3 คุยเรื่องแต่งงาน

1673 คำ
ณ ภัตตาคารอาหารชื่อดัง เมื่อทั้งสองครอบครัวมากันโดยพร้อมเพรียงแล้ว ก็ต่างทักทายกัน แต่ยังขาดลูกชายตัวดี และว่าที่ลูกเขย ที่ยังมาไม่ถึง นี่ก็ล่วงเลยไปกว่า 30 นาทีแล้ว คนเป็นแม่ก็รีบโทรตาม แต่ลูกชายตัวดีของเธอนี่สิ ไม่รู้ว่ากำลังทำสงครามประสาทกับเธออยู่หรือเปล่า "สวัสดีค่ะเจ้าสัวชาตรี คุณศศิ" "สวัสดีครับ" "สวัสดีค่ะ" อริสากับศศิก็พูดทักทายขึ้นพร้อมกัน "หนูไอริส สวยจังเลยลูก น้าไม่คิดเลยว่าโตมาหนูจะสวยมากขนาดนี้" คุณเนตรก็พูดพร้อมกับชื่นชม ลูกสาวของเพื่อนสนิท และว่าที่ลูกสะใภ้ที่เธอเอ็นดูมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยความปลื้มใจ "ขอบคุณค่ะคุณน้า" อริสาก็พูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม "คุณเนตรกับคุณณรงค์ สบายดีนะคะ" "สบายดีค่ะ นี่ก็ไม่ได้ไปไปเยี่ยมหลายวันแล้ว สุขภาพเจ้าสัวคงดีขึ้นมากนะคะ มีหนูไอริสมาอยู่ด้วยแบบนี้" "ครับ ก็ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ตามประสานั่นแหละ รักษาตามอาการไป ไอ้เรามันก็แก่แล้ว จะไปยื้อได้นานแค่ไหนก็ยังไม่รู้" เจ้าสัวชาตรี พูดพร้อมกับยิ้มออกมา อย่างคนที่ปลงแล้ว "ป๊า" อริสาก็รีบพูดขึ้นเมื่อพ่อเธอพูดมาแบบนี้ ใจคนเป็นลูกอย่างเธอก็ถึงขั้นวูบไหว "ไม่หรอกครับเจ้าสัว เจ้าสัวดูแข็งแรงขึ้นมากเลย นี่ก็คงอยู่กับลูกกับหลานไปได้อีกนานแน่ๆ" คุณณรงค์ก็พูดขึ้นด้วยความห่วงใย "หลานเลยเหรอครับ งั้นเราก็ต้องมารอวันนั้นไปด้วยกันแล้วแหละ" ซึ่งตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เลย ว่าจะอยู่รอถึงวันนั้นไหวไหม "แล้วลูกชายของคุณเนตรล่ะคะ" ศศิก็ถามขึ้นเมื่อไม่เห็นว่าเขาอยู่ที่โต๊ะ จะว่าไปเข้าห้องน้ำนี่ก็นานแล้ว "เอิ่ม สักครู่นะคะ รถน่าจะติดมาก" คุณเนตรก็พูดพร้อมก้มหน้าหน่อยๆ "ค่ะ" ศศิก็ตอบด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจ "นั่นไงคะมาพอดีเลย" และในตอนนั้นอริสากับคีริน ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ต่างก็นิ่งมองกันจนตาค้าง สำหรับเธอแล้วเขาหล่อมาก หล่อกว่าที่เธอจินตนาการไว้เสียอีก แล้วคนที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่เด็ก และมาตอนนี้ก็ทำให้ใจของเธอเต้นแรงได้อีกครั้ง เขาคือว่าที่สามีเธอจริงๆ ใช่ไหม แค่คิดเธอก็ยิ้มในใจแล้ว เขาที่มองเธอเช่นกัน ก็ตกตะลึงในความสวยทั้งออกจะหวาน เขาที่ผ่านผู้หญิงมาเยอะแยะมากมาย เขาคงปฏิเสธไม่ได้ ว่าเธอดูดีกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเจอมาในลักษณะนี้ แต่ถึงยังไงเธอก็ยังไม่ใช่กับเขาอยู่ดี เพราะเขาไม่อยากรู้สึกอะไรกับเธออีกแล้ว "ทักทายท่านเจ้าสัว คุณศศิ แล้วก็หนูไอริสสิ" คุณเนตรก็รีบกัดฟันบอกลูกชายทันที ที่เขาเดินเข้ามา "ครับแม่" เขาตอบเสียงเรียบแบบไม่สบอารมณ์กับใคร "..." เธอได้แต่ก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาเขาอีก เพราะก็รู้สึกเขิน "สวัสดีครับเจ้าสัว คุณศศิ เอ่อ...น้องไอริส" เขาก็เดินเข้าไปทักทาย พร้อมกับก้มหัวให้ผู้ใหญ่ คนที่ดูก็รู้ว่าตอนนี้กำลังป่วย เมื่อเห็นแบบนั้นใจเขาก็หล่นวูบเหมือนกัน "คะ...ค่ะ สวัสดีค่ะพี่คีย์" "ไม่เจอกันตั้งหลายปี เป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้แล้วเหรอ" เจ้าสัวชาตรี ก็ลูบแขนเขาเบาๆ "ขอบคุณครับเจ้าสัว" เขาก็พูดพร้อมกับชำเหลือกไปมองคนที่นั่งข้างๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นว่าที่ภรรยาเขา เธอเอาแต่นั่งก้มหน้า ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเขา "เอาแบบนี้ดีกว่า เรียกว่าป๊า อย่างที่หนูไอริสเรียกเถอะ" "คะ...ครับ ป๊า" "..." เธอที่ไม่ได้พูดอะไร ก็เอาแต่ลอบมองเขา ดวงตาคม ใบหน้าเข้ม ปากได้รูป คิ้วหนา หน้าตาที่สุดแสนจะเพอร์เฟค ทำให้ใจบางของเธอเต้นเร็วรัวขึ้น "หนูไอริสก็เหมือนกันนะ เรียกน้ากับอาว่าพ่อกับแม่ได้แล้ว" คุณเนตรก็หันไปพูดกับอริสา ด้วยท่าทางที่ใจดี "คะ...ค่ะ คุณพ่อ คุณแม่" เธอก็ตอบอย่างตะกุกตะกัก แบบไม่ชิน "เรามาคุยเรื่องแต่งงานกันเถอะ" เจ้าสัวชาตรีก็พูดขึ้น "..." ตอนนี้สีหน้าเขาเริ่มเปลี่ยนไป ถึงแม้เธอจะสวย ก็ไม่ทำให้ความรู้สึกอยากแต่งงานของเขา เพิ่มมากขึ้นเลยแม้แต่น้อย อิสระทั้งหมดของเขาในตอนนี้ จะมาพังเพราะผู้หญิงคนนี้ แค่คิดเขาก็หงุดหงิดแล้ว "วันเวลาและสถานที่จัดงานตามที่คุยกันไว้ ส่วนเรื่องสินสอด ทางเราจะจัดให้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ให้สมเกียรติของท่านเจ้าสัวเลยค่ะ" "ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกคุณเนตร แค่เด็กสองคนเต็มใจจะแต่งงานกัน และตาคีย์ก็เต็มใจจะดูแลหนูไอริส แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว เรื่องสินสอดไม่เป็นปัญหาเลย สมบัติหนูไอริสเขาเยอะ แต่แค่คนดูแลเนี่ยแหละที่ไม่มี" เจ้าสัวชาตรีก็เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "ป๊า..." เธอก็มองผู้เป็นพ่อเธอด้วยสายตาที่สั่นไหว "ไม่เป็นไรเลยค่ะท่านเจ้าสัว ทางเราก็มีเยอะเหมือนกัน ตาคีย์เองก็มีเงินเป็นของตัวเองมากมาย เราไม่ได้เดือดร้อนเลยค่ะ รับรองว่าหนูไอริสจะสบายตลอดไป" "..." แล้วเขาเต็มใจจะดูแลเธอตอนไหน เธอก็รวยขนาดนั้นแทนที่จะไปหาใครที่รักจริง เพราะยังไงก็ไม่ได้หวังสมบัติจากคนอื่นอยู่แล้ว แต่ทำไมเธอต้องทำตามผู้ใหญ่ มาทนแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักอย่างเขาด้วย เมื่อกินข้าวอิ่มคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางผู้ใหญ่ก็ให้เด็กทั้งสอง ไปทำความรู้จักกัน เพราะตั้งแต่มาก็ไม่มีใครพูดกับใครเลยสักคำ ก็คงยังไม่คุ้นเคยกัน เพราะไม่เจอกันนานมากแล้ว ทั้งคู่ก็เดินตามกันออกมาจากห้องอาหาร แล้วก็ยังไม่มีใครพูดกับใคร ความเงียบก็ยังคงปกคลุมอยู่เช่นเดิม "ไอริส" แล้วก็เป็นคีรินที่พูดก่อน "คะ...ค่ะพี่คีย์" เธอก็ตอบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเขา ที่ตัวสูงกว่าเธอมาก "เธออยากแต่งงานไหม" เขาถามเสียงเรียบ "ริส เอ่อ...แล้วแต่ผู้ใหญ่ค่ะ" เธอตอบพร้อมกับก้มหน้าอีกครั้ง ไม่กล้าสบตาเขาเลย "แต่เราสองคนไม่ได้รักกันนะ" "ค่ะ...แต่มันเป็นความต้องการของผู้ใหญ่" "เธอจะทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักได้จริงๆ เหรอ" เขาก้มลงมองหน้าเธอ พร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น "เอิ่ม ริสก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ริสยังไม่เคยมีแฟน ก็เลยไม่รู้ว่า ถ้าอยู่กับคนที่ไม่ได้รักจะรู้สึกยังไง" เธอก็ตอบไปตามความจริง ชีวิตของเธอไม่เคยมีแฟนเลยซักคน วันๆ ก็เอาแต่เรียนกับทำกิจกรรม ทั้งไม่อยากทำให้ผู้เป็นพ่อต้องผิดหวัง "คนไม่ได้รักกันแต่งงานกันไป ไม่มีความสุขหรอกนะ" แล้วเขาก็เริ่มพูดกับเธออย่างมีเหตุผล เผื่อเธอจะไม่อยากแต่งเหมือนกัน เขาจะได้เป็นอิสระสักที "..." เธอก็มองเขาด้วยสายตาที่สั่นไหว เพราะเขาพูดเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอ "ถ้าเธอไม่อยากแต่ง เธอก็แค่บอกผู้ใหญ่ไป เราก็ช่วยกันพูด เผื่อว่าการแต่งงานจะได้ไม่ต้องเกิดขึ้น" "พี่คีย์หมายถึง..." "หรือเธออยากแต่ง" เขาก็หรี่ตาถาม "ก็..." เธอก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง พร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง "เงยหน้าขึ้นมา แล้วสบตากับฉัน" เขาจับแขนเธอเบาๆ เพื่อให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา "ริส..." "ว่าไง" "ค่ะ ริส แล้วแต่ผู้ใหญ่" ถึงแม้ในใจลึกๆ เธอแล้ว เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอชอบมาตั้งแต่เด็ก แล้วในวัยไร้เดียงสานั้น เขาก็เป็นคนขอเธอแต่งงาน ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว เจ้าบ่าวของเธอก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เขา เพราะจริงๆ แล้วการถูกคลุมถุงชนในครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เขา เธอก็คงไม่แต่ง "เธอบ้าหรือเปล่า" แล้วเขาก็พูดขึ้นเสียงดัง "..." จนเธอสดุ้ง "คนไม่ได้รักกันจะแต่งงานกันได้ยังไง เธออย่าตามใจผู้ใหญ่ให้มันมาก ถ้าเธอไม่อยากแต่งเธอก็แค่ไม่แต่ง แล้วเราสองคนก็ไปบอกผู้ใหญ่ ไม่ใช่อีกคนอยากแต่งอีกคนไม่อยากแต่ง แบบนี้จะยกเลิกได้ยังไง" เขาก็พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่เริ่มฉุนเฉียว "..." ส่วนเธอเองก็ตกใจจนน้ำตาคลอ นี่เขาไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอเลยสักนิดเลยใช่ไหม "โอเค อยากแต่งก็แต่ง เราจะแต่งงานกัน แล้วดูซิว่าเธอจะมีความสุขไหม" เมื่อเห็นใบนั่นสวยที่เคล้าน้ำตา ใจเขาก็อ่อนลงในทันที จนต้องพูดออกไปแบบไม่คิด "..." เธอที่ได้ยินคำพูดเสียดแทนจิตใจแบบนั้น น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างกั้นไม่อยู่ "กลับเข้าไปข้างใน ไปบอกผู้ใหญ่ว่าเราสองคนพร้อม จะแต่งงานกันตามนั้น ระหว่างนี้ฉันไม่เจอนะ รอเจอตอนทำนั่นทำนี่ทีเดียว นอกเวลาอะไรไม่ต้องนัดมา เพราะฉันไม่ได้ว่าง" พูดจบแค่นั้นเขาก็รีบเดินจากไป ปล่อยให้เธอยืนน้ำตาไหลอยู่คนเดียว "..."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม