บทที่8

1225 คำ
“หนูเรย์! ทำไมไปพูดกับพี่เขาแบบนั้น!” “เรย์มีพี่ชายแค่คนเดียวค่ะ ซึ่งก็ไม่ใช่หมอนี่ ว่ายังไงคะพ่อ เขามาทำอะไรในบ้านของเรา!” คนเป็นพ่อถึงกลับลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ยอมรับว่าสิ่งที่คิดจะทำต่อจากนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำ เพราะเมื่อเช้าเขาดันไปบังเอิญเห็นลูกน้องของพ่อเลี้ยงพันแสงมาด่อมๆ มองๆ อยู่แถวบริเวณหน้าบ้าน สิ่งที่เห็นทำให้รู้ได้ในทันทีเลยว่า อีกฝ่ายนั้นยังไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ ซึ่งนั่นมันคงไม่เป็นผลดีต่อตัวลูกสาวของท่านเท่าไหร่ ที่ต้องเดินทางไปทำงานทุกวัน ไหนยังจะต้องเดินเท้าเข้าซอยมาอีก ยอมรับว่ากลัวใจฝ่ายนั้นอยู่ไม่น้อย ด้วยไม่รู้ว่ามันจะส่งคนของตัวเองมาดักฉุดอินทุอรไปเมื่อไหร่! “ขอผมคุยกับคุณเรย์เองได้ไหมครับท่าน” เพราะเห็นเค้าลางบางอย่างในสายตาของผู้มีพระคุณเข้า กล้าตะวันถึงได้เอ่ยขึ้น ก่อนจะเป็นฝ่ายลุกขึ้นเดินนำคนเอาแต่ใจออกมายังบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ที่เขาจะบังเอิญได้เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้ ซึ่งถ้าให้เดาคนในรถก็คงเป็นลูกน้องของไอ้บ้านั่นแน่ “ผมยินดีที่จะชดใช้หนี้สินทั้งหมดของพ่อคุณให้ แลกกับการที่คุณต้องไปทำงานใช้หนี้ที่ไร่ของผม!” ชายหนุ่มเปิดประเด็นขึ้นทันทีที่ถอนสายตา กลับมามองคนที่วันนี้ดูอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด ยอมรับว่าเขาไม่ชินกับคุณหนูเรย์ในสภาพแบบนี้เท่าไหร่ แต่กระนั้นก็พอจะเข้าใจได้ว่าชีวิตของคนเราต้องเดินต่อ ต่อให้จะล้มลุกคลุกคลานสักแค่ไหนก็ต้องรีบลุกให้ไว ซึ่งเขารู้และเข้าใจถึงความรู้สึกเหล่านี้ดีที่สุด เพราะตัวเองและแม่เคยผ่านมันมาก่อน “ฉันไม่ไป!” ประโยคนี้ไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการจะได้รับ แต่กระนั้นก็พอจะเดาออกอยู่ก่อนแล้วว่าอาจจะได้ยินมันออกจากปากของคนเอาแต่ใจตรงหน้า ที่แม้ว่าวันเวลาจะเปลี่ยนให้เธอกลายเป็นผู้หญิงสวย แต่นิสัยนั้นกลับไม่ได้เปลี่ยนไปตามวันเวลาเลยแม้แต่นิดเดียว “เกรงว่าคนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้จะไม่ใช่คุณ!” ความจริงแล้วถ้าเลือกได้ เขาเองก็ใช่ว่าจะยินดีกับเรื่องนี้เสียเมื่อไหร่กัน! แค่คิดก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว “หมายความว่ายังไง!” “คุณท่านตอบตกลงรับทุกข้อเสนอของผมแล้ว เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าเตรียมตัวให้พร้อม ผมจะส่งคนมารับ!” กล้าตะวันกำชับเสียงแข็ง ก่อนจะเบือนหน้าหนีเสียงร้องโวยวายที่ยังคงดังให้ได้ยินอยู่ ทว่าสายตาของเขานั้น กลับไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากรถคันนั้น ทั้งหมดนี้เองทำให้คิดได้ว่าตัวเองทำถูกแล้วที่เลือกทางนี้! “เรย์ไม่ไปกับหมอนี่นะคะพ่อ ถ้าเรย์ไป แล้วใครจะดูแลพ่อละคะ” อินทุอรเปิดฉากขึ้นทันทีที่สามารถไล่อีกคนให้กลับไปได้ แต่กว่าที่หมอนั่นจะยอมกลับไปก็เล่นทำเธอประสาทกินอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เขาย้ำอยู่หลายหน ว่าจะไม่ยอมกลับไปหากเธอไม่เดินเข้ามาในบ้าน แล้วไล่ล็อกประตูหน้าต่างให้ครบทุกบาน ซึ่งครั้งแรกเธอไม่ยอมทำตามคำสั่ง จนเมื่อพ่อของเธอทำท่าว่าจะลุกไปทำด้วยตัวเองนั่นแหละเธอถึงได้ขยับตัว เพราะไม่อยากให้ท่านต้องเหนื่อย “พ่อดูแลตัวเองได้ หนูไปอยู่กับพี่เขาเถอะนะลูก” “มันมีอะไรที่มากกว่านี้ ใช่ไหมคะ” เธอเป็นลูกพ่อ ในขณะที่พี่ชายเป็นลูกของแม่ เพราะอย่างนั้นแค่มองตาท่านเธอก็รู้ได้ในทันทีเลยว่ามันต้องมีสาเหตุอื่น ที่ทำให้ท่านตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากหมอนั่น ซ้ำยังเป็นการขอร้องที่เกี่ยวเนื่องกับเธอโดยตรงอีกด้วย “เมื่อเช้าคนของไอ้พันแสงมาที่นี่ จนถึงตอนนี้พ่อก็คิดว่ามันน่าจะยังอยู่”ขนในกายของเธอลุกชันขึ้นทันทีที่ได้ยินคำตอบ ประจวบเหมาะกับความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นตลอดหลายวันที่ผ่านมานั่นอีก ความรู้สึกที่เหมือนกับว่ากำลังถูกจ้องมองตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องที่เธอคิดไปเอง แต่มันคือเรื่องจริง! เรื่องจริงที่มันกำลังเกิดขึ้นกับชีวิตเธอ และคนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนี้ก็คือไอ้พ่อเลี้ยงบ้านั่น คนที่ได้ทุกอย่างคืนไปจนหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธอไปง่ายๆ อยู่ดี! “ยิ่งรู้แบบนี้เรย์ยิ่งไม่อยากไปค่ะ ถ้าเรย์ไป แล้วพ่อละคะ!” ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าหมู่นี้พ่อของเธอดูอ่อนล้า ยิ่งได้เห็นเธอยังไม่อยากไป “พวกนั้นมันไม่กล้าทำอะไรพ่อหรอก เพราะคนที่มันต้องการตัวจริงๆ คือหนู ไม่ใช่พ่อ ไปเถอะนะลูกเรย์ ถือว่าพ่อขอร้อง ไปหลบอยู่ที่นั่นสักพักก่อน เอาไว้ถ้าไอ้พันแสงมันยอมตัดใจจากหนูได้เมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นถ้าหนูยังยืนยันคำเดิม พ่อจะตามใจหนูทุกอย่าง” เมื่อพ่อว่ามาแบบนี้ เธอจะไปกล้าขัดใจอะไรท่านได้ สุดท้ายก็ทำได้แต่ยอมพยักหน้าตอบตกลงกลับไป อย่างคนไม่มีทางเลือก ไม่มีจริงๆ เจ็ดโมงไม่ขาดไม่เกิน รถคันเก่าสภาพไม่สมประกอบคันหนึ่งก็แล่นมาจอดสนิทลงที่หน้าบ้าน ก่อนที่คนขับจะเอ่ยแนะนำตัวเองว่าชื่อ ขิง เป็นคนที่กล้าตะวันส่งให้มารับเธอไปที่ไร่ของเขา แน่นอนว่าทันทีที่เห็นสภาพรถเธอก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าหมอนั่นจงใจแกล้งกัน ซึ่งเธอจะไม่มีวันทำให้เขาสมหวังในเรื่องนี้แน่ ไม่มีวัน! “เรย์ไปนะคะพ่อ ไว้ไปถึงแล้วเรย์จะโทรหานะคะ” อินทุอรเอ่ยพร้อมหันกลับไปสวมกอดบิดาอีกครั้ง และไม่ลืมกำชับให้ท่านดูแลตัวเองให้ดี ส่วนเธอจะพยายามกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ เท่าที่จะพอทำได้ เป็นโชคดีของเธอและพ่อที่ได้เพื่อนบ้านเป็นน้ามุกกับปิ่นแก้ว สองแม่ลูกนั้นเปิดร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้าน นั่นเลยทำให้เธอตัดสินใจไปพูดคุยกับคนทั้งคู่ ก่อนจะได้ปิ่นแก้วที่อาสาจะมาคอยดูแลพ่อของเธอให้ แลกกับเงินค่าจ้างแสนแพงที่เธอยินดีจ่าย เพื่อแลกกับความสบายใจของตัวเองที่อย่างน้อยๆ จะมีคนมาคอยช่วยดูแลพ่อของเธอให้ ระหว่างที่เธอนั้นต้องย้ายไปทำงานใช้หนี้กับคนบ้าอำนาจที่ไร่ของเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม