7 เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวที่เหมาะสมกันที่สุด

1715 คำ
ณ ร้าน Pre wedding ชื่อดัง เจ้าสาวที่สวยที่สุดในตอนนี้ ส่วมชุดแต่งงานสีขาวฟูฟ่องสวยสะพรั่ง ประดับไปด้วยคริสตัลเม็ดงาม ว่าที่เจ้าสาว ส่องกระจกพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ชุดนี้ก็เป็นชุดที่เธอตั้งใจออกแบบและตัดเย็บด้วยตัวเอง ซึ่งก็ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มคุยกันเรื่องแต่งงาน จนเป็นชุดที่ออกมาสวยมากขนาดนี้ อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะถึงงานแต่งเธอแล้ว ซึ่งก็เป็นความฝันของผู้หญิงหลายคน ทุกคนก็อยากสวยที่สุดในวันแต่งงานของตัวเองทั้งนั้น เธอก็เลยทุ่มเททุกอย่างที่จะทำได้ เพื่อให้วันนั้นเป็นวันที่ดีที่สุดของเธอและเขา อริสาเดินออกมาจากห้องลองชุด พร้อมกับสายตาหลายคู่ที่มองมาที่เธอ แม้กระทั่งผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี ก็มองเธอตาไม่กระพริบเช่นกัน ก่อนที่เขาจะหันไปทางอื่น เพื่อปิดบังสายตาที่แพรวพราวเอาไว้ "ยัยริส OMG แกสวยมาก" แพมเพื่อนรัก ก็พูดขึ้นพร้อมกับทำตาโต เพราะวันนี้เพื่อนเธอสวยมากจริงๆ "เกินไปไหมยัยแพม" อริสาพูดพร้อมกับยิ้มให้เพื่อนรัก ที่เวอร์ชมเธอออกหน้าออกตา "สวยจริงครับเจ้ สวยแบบสวย" ทิวเขาผู้เป็นน้องชายก็เอ่ยชมเช่นกัน "อันนี้ก็เกินไปอีกนะทิวเขา" เธอก็พูดพร้อมกับมองหน้าน้องชายแล้วยิ้มให้ "เจ้าสาวก็สวยเจ้าบ่าวก็หล่อ ช่างเหมาะสมกันจริงๆ เลยค่ะ" เจ้าของห้องเสื้อก็พูดขึ้น อย่างชื่นชมทั้งคู่ "ของผมครบแล้วใช่ไหม" แล้วคีรินก็หันไปถามพนักงาน "ค่ะ คุณผู้ชายต้องการอะไรเพิ่มไหมคะ" "ไม่ครับ ถ้าของผมเสร็จแล้วผมจะกลับก่อน เพราะผมมีงานต้องทำต่อ" เขาพูดแบบไม่มีเยื่อใยกับเธอเลยสักนิด ทุกคนที่อยู่ภายในห้องก็ต่างพากันเงียบ เจ้าสาวสวยมากขนาดนี้ ทำไมเจ้าบ่าวดูไม่ตื่นเต้นอะไรเลย ทั้งยังทำสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด มีแต่เจ้าสาวที่ยิ้มอยู่คนเดียว "อ่อ ค่ะ" "พี่กลับก่อนนะ เธอก็กลับกับน้องชายเธอก็แล้วกัน" เพราะยังไงตอนที่มา เธอก็มากับน้องชายเธออยู่แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นอะไรต้องไปส่งเธอ "ค่ะ พี่คีย์กลับไปทำงานเถอะค่ะ" เธอก็ยังพูดด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้มเหมือนเดิม "อืม" เขาตอบแค่นี้เขาก็กลับเข้าไปเปลี่ยนชุด ก่อนจะเดินกลับออกมา ไม่ได้สนใจสายตาใครที่มองอยู่เลย พร้อมกับหยิบของของตัวเองแล้วเดินออกจากร้านไป "ไอริส" แพมก็เรียกด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ "อือ แกจะกินอะไรนะเที่ยงนี้" เธอถามเพื่อนเธอด้วยน้ำเสียงที่ปกติทุกอย่าง "แก ทำไม..." แพมที่เป็นเพื่อนเธอมาตั้งแต่สมัยประถม ก็รับรู้ถึงอะไรที่ผิดปกติ วันที่เพื่อนรักของเธอโทรมาบอกว่าจะแต่งงาน เธอดีใจมาก อยากให้อริสาได้มีความสุขกับชีวิตรัก แล้วยิ่งผู้ชายคนนั้น คือชอบป๊อบปี้เลิฟตั้งแต่สมัยเด็ก