ผมทำใจกลับไปเป็นครอบครัวกับพ่อที่ทำร้ายจิตใจแม่ เมียน้อยที่แย่งพ่อไปจากแม่ รวมไปถึงน้องสาวที่มีทุกอย่าง ต่างจากน้องสาวแท้ ๆ ของผมอย่างเวลา ที่สู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก
"แต่ไม่ใช่สำหรับผมครับ" ผมจึงปฏิเสธไปทันที การปล่อยวางไม่ใช่ทางที่ผมเลือกอย่างแน่นอน
"ฉันเพียงแค่มาเตือนให้นายไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เพราะผู้ใหญ่จับตาเรื่องนี้อยู่" ผู้จัดการกล่าวอ้างผู้บริหารที่กำลังจับตามองเรื่องของผมอยู่
ซึ่งก็เป็นอย่างนี้มาตลอด มีหลายครั้งที่ผมขัดขาเรื่องวัสดุกับทางผู้บริหาร พวกเขาก็จับตามองผมมาตลอด ตั้งนานแล้ว
"ผมจะเขียนใบลาออกมาให้ผู้จัดการเองครับ" ผมจึงหาทางออกให้กับตัวเองในตอนนี้ โดยที่ไม่เสียดายอะไรทั้งสิ้น หน้าที่การงานที่ผมสร้างมา หากจะไปที่อื่น ผมก็คิดว่าน่าจะมีคนรับผมเข้าทำงานโดยไม่สนใจอำนาจ ภูมิหลังของผม
ซึ่งก็คือบริษัทของน้องเขยผมที่แนะนำมา ผมไม่อยากให้คนอื่นมาว่าได้จึงปฏิเสธไปในตอนนี้แรก หากแต่ตอนนี้ผมไม่มีทางเลือก ก็คงจะยอมรับความช่วยเหลือจากน้องเขยสักครั้ง
"เวคิณ" ผู้จัดการมีสีหน้าที่ตกใจมากเมื่อได้ยินผมพูดแบบนี้
"หากที่นี่ไม่มีความเป็นส่วนตัวให้ผม ผมก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ" แต่ผมไม่ใส่ใจ ตอนที่ผมเข้ามาทำงาน ผู้จัดการบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ผมเอง แต่ในเมื่อเรื่องครอบครัวผม ทำให้ผู้บริหารเหล่านั้นไม่สบายใจ ผมก็พร้อมที่จะลาออก
"แต่นาย..." แต่ผู้จัดการกลับอยากจะรั้งผมไว้ คงเพราะที่ผ่านมาผมสร้างความดีความชอบให้กับบริษัทมากมาย
"พนักงานตัวเล็ก ๆ อย่างผมไม่สำคัญอะไรหรอกครับ" ผมกล่าวขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ ว่าบริษัทจะเป็นยังไง ในตอนนี้ผู้บริหารพวกนั้นกำลังบีบบังคับผม ฉะนั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
"แต่ที่ผ่านมานายสร้างผลงานมาโดยตลอด" ผู้จัดการกล่าวขึ้นด้วยความเสียดาย เพราะเขาเป็นคนพาผมมาทำงานที่นี่ เขารู้จักประสิทธิภาพในการทำงานของผมดีที่สุด
"แต่ตอนนี้พวกเขากำลังบีบให้ผมออกครับ" ผมตอบกลับไปเป็นเชิงบอกว่าคนที่มีปัญหาไม่ใช่ผม
"นายไปทำงานเถอะ เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง" ผู้จัดการจึงอาสาที่จะจัดการเรื่องนี้ให้กับผมเอง
"ครับ" ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอบรับและขอตัวกลัวไปทำงานเช่นเดิม
พอผมเดินออกมา ก็พบว่าด้านหน้าสำนักงานมีต้น ลูกน้องอีกคนของผมที่คอยทำงานช่วยเสมอยืนชะโงกหน้าทางนี้อยู่
"เป็นไงบ้างเฮีย" พอมันเห็นผมเดินออกมา ก็รีบเข้ามาถามทันที น้ำเสียงและสีหน้าของมันบ่งบอกว่าเป็นห่วงผม
"เหมือนเดิม" ผมตอบกลับไปด้วยท่าทางสบาย ๆ ไม่ได้คิดอะไร
"นี่เขาจะไม่ปล่อยเฮียไปเลยเหรอ" แต่คนที่เคืองกลับเป็นไอ้ต้นที่กำลังทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่
"เออ ช่างเถอะ แล้วนี่คนอื่น ๆ ไปไหน" ผมพูดปัดไป ไม่อยากพูดให้มากความกว่านี้ และถามหาคนงานคนอื่น ๆ ว่าไปไหนกันหมด
"ไปดูอีกโซนครับ" ต้นจึงรายงานให้ผมได้รู้
เพราะไซต์งานที่ผมทำอยู่ค่อนข้างจะใหญ่ จึงทำให้ต้องมีการแบ่งโซน วันนี้ก็คงจะมีงานอีกโซน ซึ่งเป็นงานของวิศวกรอีกชุด ที่ไม่ใช่ของผม
"อื้ม ไปทำงานเถอะ มีอะไรไปหากูที่ห้อง" ผมพยักหน้ารับรู้ และไล่ลูกน้องไปทำงาน ส่วนตัวผมก็จะไปทำงานเหมือนกันตอนนี้
"ครับเฮีย" ต้นตอบรับและเดินไปทำงานต่อตามที่ผมสั่ง
ส่วนตัวผมก็เดินไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
ทุกคนคงรู้แล้วว่าความเป็นมาเรื่องครอบครัวของผมเป็นยังไง
ในวันที่แม่ของผมรู้ตัวว่าท้อง จะกลับไปบอกกับพ่อ แต่ชายคนนั้นกลับพาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทำร้ายจิตใจแม่ อ้างว่าเธอท้อง และเขาต้องรับผิดชอบ คนที่เจ็บที่สุดอย่างแม่ไม่ยอม และขอหย่า เขาก็ปล่อยแม่มาอย่างง่ายดาย ซึ่งไม่มีแม้แต่จะเหนี่ยวรั้ง แม่ต้องทนลำบากเพื่อผมและน้องสาวในท้อง
ตั้งแต่ออกมาจากบ้านหลังนั้น ผมไม่เคยเห็นแม่ได้พักสบายเลย
จนกระทั่งผมโต แม่ยังต้องมาสู้กับโรคร้ายอีก และจากไปในที่สุด
ขณะที่ครอบครัวใหม่ของพ่อกำลังมีความสุข เพียบพร้อมทุกอย่าง
เป็นวันที่ผมกับน้องร้องไห้ เพราะสูญเสียแม่ ฉะนั้นผมจะไม่มีทางให้อภัยคนพวกนั้นเด็ดขาด
ว่าแล้วผมก็หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อกดโทรหาน้องสาวเพียงคนเดียวของตัวเอง
เป็นประจำที่ผมกับเวลาจะคุยกันทุกวัน แม้ว่าตอนนี้น้องสาวผมกำลังมีความรัก มีครอบครัวแฟนที่รักเธอเหมือนลูก เวลาก็ไม่เคยทอดทิ้งให้ผมรู้สึกเหงา หากวันไหนผมไม่โทรหา น้องก็จะโกรธ
ตู้ด ตู้ด ตู้ด