หญิงสูงวัยหยิบธนบัตรส่งให้กนกหลายใบ ซึ่งคงหลายพันบาท แต่กนกกับลูกสาวได้ปฏิเสธที่จะรับ เพราะเธอทำทุกอย่างด้วยใจ ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนจากหญิงสูงวัย
“ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย แท็กซี่มาพอดีเลย ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะมาข้าวกับพวกเราอีกนะคะ” กนกยิ้มให้กับแขกคนแรกของบ้าน ในรอบหลายสิบปีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ฉันจะมาอีกนะ ขอบใจมาก อาหารมื้อนี้พิเศษมากๆ”
“ไปกันค่ะคุณยาย” แก้วกานดาเดินเข้ามาพยุงหญิงสูงวัยไปขึ้นรถ ขณะที่มารดากับน้องสาวของเธอยืนโบกไม้โบกมือให้กับหญิงสูงวัย
“แม่บอกให้ไปส่งคุณยายเป็นเพื่อนพี่หน่อย เรานี่ไม่ไหวเลยนะ”
“โธ่แม่จ๋า กิ่งมีการบ้านต้องทำนี่นา”
“เก็บจานชามไปล้างให้เสร็จก่อน”
“ค่ะ คุณนายกนก”
“เดี๋ยวเหอะ... ลูกคนนี้นี่” พอลูกสาวเดินไปเก็บจานที่วางอยู่บนโต๊ะอาหาร กนกรีบเดินเลี่ยงขึ้นไปบนห้องของเธอทันที ก่อนจะรื้อแฟ้มอัลบั้มรูปภาพเก่าๆ ออกมา ซึ่งภาพของประกายแก้วกับกิตติยังคงฉายแววความรักที่มีให้กัน ราวกับว่ามันจะไม่มีวันจืดจางหายไป
“พวกคุณสองคนคงได้อยู่ด้วยกันแล้วสินะ ฉันฝากคุณแก้วดูแลเขาด้วยนะ ไม่ว่าฉันจะเป็นตัวแทนของใครก็ตามที แต่ฉันก็รู้สึกดี ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายอย่างคุณกิตติ” หญิงวัยกลางคนยังคงเปิดดูรูปภาพเก่าๆ ซึ่งเธอเข้าใจดีว่ากิตติรักประกายแก้วมากเพียงใด
เพราะว่าชื่อของแก้วกานดามีที่มา เดิมทีหญิงสาวมีชื่อเล่นว่ากานดา แต่พอมารดาของเธอจากไป กิตติจึงเรียกลูกสาวว่าแก้ว เพื่อตอกย้ำในความรักที่เขามีให้กับประกายแก้วอย่างไม่เสื่อมคลาย
เมื่อคุณนายเรไรบอกพิกัด ซอกซอยเลขที่บ้านให้คนขับแท็กซี่ แก้วกานดาแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือบ้านหญิงสูงวัย เพราะเธอคิดว่าคุณยายคงจำผิด หรือไม่ลูกหลานของนางอาจจะทำงานที่บ้านหลังนี้
“คุณยายแน่ใจนะคะว่าใช่หลังนี้แน่”
“ใช่สิ เราเข้าไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้หลานชายไปส่งเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย เดี๋ยวแก้วจะให้คนขับแท็กซี่จอดรอ แป๊บหนึ่งนะคะ” หญิงสาวเดินไปกดออดหน้าบ้าน ก่อนจะเดินกลับไปคุยกับคนขับแท็กซี่ ซึ่งเธอไม่กล้าปล่อยหญิงสูงวัยเข้าไปในบ้านตามลำพัง เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่คุณยายพูดนั้นจะใช่ความจริงหรือเปล่า เพราะบางทีนางอาจจะจำที่อยู่ผิดก็เป็นไปได้
“อ้าว! คุณท่านกลับมาแล้ว ดีใจจังเลยค่ะ” เด็กรับใช้ในบ้านกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อะไรของหล่อน ฉันแค่ออกไปซื้อของ หนูแก้วมาสิลูกเข้าไปดื่มน้ำดื่มท่าก่อนค่อยกลับ” แก้วกานดารีบเดินเข้ามาหาหญิงสูงวัย ก่อนที่เธอจะเข้าไปข้างใน พร้อมกับกล่องใส่หมั่นโถว ที่คุณนายเรไรอยากเอามาฝากหลานชาย
“คุณย่า!” ครูซที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้องนั่งเล่น พอเห็นหญิงสูงวัยก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน เขารีบลุกเดินเข้าไปสวมกอดนางเอาไว้ ราวกับเด็กตัวเล็กๆ ที่เห็นมารดากลับจากที่ทำงาน
“วันนี้ไม่ไปค้างที่คอนโดหรือไง ปล่อยย่าได้แล้ว”
“จะไปได้ยังไงครับ ก็ผมรอคุณย่าอยู่นี่ไง ดีใจจังที่คุณย่าไม่เป็นอะไร แล้วนั่น...” ครูซเองถึงกับพูดไม่ออก เพราะยังคงจำใบหน้าของมารดาได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าจะเป็นดวงหน้ารูป คิ้วโก่งสวยราวกับจับพู่กันขึ้นมาวาดเอาไว้ แววตาใสซื่อ ริมฝีปากรับกับจมูกของหญิงสาว ช่างมีส่วนละม้ายคล้ายกับมารดาของเขาราวกับฝาแฝด
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อแก้วกานดา พอดีว่าแม่ของฉันไปเจอคุณยายขณะที่เดินออกมาจากตลาด หลังจากพาคุณยายรับประทานมื้อเย็นที่บ้านเสร็จ ฉันก็เลยพามาส่งที่นี่ อ้อ... นี่หมั่นโถวค่ะ คุณยายบอกว่าอยากเอามาฝากหลานชาย” แก้วกานดาส่งถุงผ้าที่ใส่กล่องเอาไว้ ซึ่งข้างในคือหมั่นโถวแสนอร่อย เจ้าประจำที่คุณยายซื้อรับประทานสมัยสาวๆ จากรุ่นสู่รุ่นร้านนี้ก็ยังคงขายดีเรื่อยมา
“ขอบคุณครับ” แววตาของครูซที่มองแก้วกานดาแฝงไปด้วยร่องรอยของความคิดถึง ทั้งที่คนทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ซึ่งปกติแล้วครูซเป็นคนเจ้าชู้ เขามักจะมองผู้หญิงทุกคนเป็นทาสทางอารมณ์ แต่ไม่ใช่แก้วกานดา ชายหนุ่งส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว ก่อนที่เขาจะส่งข้อความไปบอกลูคัสให้กลับบ้าน เพราะคุณย่าได้กลับมาแล้ว
“ด้วยความยินดีค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“ขอบคุณครับ อื้ม... อร่อยจริงๆ ด้วย” ครูซไม่ลังเลที่จะหยิบหมั่นโถวขึ้นมาชิม ขณะที่แก้วกานดารู้สึกชอบใจ ที่เขาเป็นผู้ชายไม่ถือตัว
“จะกลับแล้วเหรอหนูแก้ว” คุณนายเรไรพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะนางยังไม่อยากให้แก้วกานดากลับไป
“แก้วต้องกลับแล้วค่ะ คุณยายจะได้พักผ่อนยังไงละค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มบางๆ ให้กับคุณนายเรไร ซึ่งดูเหมือนว่าหญิงสูงวัยจะอิดออดไม่อยากให้เธอกลับ เพราะนางชอบคุยกับแก้วกานดา ประหนึ่งว่าหญิงสาวคืออดีตลูกสะใภ้ ที่กำลังหวนคืนกลับมา ทั้งที่ความเป็นจริงไม่มีทางเป็นไปได้เลย
“คุณท่านค่ะ วันนี้ออกไปข้างนอกทั้งวัน ขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนดีกว่านะ” แม่พรเป็นคนเก่าคนแก่ของบ้าน รีบเดินเข้าห้ามหญิงสูงวัย เมื่อเห็นนางมีท่าทีเหนี่ยวรั้งให้แก้วกานดาอยู่ต่อ
“แม่พร ทำไมถึงพูดราวกับว่าฉันเป็นเด็ก หนูแก้ว... ดื่มอะไรร้อนๆ หน่อยดีไหม” หญิงสูงวัยเอ็ดแม่บ้านออกไป กันจะหันมาถามแก้วกานดา พลางยิ้มบางๆ ให้กับเธออีกครั้ง ด้วยความรู้สึกรักและเอ็นดูเธอ
“ขอบคุณมากค่ะ พอดีว่าแก้วต้องกลับไปช่วยแม่เตรียมวัตถุดิบ เพื่อทำขนมไว้ขายพรุ่งนี้ เอาไว้ถ้ามีโอกาสแก้วจะแวะมาเยี่ยมคุณท่านนะคะ” แก้วกานดาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย เพราะหญิงสูงวัยที่เธอเรียกว่าคุณยาย ดูมีฐานะและชาติตระกูลที่สูงส่ง เธอจึงไม่ควรทำตัวสนิทสนมคุ้นเคยมากไปกว่านี้
“คุณท่านอะไรกัน เฮ้อ! สงสัยฉันคงต้องไปตลาดบ่อยๆ เสียแล้ว”
“เอาจริงเหรอครับคุณย่า แค่นี้ไอ้หมอมันก็แทบกินหัวผมอยู่แล้ว” ครูซพูดออกมา พลางกินหมั่นโถวไปด้วย ซึ่งทำให้แก้วกานดารู้สึกชอบท่าทีของเขาไม่น้อย เมื่อผู้ชายอย่างครูซดูสนใจอาหารที่ซื้อมาจากตลาด เขารับประทานโดยที่ไม่ได้สนใจในแหล่งที่มาของอาหาร เพราะถ้าหากเป็นผู้ชายคนอื่น ที่มีอีโก้สูงคงไม่แยแสหมั่นโถวราคาถูกๆ อย่างแน่นอน