สองชั่วโมงต่อมา สองสาวสวยของตระกูลเคนเวลล์เดินทางมาถึงร้านสปาชื่อดังซึ่งตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าในใจกลางแคลิฟอร์เนีย แต่เมื่อมาถึงก็ต้องหน้าหงิกคิ้วขมวดเพราะเจ้าของร้านเข้ามาแจ้งอย่างเกรงใจว่าตอนนี้เต็มหมดทุกห้อง
“จะเต็มได้ยังไงคะในเมื่อฉันจองไว้แล้วและจ่ายเงินไปแล้วด้วย!”
เจ้าของร้านมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เต็มทีให้ปัญหาใหญ่ของทางร้าน “คืออย่างนี้นะคะคุณน้องพาย...”
“ถ้าเหตุผลไม่ดีฉันจะยกเลิกการเป็นสมาชิก และจะป่าวประกาศบอกเพื่อนทุกคนที่สปาที่นี้บริการแย่แค่ไหน!” ณัฐชาพูดแทรกขึ้นเสียงเอาเรื่องทำให้พีชญาต้องผวามาจับแขนตนเองไว้ กลัวมีเรื่องกันกลางสปาชื่อดังที่ตอนนี้พนักงานมองมาเป็นแถว
“โธ่ คุณน้องพายใจเย็นก่อนนะคะ คืออย่างนี้ค่ะ พี่จัดห้องไว้สำหรับคุณน้องพายกับคุณน้องพีชแล้วนะคะ แต่ว่า เอ่อ มีลูกค้าวีไอพีเข้ามาใช้บริการโดยไม่ได้แจ้งก่อนน่ะค่ะ พี่ก็ลำบากใจ” พูดไปแล้วเจ้าของร้านก็แค้นใจลูกค้าสาวสวยคนดังกล่าวที่พูดยังไงก็ไม่ฟังจะเอาชนะท่าเดียว ยิ่งคุณเธอรู้ว่าคนที่จองไว้เป็นณัฐชาก็ยิ่งอยากได้ห้องนั้นมากขึ้นข่มขู่ทางร้านสารพัดจนหล่อนต้องยอมเปิดห้องให้ในที่สุด
“แล้วทีนี้พี่ก็เลยลงความเห็นว่าจะให้ฉันเป็นนางฟ้ายกโทษให้ทางร้าน แล้วยกห้องให้คนที่มาตัดหน้าฉันเหรอคะ ฉันจะย้ำอีกทีนะคะว่าฉันจอง จ่ายเงิน และนัดเวลาถูกต้องทุกอย่าง ทางร้านไม่ควรทำอย่างนี้กับฉันที่เป็นลูกค้าวีไอพีเหมือนกัน!”
“ฉันเห็นด้วยกับพี่สาวนะคะ ทางร้านทำแบบนี้เท่ากับหักหน้าพวกเราชัดๆ!”
“พี่... ก็ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ ขอโทษนะคะ” มาแชลลี่แคร์ลูกค้าสาวทั้งสองไม่อยากเสียไปแต่ลูกค้าอีกคนก็สำคัญไม่แพ้กันกลายเป็นรักพี่เสียดายน้องซะอย่างนั้น
ณัฐชาพยายามสงบสติอารมณ์เชิดปลายคางสวยขึ้นสูง ข่มอารมณ์โกรธเอ่ยถาม “ใครกันคะที่สำคัญจนพี่มาแชลลี่ทำอะไรไม่ไว้หน้าฉันกับน้องสาวแบบนี้”
“เอ่อ... คุณเอริน่า พอยเทียร์ค่ะ” ชื่อที่หลุดออกจากปากเจ้าของร้านทำให้ณัฐชาไม่คิดแปลกใจเลยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้ดึงดันอยากได้ห้องนั้นนักทั้งที่รู้ว่ามีคนจองแล้ว
“ยัยเอริน่า!” หล่อนแค่นเสียงหัวเราะ เดินผ่านเจ้าของร้านก้าวด้วยความมั่นใจไปยังห้องเบอร์สิบห้าทันทีโดยมีพีชญากับมาแชลลี่เดินแกมวิ่งตามหลังมา
“โอ๊ย! ตายๆๆ เละแน่ร้านฉัน คุณน้องขา คุณน้องพายใจเย็นๆ ก่อนนะคะ”
“พี่พาย อย่าเพิ่งวู่วามนะคะ ใจเย็นๆ ก่อน” พีชญาพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ในใจกำลังหวาดเสียวว่าจะเกิดสงครามเกิดขึ้นระหว่างสองสาวสวยหรือเปล่า ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าณัฐชาไม่ถูกกับเอริน่าตั้งแต่สมัยยังเรียนปริญญาตรีด้วยกันจนแยกย้ายไปเรียนปริญญาโทนั่นแหละถึงได้ห่างกัน
“โอ๊ย! กับยัยนั่นพี่เย็นไม่ลงหรอกพีช” ตอบขณะผลักประตูเข้าไป
“ว้าย!” มาแชลลี่ตกใจยกมือปิดปากรีบตามลูกค้าสาวทั้งสองเข้าไปในห้องสปาผิวที่ตอนนี้เอริน่ากำลังนอนทอดกายให้พนักงานนวดหน้าให้อย่างสบายอารมณ์ ฝ่ายณัฐชาที่เข้ามาข้างในไม่ส่งเสียงอะไรนอกจากทาบนิ้วชี้บนปากแล้วสั่งพนักงานให้ออกจากห้องไป
พนักงานสปามองเจ้านายตนเองสลับผู้บุกรุกอย่างไม่รู้จะทำยังไง มาแชลลี่ใจหายใจคว่ำสะบัดมือไล่ลูกน้องตนเองออกไปอย่างเร็ว ทางด้านเอริน่าที่ยังไม่รู้ตัวนอนหลับตาพริ้มจนกระทั่งมีตัวครีมบางชนิดละเลงลงหน้าตนเองก็กรี๊ดร้องลืมตาตื่นลุกขึ้นมาเอาเรื่อง ก่อนจะเห็นว่าใครเป็นคนทำก็ต้องกรีดร้องออกมาสุดเสียงอีกครั้ง
“นังพาย หล่อนกล้าดียังไงถึงทำกับฉันแบบนี้!” มือบางป้ายเนื้อครีมออกจากเบ้าตาตนเองเป็นสภาพเละ ทำให้พีชญากับมาแชลลี่ถึงกับแอบก้มหน้าหัวเราะ
“สมควรโดนซะบ้าง ทีหล่อนหน้าด้านแย่งห้องของฉันก่อนล่ะ” ณัฐชาหมั่นไส้! บีบเนื้อครีมให้พุ่งใส่เนื้อตัวขาวผ่องที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบกาย
“ไม่ได้แย่ง ฉันมาก่อนหล่อนตั้งนานย่ะ!” สาววายร้ายเถียงเสียงแหลม แสบตาก็แสบเจ็บใจก็เจ็บ เอริน่ากำหมัดแน่น
“อ๋อเหรอ!” ณัฐชาหยิบเนื้อครีมออกหลอดมาบีบอย่างเอาเป็นเอาตาย กัดริมฝีปากล่างข่มความโกรธไว้ไม่ให้ครุกรุ่นไปมากกว่านี้
“กรี๊ดๆๆ ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย”
“ไม่มีใครอยากช่วยผู้หญิงนิสัยไม่ดีอย่างหล่อนหรอกยะ!”
“นังพาย! วันนี้ถ้าฉันไม่ได้ตบหล่อนฉันไม่ยอม”
“เฮอะ! ก่อนจะตบฉันหาทางลงจากเตียงให้ได้ก่อนเถอะยะ”
“นังบ้า!” เอริน่าพูดแล้วกรี๊ดร้องควานมือเปะปะหาทางลงจากเตียงแต่มองไม่เห็นทางจึงลื่นไถลลงมานอนกองบนพื้นแต่ก็ไม่วายกรีดร้องอย่างนั้นจนดังไปทั่วสปาชื่อดัง พลิกกายไปมาเร่าๆ จนผ้าจะหลุดอยู่รอมร่อ มาแชลลี่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบรุดหน้าเข้ามาช่วยประคอง
“คุณน้องพายพอเถอะค่ะถือว่าพี่ขอร้องนะคะ เพื่อเป็นการขอโทษพี่จะจัดคอร์สพิเศษไว้ให้”
“ไม่จำเป็นค่ะ เพราะฉันจะย้ายไปทำงานที่ต่างรัฐคงหาเวลาว่างแวะมาไม่ได้!” ณัฐชาหยิบผ้าแถวนั้นมาเช็ดมือให้สะอาด ก่อนโยนทิ้งลงถังขยะ “เสียเงินสปาแค่สองคอร์สแลกกับความสะใจคุ้มจะตาย เราไปจากที่นี่กันเถอะพีช” ณัฐชาจับมือน้องสาวเดินออกไป
ส่วนเจ้าของร้านอย่างมาแชลลี่ก็ตะโกนตามหลังเสียงดัง เพราะตั้งมั่นในใจว่าจะไม่ยอมเสียลูกค้าวีไอพีไปสักคน! “ขอบคุณที่ไม่เอาเรื่องนะคะคุณน้องพาย ไว้ว่างวันไหนแวะมาใหม่นะคะ”
“บอกลามันพอหรือยัง!”
“พะ... พอแล้วค่ะ” เจ้าของร้านรุดหน้าเข้ามาช่วยประคองลูกค้าวีไอพีสาว “โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะคะ คุณเอริน่าไม่เจ็บมากใช่ไหมคะ”
“เจ็บสิถามได้! แต่ก่อนจะพูดอะไรช่วยพาฉันไปล้างหน้าทีเถอะแสบตาจะแย่อยู่แล้ว”
“ค่ะๆ”
ณัฐชายังไม่อยากกลับบ้านเร็วให้บิดามารดาสงสัยจึงพาน้องสาวมาดูเสื้อผ้าคอเลกชั่นใหม่ในร้านเจ้าประจำ มือบอบบางจับชุดนั้นชุดนี้ทาบตัวน้องสาวอย่างสนุกสนาน ชุดนี้ก็สวย ชุดนั้นก็เลิศ สรุปณัฐชาชอบเกือบหมดทุกชุด ปกตินั้นพีชญาไม่ค่อยแต่งตัวไม่ค่อยแต่งหน้าก็เลยเป็นเด็กหน้าหวานสวยแบบสาวเอเชีย
“ลองใส่ชุดนี้ให้พี่ดูหน่อยนะ”
“ได้ค่ะ” ถือชุดสวยเข้าห้องลองชุดไม่นาน พีชญาก็เดินออกมาพลางดึงชายกระโปรงให้ยาวลงไปอีก เขินอายสายตาของพี่สาวกับพนักงานห้องลองชุดสองคนที่กำลังปรบมือให้ ก็แหม... ปกติหล่อนเคยแต่งตัวด้วยชุดแบบนี้ซะที่ไหน เห็นแต่พี่สาวใส่แล้วสวยก็ไม่คิดอยากลองใส่บ้างเพราะคิดไปว่ามันคงจะไม่เข้ากับหุ่นบอบบางไม่สมส่วนของตนเอง
“สวยจ้ะ”
“สวยมากเลยค่ะคุณน้อง”
“เอ่อ พีชว่ามันสั้นไปนะคะ ใส่แล้วไม่มั่นใจเลย”
“สั้นที่ไหนกันแค่เหนือเข่าขึ้นมานิดเดียวเอง พี่ว่าชุดนี้เหมาะกับพีชนะเอาเป็นว่าพี่ซื้อให้ก็แล้วกัน เอาไว้ใส่ไปเที่ยวไปทานอาหารนอกบ้าน” ณัฐชาออกความเห็นสนับสนุน ยิ้มหวานเชิดปลายคางขึ้นเล็กน้อยราวกับจะให้น้องสาวทำตามเพื่อความมั่นใจ
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“จ้ะ เปลี่ยนชุดเถอะ พี่อยากแวะร้านขายเนกไทสักหน่อย”
“เนกไทผู้ชายน่ะเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ”
“พี่พายซื้อไปฝากใครคะ หรือว่าแด็ดดี้ แต่ของแด็ดดี้ก็มีเยอะแล้วนี่คะ”
“ความลับจ้ะ” ตอบยิ้มๆ
พีชญางุนงงเข้าไปใหญ่ แต่ไม่ได้ถามต่อกลับเข้าไปเปลี่ยนกลับชุดเดิม เนกไทเป็นของขวัญสำหรับผู้ชายที่หาง่ายที่สุด แล้วพี่สาวจะซื้อไปฝากใครได้ในเมื่อวันมะรืนก็ต้องเดินทางไปทำงานที่ซีแอตเทิลแล้ว เอ๊ะ! หรือว่าพี่สาวจะซื้อไปฝากคนที่ซีแอตเทิล
หลังจ่ายเงินเสร็จสรรพสองสาวสวยหัวเราะหยอกเย้ากันออกจากร้านเสื้อส่งถุงให้คนของบิดาช่วยถือแล้วจูงมือกันเข้าไปยังร้านขายเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ ข้างในลูกค้าไม่ค่อยเยอะมีบุรุษราวสามคนเดินเลือกของในร้านนอกนั้นก็พนักงานที่เดินตามล้อมหน้าล้อมหลังให้คำแนะนำ
“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
“ดิฉันอยากดูเนกไทค่ะ”
“เชิญทางนี้ค่ะ” พนักงานสาวผายมือเชิญ
ณัฐชาก้าวเท้าได้ไม่ถึงครึ่งก้าวพีชญาก็กระตุกปลายนิ้วเบาๆ ให้หันกลับไปมอง “มีอะไรเหรอจ๊ะ”
“พีชขอไปรอที่ร้านหนังสือนะคะ” ชี้นิ้วไปทางร้านหนังสือฝั่งตรงข้าม
“จ้ะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ถ้าเจอเอริน่าให้หลบไม่ก็เดินกลับมาหาพี่นะ”
“ค่ะ”
แยกกับน้องสาวแล้วณัฐชาเดินตามพนักงานมายังโซนเนกไทสุภาพบุรุษ ถูกใจหลายเส้น แต่ต้องตัดใจเลือกมากสุดสองเส้น นี่ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะยอมใส่หรือเปล่าแต่ก็ยังอยากจะซื้อไปฝาก อีกทั้งหล่อนก็อยากหาซื้อเสื้อคลุมไหล่ให้คุณย่าซาแมนธาใส่ในช่วงฤดูหนาวหนาวที่ใกล้เข้ามา
หญิงสาวหยิบเส้นสีควันบุหรี่เรียบไม่มีลายขึ้นมาดูเทียบกับเส้นสีดำลายขวางตัดสีขาว เทียบกันแล้วคิดว่าเส้นสีควันบุหรี่น่าจะเหมาะกับบุคลิกนิโคลัสมากที่สุด เท่าที่ตามข่าวและไม่ได้เจอกันมาหลายปีเขาเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยเข้าสังคม วันๆ เอาแต่ทำงานหนัก ตั้งแต่เลิกกับผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนเขาจะเปลี่ยนไปมาก
“แฟนของคุณผู้หญิงเป็นผู้ชายออกแนวขรึม ดุ เย็นชาเหรอคะ”
ณัฐชาเงยหน้าขึ้นมองพนักงานสาว พวงแก้มนวลเปลี่ยนเป็นสีแดง “ใช่ค่ะ แนวนั้น แต่เขาไม่ใช่แฟนฉันหรอกนะคะ”
“แหม ยากที่จะเชื่อนะคะ เลือกไปยิ้มไปแบบนี้” พนักงานสาวแซวยิ้มๆ หยิบมาเนกไทอีกเส้นมาส่งให้ลูกค้าสาว “ลองดูเส้นนี้สิคะ เนกไทสีเทาเหลื่อมเงิน ดูหรูหราและเหมาะกับผู้ชายแนวแฟนของคุณผู้หญิงมากค่ะ แบบนี้กำลังฮิตเข้ามากี่เส้นก็หมดลงในเวลารวดเร็ว”
หญิงสาวรับมาพิจารณาลายเส้นเนกไทอย่างมีความสุข
“สวยจังเลยค่ะ”
“สนใจอยากรับไหมคะ”
“ค่ะ เอาทั้งเส้นนี้ แล้วก็อีกสองเส้นที่ฉันเลือกไปเมื่อกี้นะคะ” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างเร็วหยิบบัตรเครดิตของตนเองออกจากกระเป๋า
“ขอบคุณค่ะ”
ในขณะรอพนักงานนำของมาให้ ณัฐชาเดินดูชุดสูทในร้านไปพลางๆ ไม่ทันระวังทำให้เดินชนกับชายร่างสูงที่กำลังยืนเลือกเสื้อสูท แรงชนทำให้ร่างบางผงะไปทางด้านหลังเกือบลื่นรองเท้าส้นสูงล้มลงโชคดีที่มืออุ่นคู่นั้นเอื้อมมาตวัดรอบเอวคอดทันท่วงทีทำให้ณัฐชาใจชื้น
“เป็นอะไรไหมนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากที่ช่วยฉันนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าคุณอยากตอบแทนช่วยเลือกเสื้อให้ผมหน่อยสิครับ ผมยืนเลือกนานแล้วแต่ยังไม่รู้ตัวตัวไหนเหมาะกับตัวเอง” ชายหนุ่มเปลี่ยนมือจากเอวคอดมายังเสื้อสูทหลากหลายสีมาทาบทับท่อนบนตนเองให้หญิงสาวช่วยเลือก ทว่าสาวสวยกลับส่ายหน้าแล้วหยิบสูทสีเทามาลองทาบทับตัวเขา
“รบกวนช่วยถือหน่อยค่ะ”
“ครับ”
หล่อนมีทีท่าครุ่นคิดเดินย้อนกลับไปหยิบเนกไทสีควันบุหรี่กลับมาทาบทับดูอีกรอบก่อนเผยยิ้มหวานหยาดฟ้า “นี่แหละค่ะเหมาะสุด คุณมีรูปร่างสูงใหญ่ช่วงไหล่ยาวอีกทั้งผิวคุณขาวใส่สีเทาเข้มแบบนี้ขึ้นมากๆ เสริมเนกไทตัวนี้เข้าไปอีกต้องหล่อมากแน่ๆ”
“ขอบคุณมากครับ ผมก็เลือกอยู่ตั้งนานสองนาน” ชายหนุ่มรับเนกไทจากสาวสวยมาส่งต่อให้พนักงานทั้งส่งต่อชุดสูทไปด้วย
“ยินดีค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” ณัฐชายิ้มหวานให้ชายหนุ่มรูปงามเมื่อพนักงานเดินเข้ามาหา โดยไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปล่ำราชายแปลกหน้าอีกหล่อนเดินออกไปหาน้องสาวทันทีทิ้งให้ชายหนุ่มคนนั้นมองตามจนสุดสายตา
‘คริสเตียน เมอร์ริสัน’ นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงแห่งปีมองตามเรือนร่างบอบบางเอวอ้อนแอ้นนั้นไปจนสุดสายตา “ใครกัน หน้าตาคุ้นชะมัดเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน”
ชายหนุ่มตามไปเคาร์เตอร์คิดเงินพอได้ถุงของเสื้อผ้าของตนเองแล้วรีบเดินออกไปนอกร้านเมื่อนึกได้แล้วว่าทำไมถึงคุ้นหน้าหล่อนนัก นัยน์ตาคมกริบสอดส่องมองหาอยู่นานก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ในขณะนั้นคนสนิทเดินเข้ามาช่วยถือของเขาจึงได้ทีถามเร็วระรัวจนลิ้นแทบพันกัน
“เมื่อกี้นายเห็นผู้หญิงลูกครึ่งเอเชียผมสีดำถูกมวยขึ้นสูง ตัวสูงน่าจะร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร เอวบางอ้อนแอ้นๆ สวมชุดเกาะอกแบบกระโปรงสีขาวเดินไปทางไหนไหม”
คนสนิทกะพริบตาปริบฟังไม่ทันแต่จับประเด็นได้ว่าผู้หญิงสวยเท่านั้น “เห็นครับ เธอเดินเข้าไปในร้านหนังสือ แต่เมื่อกี้ออกมาแล้วเดินไปทางนั้นครับ”
“แล้วก็ไม่รีบบอกแต่ทีแรก” สบถหนักแล้วรีบวิ่งตามไปทิศทางนั้นแต่จนแล้วจนรอดก็หาตัวหล่อนไม่เจอ เขาพานโกรธลูกน้องของตัวเองที่พูดอะไรชักช้าไม่ได้เรื่องทำให้เขาคลาดกับว่าที่คู่หมั้นอีกจนได้!
........................
จบตอน