรื่องสำคัญที่พ่อเอ่ยขึ้น ทำให้เธอไม่อาจทนเฉยได้อีกต่อไป
“มันไม่ใช่น้องของเรย์!” แค่ต้องทนอยู่บ้านเดียวกับปลิงสองแม่ลูกนั่นมันก็มากเกินพอแล้วแต่นี่ยังจะมีมารหัวขนเพิ่มมาอีกหนึ่ง
อย่าได้ฝันเลยว่าเธอจะทน!
อีกอย่างที่ยังนึกสงสัยอยู่ไม่หาย พ่อเธอแก่ขนาดนั้นจะเอาแรงที่ไหนไปทำลูกกัน! ไอ้เด็กที่กำลังจะเกิดมานั่นจะใช่น้องเธอจริงๆ รึเปล่าก็ไม่รู้
“หยุดก้าวร้าวได้แล้วยัยเรย์ แล้วก็รีบขอโทษน้าวันเขาเดี๋ยวนี้!” เพราะนึกอยากจะเอาใจภรรยาใหม่เสียงเข้มถึงได้ตวาดขึ้น ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เขาไม่สามารถจัดการขั้นเด็ดขาดได้ เพราะฝั่งหนึ่งก็คือภรรยา ขณะที่อีกฝั่งนั้นคือลูกสาว
“ไม่ค่ะ! เรย์ไม่ขอโทษ เพราะเรย์ไม่ได้ทำอะไรผิด คนพวกนี้ต่างหากที่ผิด ผิดที่หวังจับคนรวยๆ แต่โง่อย่างพ่อทำผัว!” สิ้นคำ ใบหน้าอ่อนหวานก็สะบัดไปตามแรงตบด้วยน้ำมือของผู้เป็นพ่อที่ขาดสติจนยั้งใจไว้ไม่ทันแต่ครั้นจะย้อนกลับไปแก้ไข ก็ไม่อาจทำได้
กี่ครั้งแล้วนะ...
ที่พ่อปกป้องคนพวกนั้นด้วยการทำร้ายเธอ!
กี่ครั้งแล้ว…ที่ท่านทำให้เธอกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าคนอื่น!
เธอได้แต่ถามตัวเองในใจ สายตาที่จ้องมองบิดานั้นเต็มไปด้วยความปวดร้าวอย่างถึงที่สุด ตั้งแต่จำความได้ ท่านไม่เคยลงไม้ลงมือกับเธอเลยสักครั้ง จนกระทั่งสองแม่ลูกนั่นก้าวเข้ามา ทุกอย่างก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ไม่เว้นแม้แต่ความรักของท่าน ที่นับวันก็ยิ่งต้องถูกแบ่งไปให้กับคนพวกนั้น คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอแล้วใยท่านต้องมาบีบบังคับ ให้เธอไปนับญาติด้วยกับพวกมันด้วย!
“หนูเรย์ พ่อขอ...”
“ช่างเถอะค่ะ เรย์เจ็บจนชินแล้ว ในเมื่อไม่ว่าเรย์จะพูดยังไง มันก็คงไปไม่ถึงสติของพ่อ ก็เชิญพ่อมีความสุขกับคนพวกนี้ต่อไปเถอะค่ะ เรย์ขอตัว...” เธอเอ่ยได้เพียงเท่านั้นก็รีบวิ่งหนีออกมาจากบ้าน บ้านที่ตอนนี้มันไม่ได้ให้ความอบอุ่นกับเธอเหมือนเดิมอีกแล้ว