เธอยิ่งสนับสนุนเต็มที่ แต่พอมาเจอแบบนี้แล้ว ยอมรับตรงๆ ว่าอดแปลกใจไม่ได้ เหมือนผู้ชายคนนั้นไม่ได้สนใจเพื่อนเธอเลยสักนิด มีแต่เพื่อนเธอที่ยิ้มแย้มอยู่คนเดียว แต่พอจะถามก็เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น อย่างเช่นตอนนี้ "ว่าไงแกจะกินอะไร" "อะไรก็ได้ฉันแล้วแต่แก" "โอเค งั้นเราไปกินไอติมกันด้วยนะ ฉันไม่ได้กินมานานแล้ว เห็นทิวเขาก็บ่นว่าอยากกินเหมือนกัน" เธอก็พยายามพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อน เพราะไม่อยากให้คนอื่นไม่สบายใจในเรื่องของเธอ "อือ ได้สิ" แพมยังคงมองเพื่อนรัก ด้วยสายตาที่แปลกไป ก็เห็นได้ชัดว่าอริสา พยายามจะหลบสายตาเธอ "อ้าว ว่าที่สามีเจ้ไปลองชุดใหม่หรอ หรือไม่ชอบชุดที่ว่าที่ภรรยาออกแบบให้" พอออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เห็นว่าพี่เขย ทิวเขาก็เอ่ยแซวพี่สาวตัวเอง เพราะเห็นหมกมุ่นตั้งใจ อยู่กับการทำชุดได้เป็นเดือนๆ "กลับไปแล้ว" อริสาก็ตอบพร้อมกับฝืนยิ้ม "กลับไปแล้ว? เพิ่งมาได้ไม่ถึงชั่วโมงเองนะ แล้วชุดที่ลองโอเคแล้วเหรอ" ทิวเขาก็ถามขึ้นอย่างแปลกใจ "อือ พอดีพี่คีย์เขามีงานต่อ" "ได้เหรอวะเจ้ นี่มาลองชุดแต่งงานนะ มาแป๊บเดียวแล้วรีบกลับไปทำงานใช่หรอ" ทิวเขาก็ถามด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ "เถอะน่า อาทิตย์หน้าก็ถ่ายพรี Pre wedding แล้ว พี่คีย์ต้องกลับไปเคลียงาน เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ จะได้ไปกินข้าวกัน" "ทิวเขา" แพมก็เรียกทิวเขาเบาๆ ก่อนจะดึงแขนออกมาคุยกันอยู่อีกมุม "ต้องมีอะไรใช่ไหมพี่แพม" "อือ พี่ว่ามันต้องมีอะไร แล้วดูพี่คีย์เขาก็แปลกๆ" "แปลกตั้งแต่มาแค่ไม่ถึงชั่วโมงแล้ว" ทิวเขาก็พูดด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจ มีอย่างที่ไหน รีบมารีบกลับ ทำทั้งยังทำเหมือนไม่แคร์ความรู้สึกของว่าที่เจ้าสาวเลยแม้แต่น้อย "เห้อ ก็อยากให้เป็นแบบที่พี่คิดเลยนะ" "ผมก็ไม่อยากจะคิดต่อเหมือนกัน" หลายวันต่อมา ณ สตูดิโอถ่าย Pree wedding วันนี้ก็เป็นทิวเขาอีกเช่นเคยที่พาพี่สาวตัวเองมา เนื่องจากว่าที่เจ้าบ่าว โทรมาบอกว่าติดธุระด่วน ไม่สามารถไปรับที่บ้านได้ ให้มาเจอกันที่สตูดิโอเลย "โห้ สวยมากเลยเจ้" เมื่อเห็นพี่สาวตัวเอง แต่งชุดเจ้าสาวอีกแบบ ทิวเขาก็ตกตะลึงอีกครั้ง "ขอบใจจ้ะ" "แล้วนี่จะทำแบรนด์ตัวเองตอนไหนล่ะ" "ให้ป๊าหายก่อนค่อยว่ากัน" "ต้องคิดไว้บ้างแล้วนะ สถาปนิกคนนี้สแตนด์บายรอนานไม่ได้นะ งานล้นมือมากด้วยจะบอกให้" เนื่องจากทิวเขาก็จบทางด้าน สถาปัตยกรรม จากต่างประเทศมาเหมือนกัน แล้วตอนนี้เขาก็เป็นสถาปนิกฝีมือดี มีชื่อเสียงในวงการนี้ไม่น้อย "เดี๋ยวเจ้จะจองตัวไว้ มาทำให้ฟรีด้วยนะ" "หึ พิเศษสำหรับเจ้ผมจะคิดแพงๆเลย" "ให้ตายเถอะพี่น้องก็ไม่เว้น" อริสาก็พูดพร้อมกับสายหน้าเบาๆ "แล้วนี่ว่าที่เจ้าบ่าวของเจ้ล่ะ เรามากันชั่วโมงกว่าแล้วนะ" "ก็คงกำลังตามมาแหละ เห็นว่ามีประชุม" "เจ้ ผมไม่ได้จะว่านะ เขาอยากแต่งงานกับเจ้จริงๆใช่ไหม" ทิวเขาก็จ้องหน้าอริสาพร้อมกับถามออกมา ในเรื่องที่สงสัยมากที่สุดในตอนนี้ "อยากแต่งสิ ไม่อยากแต่งแล้วจะแต่งกันได้ยังไง" เธอก็พูดพร้อมกับหลบสายตาน้องชาย "ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ" เกือบ 2 ชั่วโมงแล้วที่นั่งรอ ว่าที่เจ้าสาวที่ไหน จะโดนปล่อยประละเลยได้ขนาดนี้ คิดแล้วก็ได้แต่สงสารพี่สาวตัวเอง "นั่นไงพี่คีย์มาพอดีเลย" อริสาก็พูดพร้อมกับยิ้มออกมา ความรู้สึกของเธอก็โล่งใจเหมือนกัน เพราะตอนที่โทรหาเขา เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ว่าเขากำลังติดงานอยู่ เดี๋ยวจะตามมา "พี่คีย์" เธอก็เรียกเขาพร้อมยิ้มออกมา "รีบถ่ายกันเถอะ ตอนบ่ายพี่มีประชุมต่อ" น้ำเสียงที่เย็นชากับหน้าบึ้ง ก็หวังว่าเธอจะรู้ว่าเขาคิดยังไงอยู่ "ตอนนี้ 11 โมงนะครับ แล้วจะกลับตอนบ่ายนี้หรอ" ทิวเขาก็ถามขึ้นด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ "อืม พี่มีงานต้องทำ" "แต่นี่ถ่าย Pre wedding นะครับ คู่รักปกติเขาใช้เวลาตั้งหลายวัน แต่นี่มาแค่ไม่กี่ชั่วโมง แล้วบอกว่ารีบกลับ แบบนี้จะมีภาพสวยๆได้ยังไง" "ทิวเขา" อริสาก็พูดพร้อมกับสะกิดน้องชายเบาๆ "ก็เอาเท่าที่มีก็แล้วกัน รีบไปถ่ายเถอะพี่ต้องรีบกลับ" พูดจบเขาก็เดินออกไปหยิบชุดแต่งงานที่ทีมงานเตรียมไว้ให้ใส่ แล้วก็เข้าไปเปลี่ยนชุดในห้อง "เจ้!" ทิวเขาก็พูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด "ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเจ้รีบไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ" พูดจบอริสาก็รีบไปเปลี่ยนชุดเช่นกัน ตอนนี้ทิวเขารู้แล้ว ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะไปในทางไหน ดูจากดาวอังคารก็รู้ ว่าคีรินไม่ได้อยากแต่งงานกับพี่สาวตนเลยแม้แต่น้อย แต่อาจจะเพราะผู้ใหญ่บังคับก็ได้ ซึ่งแบบนี้เขาเองก็ไม่เห็นด้วย แล้วความสุขของพี่สาวเขาจะอยู่ที่ไหน ทั้งไม่เข้าใจ กับการที่พี่สาวตัวเองอยากแต่งงานกับเขามากขนาดนี้ ซึ่งคนที่มีเหตุผลมากๆอย่างอริสา ก็ต้องมีอะไรแน่ๆที่เขาไม่รู้ "เจ้าบ่าวยิ้มหน่อยครับ" เมื่อถ่ายได้หลายภาพแล้ว เจ้าบ่าวมีแค่หน้าเดียว ช่างภาพก็ถึงกับบอกให้เขายิ้ม "ยิ้มหน่อยนะคะพี่คีย์" เพราะตั้งแต่ถ่ายมา มีเธอที่ยิ้มอยู่คนเดียว และเขาก็ไม่เต็มใจถ่ายเลยสักนิด จนในที่สุดก็ต้องฝืนยิ้มออกมา ให้ได้ภาพที่ช่างภาพต้องการ "ดีครับยิ้มแบบนั้นแหละ ยิ้มให้มีความสุขนะครับ" "เสร็จแล้วใช่ไหม" แล้วเขาก็ถามขึ้นเมื่อช่างภาพถ่ายรูปไปได้สักพัก "คะ...ครับ?" "ขออีกชุดแล้วผมจะกลับแล้วนะครับ" เขาพูดเสียงเรียบ "ได้ครับ" "..." อริสาในตอนนี้ก็ถึงขั้นหน้าเสีย เมื่อหลายสายตามองมาที่เขาและเธอ พอถ่ายเสร็จเซตนั้นจริงๆ เขาก็ขอตัวกลับในทันที ไม่สนใจเลยว่าเธอจะถ่ายอีกกี่ชุด เธอก็ได้แต่ข่มความเสียใจเอาไว้ ไม่กล้าแม้แต่มองหน้าน้องชาย ที่จ้องเธอเขม่งอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม